รพ.จุฬาฯ วอนผู้ชุมนุมอย่าบุกข่มขู่อีก

กรุงเทพฯ 24 เม.ย. – รพ.จุฬาฯ วอนผู้ชุมนุมที่ต้องการตรวจค้นอาคาร ให้ติดต่อมา อย่ายกพวกถืออาวุธบุกข่มขู่อีก เพราะทำให้แพทย์พยาบาลเสียขวัญกำลังใจมาก ยืนยันปฏิบัติหน้าที่เป็นกลางช่วยทุกฝ่าย ขอเสื้อแดงเปิดทางถนนราชดำริเข้าห้องฉุกเฉิน เผยดีเอสไอตรวจตึก ภปร.ไม่อยู่ในวิถียิงระเบิดใส่แยกศาลาแดง ขณะที่คนเจ็บยังอาการหนักอีก 1 คน ยังไม่พ้นขีดอันตราย แจงไม่เกี่ยว “นพ.ตุลย์” เป็นแกนนำคนเสื้อหลากสี


นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แถลงข่าวขอร้องไปถึงผู้ชุมนุมไม่ว่ากลุ่มใด หากต้องการตรวจสอบอาคารภายในโรงพยาบาลให้ติดต่อเข้ามาที่ฝ่ายรักษาความ ปลอดภัย อย่าถืออาวุธบุกรุกข่มขู่เข้ามา หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาเป็นกลุ่มใหญ่และขอเข้าตรวจค้นตึก สก.ซึ่งทำให้บุคลากร แพทย์ พยาบาล เสียขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมาก ทั้งมีความกังวลใจในความปลอดภัย และมีความยากลำบากในการเดินทางมาทำงานอยู่แล้ว


นพ.อดิศร กล่าวยืนยันว่า บุคลากรทุกคนจะยังปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ในการดูแลผู้ป่วยต่อไป แม้กำลังใจจะแย่ก็ตาม รพ.จุฬาฯ อยู่ในสังกัดสภากาชาดไทยที่มีความเป็นกลาง และจะดูแลผู้ป่วยผู้บาดเจ็บทุกฝ่ายทุกคนโดยเท่าเทียมกัน จึงขอร้องผู้ชุมนุมให้เปิดโอกาสให้โรงพยาบาลทำงานได้อย่างเต็มที่ อย่าเข้ามารบกวนการทำงาน ขณะนี้ใช้บุคลากรรักษาความปลอดภัยกันเองอย่างเต็มที่ และยังไม่เปิดโอกาสให้ตำรวจหรือทหารเข้ามา ทั้งนี้ บุคลากรทุกคนเรียนมาด้านการรักษาผู้ป่วย ไม่ได้เรียนด้านการรบ จึงมีความกังวล และไม่มีแผนใด ๆ รองรับหากเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย ซึ่งสุดท้ายหากไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ก็คงต้องถอย


ส่วนผลกระทบจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงด้านหน้าโรงพยาบาลนั้น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ กล่าวว่า มีบริการคลินิกพิเศษรักษาผู้ป่วยที่ต้องงดไปแล้ว และเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) คนไข้ใหม่ก็ลดลงกว่าร้อยละ 50 จากแต่ละวันต้องมีคนไข้ใหม่นับร้อยคน ส่วนผู้ป่วยในกว่า 1,400 เตียง ซึ่งได้รับผลกระทบจากเสียงการชุมนุม ก็ยังไม่รู้ว่าจะย้ายไปที่ใด รายใดอาการดีขึ้นก็จะให้กลับบ้าน และไม่รับคนไข้รายใหม่เพิ่ม นอกจากนี้ ขอให้ทางกลุ่มคนเสื้อแดงเปิดทางเข้า รพ.ด้านถนนราชดำริ จากแยกศาลาแดงมาถึงทางเข้าโรงพยาบาลอย่างน้อยครึ่งฟากถนน เพื่อให้รถฉุกเฉินเดินทางมาที่ห้องฉุกเฉินได้โดยสะดวกโดยไม่ต้องอ้อมเข้า ด้านหลัง เพื่อเพิ่มเวลาและโอกาสช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บได้มากขึ้น


ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ ยังกล่าวถึงผลกระทบจากเหตุระเบิดและเหตุจลาจลบริเวณแยกศาลาแดงเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ว่า มีกระจกตึก ภปร.แตกเสียหาย 1 บาน จากของแข็งกระแทก ขณะที่เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นับสิบนาย เดินทางมาตรวจสอบตึก ภปร.เพื่อตรวจสอบวิถีการยิงกระสุนระเบิดเอ็ม 79 ซึ่งได้รับคำยืนยันว่าตึก ภปร.ไม่ได้อยู่ในวิถีการยิงระเบิดได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ขึ้นไปบนตึก ภปร.นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากโรงพยาบาลไม่มีนโยบายให้บุคคลอื่นใดเข้ามาดำเนินการใด ๆ ในโรงพยาบาลเด็ดขาด


ส่วนผู้บาดเจ็บที่ยังอยู่ระหว่างรับการรักษา 18 ราย ล่าสุดกลับบ้านได้แล้ว 10 ราย ยังพักรักษาอาการบาดเจ็บอีก 7 ราย ขณะที่มี 1 รายอาการหนักยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู คือ นางวลัยพรรณ สังโฆ อายุ 51 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่สมอง มีบาดแผลและกระทบกระเทือนหนัก ต้องดูอาการเพื่อวางแผนการรักษาวันต่อวัน แม้ล่าสุดอาการดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ แต่ก็ยังไม่พ้นขีดอันตราย โดยมีโอกาสที่อาการจะทรุดลงร้อยละ 80


ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ ยังกล่าวถึง นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์์ แพทย์ของโรงพยาบาล ที่ไปเป็นผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน หรือกลุ่มคนเสื้อหลากสี ว่าเป็นการเคลื่อนไหวส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาล และทางโรงพยาบาลไม่มีการดูแลความปลอดภัยให้ นพ.ตุลย์เป็นพิเศษแต่อย่างใด.
ที่มาสำนักข่าวไทย


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์