"นพดล ปัทมะ" ระบุ ฝ่ายอำมาตย์เป็นฝ่ายปล่อยข่าวลือว่า "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" เสียชีวิต หวังทำลายขวัญคนเสื้อแดง ยันตอนนี้ปกติสุขดี ย้ำ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" มีคนชักใยอยู่เบื้องหลัง...
25 เม.ย. นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
กล่าวถึงกรณีที่ยังมีเว็บไซต์สำนักข่าวต่างประเทศ เผยแพร่ข่าวพ.ต.ท.ทักษิณป่วยเป็นโรคร้ายจนเสียชีวิตว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ น้ำเสียงท่านยังสดใสร่าเริงดี และท่านยังบอกว่าข่าวลือเป็นโรคมะเร็งหรือเสียชีวิตแล้วเป็นเรื่องตลกไร้สาระ น่าจะลือในสิ่งที่ดีๆ บ้าง ไม่ใช่ลือแต่สิ่งไม่ดี ส่วนที่ระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ทวิตข้อความมาด้วยตัวเองนั้นก็ไม่มี ท่านเป็นคนที่มาโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ด้วยตัวเองอยู่ตลอด
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับสื่อที่ลงข่าวเท็จหรือไม่ นายนพดล ระบุว่า
ขณะนี้เราไม่รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือนี้ แต่คงเป็นกระบวนการของฝ่ายอำมาตย์ ที่ปล่อยข่าวผ่านสื่อในเครือข่าย ซึ่งเราคงไม่ไปสนใจ คิดเสียว่าการลือในทางร้ายมักจะเป็นผลดีเสียมากกว่า
นอกจากนี้ นายนพดล กล่าวด้วยว่า กระบวนการปล่อยข่าวลือในขณะนี้ ตนวิเคราะห์ว่าเป็นการกระทำที่หวังผลทางการเมือง
เพื่อหวังกระตุ้นให้พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินกลับมาตอบโต้ จะได้นำมาอ้างเพื่อดิสเครดิตกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินมาปลุกเร้ากลุ่มผู้ชุมนุม และจะได้ดิสเครดิตทำลายความชอบธรรมกลุ่มคนเสื้อแดงต่อไปอีกว่า ม็อบเสื้อแดงมาเคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียว ไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตย เพราะคนฝ่ายโน้นคงหวั่นไหวที่ม็อบเสื้อแดงสามารถสถาปนาการเคลื่อนไหวของเขาเป็นการชุมนุมต่อสู้เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ก็เลยออกมาปล่อยข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณเสียชีวิตแล้ว ซึ่งกระบวนการปล่อยข่าวลือครั้งนี้ไม่ใช่ปล่อยกันธรรมดา แต่ปล่อยกันหนาหูอย่างไม่ลดละ เพื่อหวังกดดันให้พ.ต.ท.ทักษิณออกมาพูดโฟนอินให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์มีท่าทีแข็งกร้าว ปฏิเสธการเจรจากับแกนนำนปช. และเงื่อนไขการยุบสภาใน 30 วัน
นายนพดล กล่าวว่านายอภสิทิธิ์ยังไม่ปิดโอกาสในการเจรจา เพียงแต่ต้องการบลัฟกลับเงื่อนไขของนปช. ไม่เอายุบสภาใน 1 เดือน ตอนนี้นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง เพราะต้องฟังคนที่ชักใยอยู่ข้างหลัง ท่าทีจึงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ทางออกของประเทศวันนี้ ทางเดียวคือการเจรจา นายอภิสิทธิ์ซึ่งอ้างมาตลอดว่าเป็นนักประชาธิปไตย คงไม่ดื้อดึงหรือไม่แยแสต่อกระแสเรียกร้องของประชานทั้งประเทศ ที่สะท้อนผ่านโพลต่างๆ ว่า อยากจะเห็นการเจรจา นายอภิสิทธิ์ไม่น่าละเลยต่อเสียงของของมหาชน ไม่มีใครทัดทานกระแสมหาชนที่อยากให้มีการเจรจากันได้