กลุ่มสร้างสถานการณ์บริเวณสีลม ซึ่งวิ่งหนีเข้าไปในเขตแนวทหาร
เมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย. เว็บยูทูบเผยแพร่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้
โดนแบน นักข่าวสาวแฉทหาร ระบุปืนจี้หัวพตท. ห้ามจับม็อบสีลม
ตร.แฉถูกทหารเอาปืนจ่อหัวขณะตามจับม็อบหลากสีปาระเบิดเพลิง เผยรองผกก.ป.พระโขนงนำกำลังปจ.เข้าระงับเหตุม็อบหลากสีปาขวด-ระเบิดเพลิงใส่ม็อบแดง แต่ม็อบหลากสีวิ่งหนีเข้าแนวป้องกันทหาร
ตร.ตามเข้าไปจับกลับโดนนายทหารใช้ปืนจ่อหัวระบุว่าเป็นมวลชนของทหารจนตร.ต้องถอยกรูด "ปทีป"สั่งตรวจสอบแล้ว สั่งตร.ให้ใช้ความระมัดระวังด้วย ผบ.ทบ.สั่งกองทัพเช็กด่วนว่าทหารปืนดุเป็นใคร นักข่าวสาวช่อง 3 ทวีตในเน็ตยันมีเหตุการณ์นี้โดนต้นสังกัดสั่งแบน ไม่ให้รายงานข่าวแล้ว เจ้าตัวยันทำหน้าที่สื่อตามจรรยาบรรณ แกนนำนปช.-ส.ส.เพื่อไทย-เสธ.แดงจวกเทือกป้ายสียิงเอ็ม 79 จากฝั่งม็อบแดง ระบุระยะไกลเกินที่จะยิงถึง ชี้ต้องยิงยอดตึกใกล้จุดระเบิด ผู้ว่าฯกทม.ก็ระบุคนร้ายยิงจากมุมสูงเช่นกัน มาร์คเผยเสียใจมีผู้เสียชีวิตบาดเจ็บที่สีลม
จากเหตุการณ์คนร้ายยิงเอ็ม 79 จำนวน 5 ลูก ถล่มศาลาแดงและสีลมเมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บกว่า 80 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น กลุ่มคนเสื้อหลากสีที่ออกมาสนับสนุนรัฐบาล โดยหลังเกิดเหตุนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลงานความมั่นคง แถลงข่าวระบุว่า จากการตรวจสอบวิถีระเบิดเป็นการยิงจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณลานพระบรมรูป ร.6 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
-ณัฐวุฒิฉะเทือกโบ้ยนปช.ยิงบึ้ม
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 เม.ย. บริเวณหลังเวทีราชประสงค์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดที่ถ.สีลม ทำให้มีประชาชนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากว่า ในนามนปช.ขอแสดงความเสียใจและความห่วงใยไปยังครอบ ครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกราย เราไม่ประสงค์ให้คนไทยไม่ว่าเสื้อสีอะไรต้องบาดเจ็บล้มตาย เราต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองสู่ประชาธิปไตยโดยสันติวิธี นปช.ขอยืนยันว่าการยิงระเบิดเมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย. และทุกครั้งที่ผ่านมาไม่ใช่การลงมือของเรา ไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของนปช. เรายืนยันสันติวิธีและไม่เปลี่ยนแนวทางจากนี้
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขอเรียกร้องเจ้าหน้าที่ใช้กลไกตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริงจับกุมผู้ก่อเหตุนำมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด เราปฏิเสธและประณามความรุนแรงนี้ ทั้งนี้ นปช. ยืนยันสันติวิธีมาตลอด แต่มีความพยายามจากรัฐบาลที่จะโยนความรุนแรงว่าเกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผอ.ศอฉ. แถลงการณ์ทางโทรทัศน์หลังเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง ระบุจุดยิงกระสุนน่าจะมาจากพื้นที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.6 ซึ่งเป็นจุดที่คนเสื้อแดงชุมนุมอยู่หลายวัน การพูดของนายสุเทพหากกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองก็พอเข้าใจได้ แต่การพูดในฐานะรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ที่ต้องรับผิดชอบและพูดถึงท่าทีของรัฐบาลไทย จึงเป็นเรื่องที่รับไม่ได้
-ชี้เป็นไปไม่ได้ยิงบึ้มจากม็อบแดง
"พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ. ระบุในทางเดียวกัน ทั้งที่ยังไม่มีการพิสูจน์หลักฐาน เป็นเพียงการสันนิษฐาน กล่าวหาลอยๆ เพื่อทำลายความชอบธรรมของคนเสื้อแดง นปช.ยืนยันว่าเราไม่มีทางทำเช่นนั้น และไม่มีวันยอมให้ใครใช้พื้นที่การชุมนุมก่อเหตุรุนแรง" นายณัฐวุฒิกล่าวและว่า ขอตั้งคำถามว่าจุดที่นายสุเทพ ระบุนั้นมีคนจำนวนมากและมีสื่อสังเกต การณ์ในพื้นที่ หากมีใครยิงระเบิดจะไม่รู้ได้อย่างไร ไม่มีตารางนิ้วใดที่จะมีใครซุกซ่อนหรือซุ่มเล็งเอ็ม 79 ได้ ตนเข้าใจว่าการยิงเพื่อให้ตกตามเป้าหมาย ต้องมีท่าประทับยิง มีมุมเล็ง ดังนั้น จะแอบทำให้ลอดสายตาคนไปได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิได้นำภาพถ่ายต้นไม้หน้าอาคารซูริคเฮ้าส์ ถนนสีลม ซึ่งเป็นที่ตั้งของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีรอยฉีกขาดและรอยระเบิดที่บริเวณหน้าธนาคารกรุงศรีฯ โดยนายณัฐวุฒิระบุว่า ภาพดังกล่าวเป็นต้นไม้ด้านหน้าแบงก์ ติดกับโรงแรมดุสิตธานี มุมที่โดนกระสุนเป็นมุมที่หันหน้าให้ตึกสูงและหันหลังให้ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ถ้ายิงจากพื้นที่การชุมนุมเป็นไปได้กรณีเดียวคือ ยิงแบบสกรูถอยหลัง คนยิงจะไม่ใช่เพียงเชี่ยวชาญทางอาวุธสงครามเท่านั้น แต่ต้องเชี่ยวชาญการเล่นสนุ้กเกอร์ด้วย นี่เป็นการพิสูจน์อย่างเป็นรูปธรรมว่าระเบิดไม่ได้มาจากผู้ชุมนุม
"เหตุที่เกิดในถนนสีลมมีทหารอยู่เต็มไปหมด และที่มีนอกจากทหารคือคนที่อ้างว่าเป็นคนสีลม พื้นที่ที่มีทหารเต็มขนาดนั้นใครจะเข้าไปยิงได้ ยกเว้นคนที่ทหารเจตนามองไม่เห็นใช่หรือไม่"นายณัฐวุฒิกล่าว
-อ้างทวิตเตอร์นักข่าวแฉทหาร
นายณัฐวุฒิ ยังหยิบยกทวิตเตอร์ของ น.ส. ฐปนีย์ เอียดศรีไชย นักข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ซึ่งใช้ชื่อว่า "yam3miti" ได้โพสต์ข้อความไว้เมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย. โดยนายณัฐวุฒิ ระบุว่าเป็นการระบายความคับแค้นใจ และยกตัวอย่างการโพสต์ข้อความในหลายๆ ครั้งที่มีใจความว่า "นี่คือข้อเท็จจริงจากปากคำ ตำรวจ ยอมรับว่ามีชายฉกรรจ์ 20 คน ปาระเบิดขวด และตำรวจได้ไล่ตาม แต่ถูกทหารจับตัวเอาปืนจ่อหัว และบอกว่าไม่ต้องตามแล้วตำรวจ บอกคนสีลมหรือคนเสื้อหลากสีถูกจัดตั้งมา นี่คือข้อเท็จจริงขอให้คนอ่านใช้วิจารณญาณ เมื่อไปถามทหารแล้วทหารก็ไม่พูดอะไร แต่ตำรวจที่ถูกเอาปืนจ่อเป็นรองผกก. และระดับผบ.หมู่ เขาไม่เปิดเผยใบหน้า ทำได้เท่านี้ เมื่อนักข่าวไม่สามารถ รายงานได้หรือรายงานไปไม่มีใครเชื่อก็น่าเห็นใจสังคมไทยจริงๆ"
นายณัฐุวฒิ กล่าวว่า ถ้าเป็นจริงแสดงว่าบ้านเมืองนี้ตกอยู่ในสงครามกลางเมือง และสอด คล้องกับที่นายจตุพร เคยเปิดเผยว่า ที่ทหารควบคุมชุดปฏิบัติการมาแสดงเป็นผู้ชุมนุม และที่ต้องเอาปืนจ่อไม่ให้ตามไปเพราะกลัวว่า หากตำรวจจับได้ความจะแตกใช่หรือไม่
-ซัดมี"สห."อยู่ในม็อบหลากสี
"ผมขอระบุชื่อรองผกก.ดังกล่าวชื่อ พ.ต.ท. วิทวัส ชิณคำ รองผกก.ป สน.ทุ่งมหาเมฆ รัฐบาลมีความจริงอะไรจะอธิบายกับประชาชนหรือไม่ นอกจากนี้ผมได้รับรายงานจากตำรวจว่า ตำรวจทุ่งมหาเมฆควบคุมชายคนหนึ่งเดินในกลุ่มคนสีลม เมื่อเอาไปตรวจสอบกลับพบว่าเป็นสห. แล้วทหารก็มาเอาตัวกลับไป หากตำรวจยังโดนแบบนี้ คนเสื้อแดงจะโดนแบบไหน พฤติการณ์นี้จึงอธิบายว่าประเทศกำลังพิการ รัฐไทยกำลังถูกทำลาย คนเสื้อแดงกำลังตกอยู่ในอันตราย ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ พูดเองว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ขอให้รัฐบาลยุติปฏิบัติการและถอนกำลังทหารออกไปเสีย การตั้งทหารที่สีลมไม่ได้เพื่อปกป้องตั้งเพื่อปกป้องคนร้าย แต่เพื่อยิงระเบิดเพื่อทำลายความชอบธรรมคนเสื้อแดง เหตุการณ์นี้ไม่ใช่สีอื่นแต่เป็นสีเขียวล้วนๆ และเป็นสีเขียวที่อยู่กับรัฐบาล
-เปิดข้อความทวีตของ"ฐปนีย์"
สำหรับข้อความที่น.ส.ฐปนีย์ เอียดศรีไชย นักข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ซึ่งใช้ชื่อว่า "yam3miti" ทวีตในทวิตเตอร์ของตัวเอง มีใจความว่า "นี่คือข้อเท็จจริงจากปากคำตำรวจยอมรับว่าไล่กลุ่มชายฉกรรจ์ 20 คน ที่ปาระเบิดขวดวิ่งไปหลังแนวทหาร แต่กลับถูกทหารเอาปืนจ่อหัวบอกไม่ต้องตามต่อไป"
"ตำรวจบอกกลุ่มคนที่ก่อเหตุไม่ใช่คนสีลมหรือเสื้อหลากสี แต่เป็นกลุ่มจัดตั้ง นี่เป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่ความเห็นนะคะ"
"ถามทหารแล้วไม่พูดไร แต่ตำรวจที่ถูกเอาปืนจ่อหัวเป็นระดับรองผกก. และผบ.หมู่ แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่ยอมเปิดเผยใบหน้า ก็ทำได้เท่านี้ ย้ำแค่บอกสิ่งที่เห็น"
"เป็นเหตุหลังที่ตำรวจผลักดันปชช.ฝั่งสีลมกลุ่มหนึ่งออกไปแล้วจนเจอทหารซึ่งอยู่หน้าตึกซีพีค่ะ ก็แค่ทวีตให้ทราบตามปากคำและภาพที่เห็น"
"กรณีตำรวจบอกกลุ่มก่อกวนไม่ใช่คนสีลมหรือหลากสี คือกรณีเหตุเผชิญหน้ากะตำรวจหลังสี่ทุ่มที่แยกสีลม ไม่ใช่กรณี M79 นะคะ"
"ขอย้ำกรณีตำรวจบอกถูกทหารเอาปืนจ่อหัวเป็นกรณีไล่พวกปาระเบิดขวดยิงหนังสติ๊กตรงแยกสีลมตอน 5 ทุ่ม ไม่ใช่เรื่อง M79 ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร"
-แฉพตท.ถูกทหารเอาปืนจ่อหัว
รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่ามีนายตำรวจถูกทหารใช้ปืนจ่อศีรษะระหว่างติดตามเข้าจับกุมบุคคลที่สร้างความวุ่นวายในบริเวณแยกศาลาแดง ถนนสีลม เมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา นายตำรวจรายนี้ชื่อ พ.ต.ท.ไกรสีห์ สุวรรณงาม รอง ผกก.ป.สน.พระโขนง ซึ่งในคืนที่เกิดเหตุ พ.ต.ท. ไกรสีห์ได้รับคำสั่งให้มากำกับดูแลกองร้อยควบคุมฝูงชน (ปจ.) เพื่อป้องกันการปะทะระหว่างกลุ่มคนหลากสีกับกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งต่อมาช่วงกลางคืน กลุ่มคนเสื้อหลากสีพยายามใช้เศษวัสดุขว้างปาใส่กลุ่มคนเสื้อแดง แต่เนื่องจากตำรวจตั้งแนวกันการปะทะอยู่ระหว่างกลุ่มคนทั้งสองฝ่าย ทำให้วัสดุต่างๆ ที่ขว้างปา ตกใส่ตำรวจเป็นส่วนใหญ่
รายงานข่าวแจ้งว่าพ.ต.ท.ไกรสีห์ ซึ่ง ควบคุมการปฏิบัติอยู่สังเกตเห็นบุคคลที่ใช้สิ่งของและระเบิดเพลิงปาใส่กลุ่มเสื้อแดง จึงพยายามเข้าจับกุม เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น กลุ่มคนดังกล่าววิ่งหลบหนีเข้าไปในแนวของทหารที่อยู่ด้านหลังกลุ่มคนสีลม พ.ต.ท.ไกรสีห์วิ่งติดตามเข้าไป แต่ถูกทหารที่ถือปืนเอ็ม 16 กั้นไม่ยอมให้เข้าจับกุม แต่พ.ต.ท.ไกรสีห์แหวกทหารแนวแรกเข้าไป จนเมื่อมาถึงด้านหลังแนวทหาร ได้มีนายทหารสัญญาบัตร สวมหมวกและแว่นตากันสะเก็ดระเบิด ตรงเข้ามาประชิดตัวแล้วชักปืนพกสั้นออกมาจ่อศีรษะพ.ต.ท.ไกรสีห์ พร้อมกับบอกว่า ให้ตำรวจถอยออกไป อย่ามายุ่งกับคนเหล่านี้ เพราะเป็นมวลชนของฝ่ายทหาร พ.ต.ท.ไกรสีห์จึงแจ้งว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นผู้ก่อเหตุใช้สิ่งของขว้างปา จำเป็นต้องขอเข้าจับกุมมาสอบสวน แต่นายทหารนายดังกล่าวปฏิเสธ พ.ต.ท.ไกรสีห์และตำรวจที่ติดตามเข้าไปทั้งหมด จึงต้องถอนกำลังกลับออกมาเพื่อไม่ต้องการมีปัญหากับฝ่ายทหาร
แม่ค้าย่านสีลมที่ถูกระเบิดเอ็ม 79 เสียชีวิต ออกจาก ร.พ.จุฬาฯ
ไปบำเพ็ญ กุศล ด้วยบรรยากาศโศกสลด เมื่อวันที่ 23 เม.ย.
-ตร.ปจ.ก็แฉนาทีทหารจ่อปืน
ที่สน.พระโขนง ตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในชุดกองร้อยควบคุมฝูงชนของบก.น.5 เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ถล่ม 5 นัด ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ภายหลังเกิดเหตุกลุ่มคนเสื้อหลากสีได้ร่วมตัวกันอีกมีการประจันหน้ากันโดยกลุ่มคนเสื้อหลากสีได้ร้องตะโกนด่าทอ พร้อมกับขว้างปาสิ่งของทั้งขวดแก้วและไม้ ขว้างปากันไปมา พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 เป็นผู้ควบ คุมกำลัง จึงสั่งการพ.ต.ท.ไกรสีห์ ซึ่งเป็นผบ.ร้อยควบคุมฝูงชนของบก.น.5 (ปจ.) นำกำลังผลักดันทั้งสองฝ่ายมิให้ปะทะกัน พร้อมกับใช้แผงเหล็กกั้นบนถนนสีลมขาออกใกล้แยกศาลาแดงเป็น 3 ชั้น และกำลังควบคุมฝูงชนอีก 1 กองร้อย ปิดกั้นอยู่แยกราชประสงค์เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกัน จนทำให้กลุ่มคนเสื้อหลากสีไม่พอใจ ขว้างปาขวดแก้วใส่ตำรวจ จนตำรวจต้องสั่งล่าถอนกำลัง จากนั้นกลุ่มคนเสื้อหลากสีพังแนวกั้นกรูกันวิ่งที่ถึงบริเวณแยกศาลาแดง และปาขวดและยิงหนังสติ๊กเข้าใส่กลุ่มคนเสื้อแดง
ตำรวจคนดังกล่าวระบุอีกว่า เจ้าหน้าที่ควบ คุมฝูงชนได้ผลักดันกลุ่มคนเสื้อหลากสีถอยออกไปอีก สร้างความไม่พอใจพร้อมกับยิงหนังสติ๊กและปาขวดใส่ เจ้าหน้าที่จึงวิ่งกรูกันเข้าไปเพื่อจับกุมกลุ่มคนเสื้อหลากสีที่ปาสิ่งของใส่ตำรวจจนหนีแตกฮือไปหลังแนวทหาร ระหว่างตำรวจวิ่งเข้าไปนั้นพบว่าทหารได้เตรียมพร้อมในท่านั่ง และท่ายืนประทับปืนอยู่สองแถวพร้อมยิง เมื่อตำรวจวิ่งเข้าประชิดแนวทหาร จับกุมคนที่ปาขวดระเบิดใส่ได้ 6 คน มีนายทหารคนหนึ่งชักปืนพกขึ้นมาจ่อตำรวจ พ.ต.ท.ไกรสีห์จึงสั่งให้ถอนกำลังออก
-ปาบึ้มถล่มสวนลุมไนท์บาซาร์
ผู้สื่อข่าวประจำบช.น.รายงานว่า กก.ศร.บก. สปพ.(191) รายงานผลตรวจสอบการปฏิบัติตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันที่ 22 เม.ย.ถึง 05.00 น.วันที่ 23 เม.ย. ให้พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.ทราบ มีเหตุอุกฉกรรจ์เกิดขึ้น คือ เวลา 20.15 น.เกิดเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดง แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. ท้องที่สน.ทุ่งมหาเมฆ มีคนร้ายยิงเอ็ม 79 จำนวน 3 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย คือนายทวีชัย ฉัตรวิรักษ์ อายุ 27 ปี บาดเจ็บที่ศีรษะนำส่งร.พ.เลิดสิน ชาวต่างชาติอีก 2 ราย และเวลาประมาณ 20.40 น.คนร้ายยิงเอ็ม 79 อีก 2 ครั้ง ที่ลานจอดรถโรงแรมดุสิตธานี มีผู้บาดเจ็บหลายราย
เวลา 23.45 น.ท้องที่สน.ลุมพินี เกิดเหตุระเบิดภายในสวนลุมไนท์บาซาร์ ข้างอาคารบี 2 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. โดยตำรวจสน.ลุมพินีรับแจ้งว่ามีเหตุระเบิดภายในที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบพบว่าจุดระเบิดเกิดขึ้นที่ข้างอาคาร บี 2 ด้านข้าง ได้รับความเสียหาย โดยมีกระจกแตกร้าวและพบสะเก็ดระเบิดบริเวณผนังตึก เบื้องต้นทราบว่าระเบิดดังกล่าวเป็น ระเบิดแบบขว้าง เอ็ม 67 มีรัศมีทำการ 10-15 เมตร สะเก็ดไข่ปลา จากการตรวจสอบไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
-ตร.ปทุมฯรอพิสูจน์คลังน้ำมัน
รายงานข่าวระดับสูงบช.น. เปิดเผยว่า ศอฉ.มีคำสั่งให้ตำรวจที่ปฏิบัติการ ณ แยกศาลาแดง ขึ้นตรงต่อพล.ต.สุรศักดิ์ บุญศิริ ผบ.พล.ม.2 รอ. ซึ่งเป็นผบ.เหตุการณ์ในการขอพื้นที่คืนบริเวณแยกศาลาแดง สำหรับพล.ต.สุรศักดิ์เคยได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงเป็นผบ.เหตุการณ์ นำกำลังจากพล.ม.2 รอ. พล.1 รอ. เข้าสลายการชุมนุมแยกราชประสงค์ ตอน 04.00 น.วันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ผบ.พล.ม.2 รอ. ไม่เห็นด้วย เนื่องจากเกรงว่าก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนจำนวนมาก เพราะเป็นเวลากลางคืน จึงทำให้ไม่มีการปราบปรามม็อบเสื้อแดงในที่สุด
ส่วนกรณีคนร้ายใช้จรวดอาร์พีจียิงถล่มคลังน้ำมันขนาด 22 ล้านลิตรที่คลังส่งน้ำมันลำลูกกา ถนนลำลูกกา-คลองสิบหก ม.11 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นั้น พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรอให้ทางคลังน้ำมันทำการถ่ายน้ำมันที่อยู่ในคลังดังกล่าวออกให้หมดเสียก่อน โดยนัดผู้เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบในวันจันทร์ที่ 26 เม.ย.นี้ อาทิ เจ้าหน้าที่วิทยการเขต เพื่อตรวจหารายละเอียดของความเสียหายต่อไป
-หมอชี้สะเก็ดบึ้มทะลุอกเหยื่อ
วันเดียวกัน ศ.น.พ.อดิศร ภัทราดูรย์ ผอ.ร.พ. จุฬาลงกรณ์ ร่วมกับน.พ.ธีรโชติ จองสกุล ผอ.ศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพและหัวหน้าภาคนิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ แถลงผลชันสูตรพลิกศพน.ส.ธันยนันท์ แถบทอง อายุ 50 ปีที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากหัวใจฉีกขาด มีเลือดออกในถุงเยื่อหุ้มหัวใจ จากบาดแผลฉีกขาดทะลุเข้าบริเวณหน้าอก เศษโลหะทะลุเข้าสู่ร่างกาย
ทางด้านรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานข้อมูล เพื่อสรุปกับเจ้าพนักงานต่อไป การชันสูตรดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ทำร่วมกับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน พนักงานอัยการ พนักงานฝ่ายปกครอง และบุตรของผู้เสียชีวิตเพื่อสร้างความโปร่งใส
ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสและได้รับการผ่าตัดสมอง 1 ราย วันนี้แพทย์ได้ผ่าตัดสมองอีกครั้ง และอาการอยู่ในขั้นสาหัสมาก ซึ่งแพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันโรงพยาบาลมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องใช้สถานที่ และขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง เปิดทางบริเวณถนนราชดำริให้สามารถลำเลียงผู้บาดเจ็บเข้าสู่แผนกฉุกเฉินได้รวดเร็วขึ้น
-ลูกเหยื่อประณามมือระเบิด
วันเดียวกัน ร.ต.ต.สุรพงษ์ ทองประไพ ร้อยเวรสน.ปทุมวัน เดินทางมาสอบปากคำนายพัชร เล้าทนัน อายุ 23 ปี บุตรชายนางธันยนันท์ แถบทอง อายุ 51 ปี ผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดเอ็ม 79 ถล่มสีลม ที่ร.พ.จุฬาฯ
นายพัชรเปิดเผยว่า เมื่อคืนแม่ออกจากบ้านย่านบางรัก เพื่อมาให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แยกศาลาแดง แต่กลับมาเจอกับเหตุระเบิดจนถึงกับเสียชีวิต ขอประณามผู้ที่ก่อเหตุครั้งนี้ รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงที่ขัดขวางไม่ให้รถพยาบาลที่จะนำร่างของแม่ที่บาดเจ็บไปส่งร.พ.จุฬาฯ รถพยาบาลถูกขัดขวางไม่สามารถเข้าไปได้ จนรถพยาบาลต้องวิ่งวนไปวนมาถึงสามรอบ ทำให้แม่ต้องเสียชีวิตดังกล่าว จึงขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้ได้โดยเร็ว หากปล่อยไว้ก็จะมีคนตายมากไปกว่านี้อีก
-ร.พ.กรุงเทพยังรักษาตัวอีก4
ที่ร.พ.กรุงเทพคริสเตียน นายสมชัย ศิริสุจินต์ รักษาการผจก.ร.พ. น.พ.ยุทธศักดิ์ ตั้งสุขสันต์ รองผอ.ร.พ. และน.พ.ชูศักดิ์ วงศ์สุรีย์ รองผอ.ร.พ.สายการแพทย์ แถลงสรุปยอดผู้บาดเจ็บเหตุยิงเอ็ม 79 ที่นำส่งร.พ.ทั้งสิ้น 34 ราย เป็นชาย 19 คน เป็นหญิง 15 คน ที่เหลือกลับบ้านได้ ส่วนผู้บาดเจ็บที่ส่งต่อไปยังร.พ.พระมงกฎฯ เป็น ทหาร 1 ราย ส่งร.พ.เลิดสิน 6 ราย รักษาตัวที่ ร.พ. กรุงเทพคริสเตียน 4 ราย คือ นายบุญญเกียรติ ศรีโพธิ์งาม อายุ 23 ปี นางพรทิพย์ วรรณวิมลสุข อายุ 47 ปี นายไหคิม แซ่ก๋วย และชาวออสเตร เลีย 1 ราย ชื่อนายเบนจมิน โรว์ อายุ 26 ปี
น.พ.ชูศักดิ์กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดเมื่อคืนนี้ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย แต่สะเก็ดไม่ฝังใน จึงทำแผลแล้วให้กลับบ้านได้ สำหรับผู้ที่พักรักษาตัว 4 รายวันนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว เนื่องจากมีสะเก็ดระเบิดฝังด้านใน แพทย์ผ่าตัดและเย็บบาดแผลแล้ว โดยทั้ง 4 รายอาการปลอดภัย ส่วนกรณีมีข่าวว่ามีผู้เสียชีวิต 2 รายนั้น ขอยืนยันว่าไม่มี สำหรับผู้ป่วยที่ต้องย้ายไปยังร.พ.อื่นเพราะร.พ.กรุงเทพคริสเตียนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ จึงต้องการเคลียร์พื้นที่เพื่อรองรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีก เป็นการระวังป้องกันเหตุ ทางร.พ.พร้อมเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ในการช่วยประชาชน ส่วนค่ารักษาพยาบาลไม่ได้เก็บค่ารักษากับผู้บาดเจ็บ ซึ่งจะติดต่อกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
-ฝรั่งออสซี่แฉนาทีโดนบึ้มเจ็บ
ส่วนนายเบนจามิน โรว์ อายุ 26 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บโดนสะเก็ดระเบิดที่ศาลาแดง กล่าวว่า ตนเป็นชาวออสเตรเลียและเป็นอาสาสมัครสอนภาษาอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในประเทศพม่า เพิ่งจะมาอยู่ได้เพียง 2 เดือนเศษ และที่ต้องเดินทางมาเมืองไทย ทั้งเนื่องจากเพราะต้องการเดินทางมายังสถานทูตพม่าประจำประเทศไทย เพื่อมาติดต่อหนังสือเดินทาง และเพิ่งจะเดินทางมาถึงที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น.ก่อนเดินทางต่อมาถึงสถานทูตพม่าเวลา 13.00 น. หลังจากทำธุระเสร็จแล้วก็เดินเล่นมาตามถนนสีลมและเดินมาถึงบริเวณสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง จึงเดินหาอาหารกิน แต่ก็ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นก่อน 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่รู้ว่าเมืองไทยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่มาเอะใจอยู่บ้างเพราะเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารเดินถืออาวุธปืนเพ่นพ่าน คิดว่าน่าจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นแล้ว จนกระทั่งมีเสียงระเบิดขึ้นเป็นลูกที่ 3 พร้อมกับสะเก็ดระเบิดกระเด็นมาถูกบริเวณหน้าอกและด้านหลังมีเลือดไหลอาบ ตนรู้สึกเจ็บบริเวณดังกล่าวและล้มฟุบลงกับพื้นก่อนที่จะมีรถพยาบาลมารับตัวส่งโรงพยาบาลและให้การช่วยเหลือรักษาพยาบาลเป็นอย่างดี
-ยันจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีก
นายเบนจามิน กล่าวอีกว่า ตนมีกำหนดการที่จะต้องเดินทางกลับประเทศพม่า ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ในช่วงเช้า ผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วจะมาประเทศไทยอีกไหม นายเบนจามิน กล่าวว่า ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน เพราะส่วนที่เกิดเหตุเป็นแค่ส่วนเดียวของประเทศ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็จะไม่เกิดปัญหา ตนยืนผิดที่ ผิดเวลา จึงได้เกิดเหตุขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะฝากเตือนประชาชนชาวออสเตรเลียถึงการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย นายเบนจามิน กล่าวว่า เมืองไทยก็ยังเป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวอยู่ จุดที่มีการชุมนุมกันก็เป็นเพียงบางจุดของกรุงเทพฯเท่านั้น นอกจากพื้นที่กรุงเทพฯแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเราระวังก็ไม่เกิดปัญหา ตนเคยมีน้องสาว ซึ่งเป็นอาสาสมัครนักสังคมสงเคราะห์มาอยู่ที่ชุมชนคลองเตย ถึงอย่างไรเมืองไทยก็ยังเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวอยู่ โดยในวันพรุ่งนี้ก็จะเดินทางกลับพม่าแล้ว
-เพื่อไทยจวกศอฉ.ป้ายสีม็อบแดง
เวลา 13.50 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือดูแลประชาชน (ศชปป.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. เลขานุการ ศชปป. ร่วมแถลงเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 ถล่มถนนสีลม จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากว่า
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า พรรคไม่สบายใจ และขอประณามผู้ที่กระทำการดังกล่าว ซึ่งกองทัพไม่ควรด่วนสรุปว่าระเบิดยิงมาจากกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะยิ่งสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ศชปป.มีข้อมูลชัดเจนว่ารัฐบาลกับศอฉ.มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะก่อนจะเกิดเหตุยิงเอ็ม 79 ปรากฏว่าผู้ชุมนุมสีลมมีการใช้อาวุธ ยิงหนังสติ๊ก ทั้งที่ในพื้นที่มีกำลังทหาร ตำรวจอยู่ แต่ไม่สามารถจัดการได้ และเหตุการณ์เกิดหลังจากเวทีเสื้อแดงประกาศว่าศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองไม่ให้สลายชุมนุม ขณะที่บางสื่อรายงานข่าวว่าได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น 6 ครั้ง ทั้งที่ขณะนั้นเกิดเหตุระเบิดแค่ 3 ครั้ง จึงขอให้ประชาชนทราบว่าเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการสร้างสถานการณ์ก็ได้ เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายขัดแย้งกัน
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า ศชปป.เห็นว่าสิ่งที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ.แถลงสรุปว่า ระเบิดที่ใช้ยิงนั้นเป็นเอ็ม 79 ยิงมาจากพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 เป็นการด่วนสรุปทั้งที่ยังไม่ลงพื้นที่ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน จึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพราะรัฐบาลต้องการโยนความผิดให้คนเสื้อแดง เพราะก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เร่งให้นำคนออกจากพื้นที่ พร้อมเสริมกำลังทหารแต่ปล่อยให้กลุ่มเสื้อหลากสียั่วยุกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งดูเหมือนตรียมการไว้ล่วงหน้า อีกทั้งเหตุที่เกิดขึ้นไม่มีพยานคนไหนระบุว่า ระเบิดยิงมาจากผู้ชุมนุม จึงต้องถามว่านายสุเทพไปเอาพยานมาจากไหน ที่ระบุว่า ยิงมาจากด้านหลังคนเสื้อแดง
-ชี้วิถียิงจากม็อบแดงไม่ถึงเป้าแน่
"พรรคได้ลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุที่นาย สุเทพระบุยิงเอ็ม 79 จากหลังพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 ทราบว่ารัศมีการทำลายเครื่องยิงเอ็ม 79 มีระยะ 400 เมตร และต้องยิงในพื้นที่เปิดโล่ง แต่จากการตรวจสอบจุดตกของระเบิด พบว่านอกรัศมีระยะที่กำหนดไว้คือ 410 เมตร โดยจุดตกนั้นเป็นบริเวณสกายวอล์กเกอร์หรือทางเชื่อมลอยฟ้า อีกทั้งต้องผ่านสะพานลอยข้ามแยกไทย-เบลเยียม จึงมีสิ่งกีดขวางจำนวนมาก ดังนั้นถ้ายิงจากพระบรมราชานุสาวรีย์ทางฝั่งเสื้อแดง ต้องให้คนโหม่งเข้าไปเพราะแรงขับของวิถีระเบิดเอ็ม 79 ไปไม่ถึงเป้าหมาย และตั้งข้อสังเกตว่าอาจใช้ระเบิดสังหารชนิดขว้างที่มีอานุภาพทำลายล้างเหมือนกับเอ็ม 79 เช่น ระเบิดลูกเกลี้ยงเอ็ม 26 และลูกส้มเอ็ม 67 ซึ่งมีอานุภาพการทำลายล้างเหมือนกัน ซึ่งการด่วนสรุปจึงเหมือนสร้างความเกลียดชังและเข้าใจผิดต่อกลุ่มเสื้อแดง เพื่อยกระดับทำลายล้างและเข้าปราบกลุ่มเสื้อแดง" น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การยิงจากเสื้อแดง แต่มีมือที่สามสร้างสถานการณ์ จึงอยากถามนายสุเทพว่า ถ้ามีการยิงเอ็ม 79 จริง ซึ่งใช้แรงส่งในการยิงต้องมีแสงไฟ เพราะไม่มีเครื่องอำพรางแสง จะต้องจับภาพได้อย่างแน่นอน แต่ในที่เกิดเหตุไม่มีใครเห็นแสงไฟ ทั้งนี้ หากพิสูจน์ว่าเป็นการยิงระเบิดเอ็ม 79 ทางพรรคก็น้อมยอมรับ แต่การด่วนสรุปแล้วไปยัดเยียดให้กลุ่มเสื้อแดงมันไม่ยุติธรรม
-ปลัดกห.จวกอีกทหารนอกรีต
เวลา 13.30 น. ที่องค์การทหารผ่านศึก พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวเหตุระเบิดที่แยกศาลาแดง ถนนสีลมว่า ตอนนี้นปช.เกิดปัญหาเรื่องการยอมรับ เพราะไม่ใช่การชุมนุมโดยสันติตามที่อ้าง ชัดเจนว่าสิ่งที่ทำเพื่อสร้างความปั่นป่วนในบ้านเมือง ขณะที่รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาโดยบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
"เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย. จะนำไปสู่การคลี่คลายสถานการณ์ในเชิงบวก สิ่งที่เขาทำคือความผิดพลาด แม้ไม่ยอมรับว่าเกิดขึ้นจากคนเสื้อแดง แต่เป็นแง่คิดได้ว่าทำไมเหตุระเบิดไม่เกิดขึ้นกับคนเสื้อแดงบ้าง ไม่เคยมีเอ็ม 79 ตกใส่กลุ่มเสื้อแดงเลย ดังนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าอย่างน้อยเขาเป็นแนวร่วมนปช. ทั้งนี้ เราไม่อยากให้มีการเสียชีวิตของประชาชน แต่เราคงห้ามคนที่คิดร้าย คนที่ไม่มีอุดมการณ์ไม่ได้ เราไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้กับคนไทย ทุกท่านคงทราบว่าส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการมีทหารเข้าไปอยู่ด้วย และการที่ทหารมายิงทหารด้วยกันเอง หรือทหารไปยิงประชาชน มันไม่น่าจะเกิดขึ้น" พล.อ.อภิชาต กล่าว
เมื่อถามว่าการที่ระบุมีทหารออกมาปฏิบัติการแสดงว่ากองทัพมีความแตกแยกใช่หรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ไม่ได้หมายความว่ากองทัพ แตกแยก แต่ที่พูดหมายถึงทหารนอกแถวมากกว่าหรือทหารที่เกษียณไปแล้ว คิดว่าสิ่งที่ทำถูกต้อง น่าจะเป็นรอยด่างให้กับชีวิตของท่าน เมื่อถามว่า แสดงว่ามีข้อมูลทหารที่ออกไปเกี่ยวกับการก่อการร้าย พล.อ.อภิชาต กล่าว่า คิดว่ากลุ่มก่อการร้ายน่าจะเกี่ยวข้องกับแกนนำเสื้อแดง
-เสธ.แดงแฉมือบึ้มคนชุดดำ
วันเดียวกัน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิทบ. กล่าวถึงกรณีนาย สุเทพ ผอ.ศอฉ. ระบุกลุ่มก่อการร้ายยิงเอ็ม 79 ใส่กลุ่มเสื้อหลากสีบริเวณแยกศาลาแดงว่า อยากถามว่านายสุเทพรู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มไหนทำ รู้ได้อย่างไรว่ายิงมาจากหลังพระบรมรูป ร.6 และเป็นระเบิดเอ็ม 79 ทั้งที่เหตุระเบิดเพิ่งเกิด และยังไม่มีเจ้าหน้าที่ไปพิสูจน์หลักฐาน หรือมีเจ้าหน้าที่อีโอดีไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเลย นายสุเทพกลับฟันธงว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคนเสื้อแดง ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย เพราะกลับบ้านหมดแล้ว หลังจากช่วยเหลือกลุ่มคนเสื้อแดงจากการที่ทหารออกมารังแกประชาชน เพราะกองกำลังไม่ทราบฝ่ายจะออกมาเพื่อช่วยเหลือคนเสื้อแดงหากถูกทหารมารังแกเท่านั้น
"เสธ.แดงขอฟันธงว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่ศาลาแดงเมื่อคืนเป็นฝีมือของคนชุดดำ ผู้ก่อการร้ายตัวจริงที่ยิงอาวุธมาจากตึกสูงใส่รถไฟฟ้าบีทีเอส และกลุ่มเสื้อหลากสี ซึ่งไม่ใช่คนของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่เป็นคนที่รัฐบาลส่งมาสร้างเหตุการณ์รุนแรง เพื่อขอความชอบธรรม หาข้ออ้างบีบให้ทหารออกมาปราบประชาชนอีก" พล.ต. ขัตติยะกล่าว
พล.ต.ขัตติยะกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทหารถอดใจแล้ว และถอนกำลังทหารกลับ เพราะไม่อยากออกมารบกับประชาชนคนไทยอีก นอกจากนี้รัฐบาลต้องการแสดงให้เห็นว่ากลุ่มเสื้อแดงก่อความรุนแรง เพื่อบีบศาลแพ่งให้มีการยกเลิกคำสั่งคุ้มครองไม่ให้สลายชุมนุมรุนแรง อย่างไรก็ตามหากจะนำกำลังทหาร 3 หมื่นคนมาปราบกลุ่มคนเสื้อแดงก็ยังไม่พอ เพราะขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงมีจำนวนมาก และยากที่จะสกัดกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ให้เคลื่อนไปยังถนนเส้นต่างๆ ได้ และหากทหารจะออกมาสลายการชุมนุมกองกำลังไม่ทราบฝ่ายก็จะออกมาช่วยคนเสื้อแดงเหมือนเดิม
-ผู้ว่าฯกทม.ระบุยิงเอ็ม 79 จากที่สูง
วันเดียวกัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ร.พ.กรุงเทพคริสเตียน และร.พ.จุฬาฯ จากเหตุการณ์มือที่สามยิงระเบิดเอ็ม 79 บริเวณสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงเมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ต่างทยอยกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นสถานการณ์ที่เกิดความรุนแรงขึ้นอีกขั้น เพราะมีการเผชิญหน้ากันระหว่างผู้ชุมนุมที่อยู่กันคนละสี แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างมากคือมีมือที่สามใช้ระเบิดเอ็ม 79 ยิงเข้าใส่ทำร้ายประชาชนซึ่งเป็นผู้ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วยเลย อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ตนมองว่าทางรอดของประเทศไทยคือรัฐบาลและแกนนำคนเสื้อแดงจะต้องมีการเจรจากันต่อไปเพื่อหาทางออก เพราะไม่อย่างนั้นจะเกิดการใช้กำลังมากขึ้นทุกวันจนนำไปสู่ความสูญเสีย โดยทั้งสองฝ่ายจะต้องยอมถอยกันคนละก้าวเพื่อให้การเจรจาเกิดการสัมฤทธิผล แต่ตนก็ยังไม่เห็นว่าทั้งสองฝ่ายจะถอยหลังกันสักเท่าไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงวิถีการยิงเอ็ม 79 ที่ศาลาแดง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ยิงจากที่สูงครับ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยิงจากจุดไหน ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ยิงจากที่สูง
-"ปทีป"ชี้เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงภาพรวมการดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มคนเสื้อหลากสี ว่า ตำรวจต้องพยายามดูแลทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ให้มีการกระทบกระทั่ง หรือปะทะกัน ซึ่งยอมรับว่ามีความหนักใจ เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่มมาชุมนุมอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ทำให้โอกาสสูงที่จะเผชิญหน้ากัน ซึ่งตำรวจก็ได้พยายามทำทุกวิถีทางที่จะลดการเผชิญหน้า ทั้งการวางกำลังและนำรถควบคุมผู้ต้องหามาคั่นกลางระหว่างผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่ม รวมถึงการเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุมให้ถอยออกมาคนละก้าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้ยอมถอยคนละก้าวแล้ว มีการยอมคืนพื้นที่บางส่วน ซึ่งก็ต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป หากมีการเผชิญหน้ากันอีกเราก็จะใช้รถควบคุมผู้ต้องหามาคั่นกลางไว้
ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดงจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า คดีต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมตนได้ตั้งชุดพนักงานสอบสวนกลางที่มีพล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก.เป็นหัวหน้าชุด ซึ่งจะทำหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ขณะเดียวกันเรื่องการสืบสวนคดีระเบิดนั้น ก่อนหน้านี้ได้มีการตั้งคณะทำงานที่มีพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นหัวหน้าชุด ซึ่งสืบสวนคู่ขนานกันกับบช.น. อย่างไรก็ตาม คดียิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่สถานีรถไฟฟ้า น่าจะเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ ซึ่งจะอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แต่คณะทำงานจะมีตำรวจร่วมอยู่ในทีมอยู่แล้วด้วย พร้อมกับหน่วยความมั่นคงอื่นๆ อาทิ ทหาร ดีเอสไอและสมช.
-รู้แล้วเรื่องทหารปืนจ่อหัวตร.
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมาเหตุระเบิดหลายครั้ง คนร้ายต้องการเพียงแค่สร้างสถานการณ์ แต่ครั้งนี้กลับมีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า เท่าที่ทราบคนร้ายต้องการยิงไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดง แต่ ระเบิดบางลูกพลาดเป้าแฉลบโดนต้นไม้ จึงยังตอบไม่ได้ว่าคนร้ายประสงค์ต่อชีวิตหรือไม่
ต่อข้อถามกรณีมีนายตำรวจระดับรอง ผกก. ถูกทหารใช้ปืนจี้ที่ศีรษะ ไม่ให้จับกุมม็อบหลากสีปาระเบิดเพลิง พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า ได้ยินข่าวเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งตนก็ได้เน้นย้ำผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอว่าในการลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยการชุมนุมหรือพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง ให้ระมัดระวังตัว ซึ่งตำรวจโชคดีที่มีเครื่องแบบ ทำให้รู้ว่าเป็นตำรวจอยู่หน่วยไหน สังกัดอะไร ส่วนเรื่องขวัญกำลังใจตำรวจขณะนี้ยังดีอยู่ เรื่องสวัสดิการต่างๆ เรื่องเบี้ยงเลี้ยงยังได้รับตามปกติ ไม่มีหน่วยไหนร้องเรียนมาว่าไม่ได้เมื่อถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาระบุว่าตำรวจเกียร์ว่างนั้น พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า ที่ผ่านมาตำรวจทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ส่วนจะบอกว่าเกียร์ว่างหรือไม่ว่างคงตอบไม่ได้
-ผบก.น.5 สั่งสอบตร.โดนปืนจี้
พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 กล่าวถึงเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามเอ็ม 79 ยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณแยกศาลาแดงเมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาดูแลคดีนี้แล้ว มีพ.ต.อ.อุดม สุวรรณเวชทิพย์ รอง ผบก.น.เป็นหัวหน้า เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีการสรุปว่ามีการใช้อาวุธเอ็ม 79 ยิงมาจากจุดไหน ต้องรอประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจพิสูจน์ก่อน ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าพล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น.ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของนครบาลออกสืบสวนหาข่าวในเรื่องนี้แล้ว
ผบก.น.5 กล่าวต่อว่า ส่วนข่าวที่ออกมาว่ามีนายตำรวจระดับรองผู้กำกับของ สน.พระโขนง ถูกทหารใช้อาวุธปืนจี้ศีรษะนั้น ตนก็ได้รับทราบข่าวแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนในรายละเอียดต้องรอตรวจสอบอีกครั้ง แต่เหตุการณ์เมื่อคืนที่ทางตำรวจต้องเข้าไปจัดการเพราะมีกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงประมาณ 50 คนก่อเหตุใช้ของแข็ง อิฐ ขวด ขว้างปาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจผลักดันและจับกุม ส่วนเรื่องอื่นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
-ป๊อกสั่งล่าตัวทหารปืนดุ
รายงานข่าวจากกองทัพบกเปิดเผยว่า พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้เรียกประชุมหน่วยขึ้นตรง โดยพล.อ.อนุพษ์แสดงความเป็นห่วงกรณีที่น.ส.ฐปนีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวช่อง 3 ทวีตในทวิตเตอร์ถึงเหตุการณ์ตำรวจระดับรองผกก.โดนทหารสัญญาบัตรที่ตั้งด่านที่ถนนสีลมใช้ปืนจ่อหัว ไม่ให้ตามจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมหลากสีที่ก่อเหตุปาระเบิดเพลิง โดยสั่งการให้ทหารเข้าตรวจสอบว่านายทหารคนดังกล่าวเป็นใคร เนื่อง จากไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีการระบุไว้ชัดเจนถึงลักษณะการแต่งกายของนายทหารคนดังกล่าวว่าสวมหมวกเบเร่ต์ และสวมแว่นตา โดยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างตำรวจกับกองทัพ
-ฐปนีย์แถลงยันทำข่าวตามจริง
ค่ำวันเดียวกัน น.ส.ฐปนีย์ ออกแถลงการณ์ สรุปได้ว่า ดิฉันไม่เคยรายงานข่าวว่าทหารเป็นผู้สร้างสถานการณ์ให้เกิดระเบิดเอ็ม 79 บริเวณย่านสีลมเมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย. และไม่เคยรายงานกล่าวหาประชาชนชาวสีลม หรือประชาชนกลุ่มเสื้อหลากสีว่ายั่วยุให้เกิดความรุนแรงโดยใช้ระเบิดขวด สิ่งเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้จากข้อความในทวิตเตอร์ของดิฉัน ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความเข้าใจผิดในการส่งต่อข้อความจากทวิตเตอร์ไปในแหล่งอื่นๆ ทางอินเตอร์เน็ตจนเกิดความเข้าใจต่อสถานการณ์คลาดเคลื่อน และการรายงานข่าวในทวิตเตอร์เป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับการทำหน้าที่เสนอข่าวของช่อง 3 เป็นการรายงานสถานการณ์สดผ่านมือถือส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้ดำเนินการเป็นธุรกิจหรือเพื่อประโยชน์ของใคร
"ยืนยันว่าด้วยเกียรติของการทำหน้าที่สื่อมวล ชนมา 10 ปี ไม่เคยคิดร้ายกับประเทศชาติ และเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ห่วงใยต่อสถานการณ์บ้านเมือง ไม่เคยคิดยั่วยุให้เกิดความรุนแรงหรือซ้ำเติมสถานการณ์ของประเทศ ทำงานโดยยึดหลักของความรับผิดชอบ และจรรยาบรรณในวิชาชีพสื่อ มวลชนอย่างดีที่สุด ทั้งการให้ความสำคัญกับการตรวจสอบข้อเท็จจริง การเสนอข่าวอย่างรอบด้าน เป็นกลาง และไม่กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐาน หากข้อความใดทำให้ผู้อื่นเสียหายก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี่ แต่ยืนยันว่าทุกคำพูดผ่านการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนนำเสนอไปสู่สาธารณะ โดยทุกคนที่กล่าวอ้างมีตัวตนเอง ซึ่งได้ถูกถ่ายทอดผ่านสื่อสิ่งพิมพ์หลายสำนักและผู้สื่อข่าวที่อยู่ร่วมเหตุการณ์ด้วย รวมทั้งได้รายงานไปตามสถานการณ์ที่เห็นจริง ไม่ได้แต่งเติมข้อความใดๆ จึงขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการติดตามข้อมูลให้ครบถ้วน โดยเฉพาะกรณีข่าวระหว่างตำรวจกับทหารเป็นข้อเท็จจริงที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว ซึ่งดิฉันเองก็พร้อมรับผิดชอบกับการทำหน้าที่ครั้งนี้
-แฉบิ๊กช่อง 3 สั่งแบนแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ได้เรียก น.ส.ฐปนีย์เข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงถึงกรณีที่ โพสต์เหตุการณ์ทหารใช้ปืนจ่อหัวตำรวจ จากนั้นจึงมีคำสั่งไม่ให้น.ส.ฐปณีย์เข้าไปทำข่าว และให้หยุดการรายงานข่าวในพื้นที่ชุมนุมไว้ก่อน โดยให้เหตุผลว่าเกรงจะเกิดความไม่ปลอดภัย เนื่อง จากขณะนี้สังคมมีความเห็นที่ขัดแย้งมาก นอก จากนี้ยังขอให้ลบข้อความดังกล่าวที่โพสต์ลงในทวิตเตอร์ทิ้งและขอให้หยุดการใช้ทวิตเตอร์ทั้งหมด
-มาร์คเสียใจเหยื่อบึ้มที่สีลม
เวลา 20.30 น. ที่ศอฉ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย. โดยเฉพาะครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เกี่ยวข้องทุกคน ยืนยันได้ว่าทุกคนที่ทำงานที่ ศอฉ.ได้ติดตามเหตุการณ์และรู้สึกเป็นทุกข์ และพยายามแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนการดำเนินการกับกลุ่มคนที่ยิงเอ็ม 79 ยืนยันว่าตนได้ติดตามตลอดเวลาตั้งแต่เกิดเหตุแทบไม่ได้พักผ่อน ก็มีเบาะแสและมีความชัดเจนว่ามีความพยายามป้องกันและระงับเหตุ ต้องขอย้ำว่ามีคนรับรู้ข้อมูลและมีส่วนทำให้พฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้น เราต้องการความร่วมมือจากคนเหล่านี้ ถ้าใครมีขอให้แจ้งข้อมูลเบาะแสเข้ามา ขณะนี้การตรวจสอบคืบหน้าไปมากพอสมควรและจะชัดเจน และดำเนินการได้ตามลำดับ
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 2 ครั้งมีผู้เสียชีวิตโดยที่ฝ่ายรัฐทำอะไรไม่ได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หลังเหตุการณ์ยิงของชุดหลัก พอเราพยายามจะใช้เฮลิคอปเตอร์เข้าไปปราม เพราะเริ่มมีเบาะ แสว่าจะมีการยิงอีกชุด แต่ในจุดที่เกิดเหตุช่วงแรกก็ไม่ง่ายนักที่จะรู้ล่วงหน้า หรือคาดคะเนจุดที่เป็นเป้าหมายหรือเป็นผลกระทบ สำหรับพื้นที่ที่มีการเสียชีวิตเบื้องต้นจากข้อมูลที่ตนได้รับมีการยิงสิ่งที่ค่อนข้างไม่เหมือนกับระเบิดเอ็ม 79 ทั่วไป มีเป้าหมายสังหารบุคคลมากกว่า ซึ่งจุดในการยิงเอ็ม 79 มีจุดต้องสงสัยอยู่ 2 จุดด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการตรวจสอบแล้วเป้าหมายการก่อวินาศกรรมต้องการจะทำร้ายผู้ชุมนุมอย่างเดียวหรือมีเป้าหมายที่รถไฟฟ้าบีทีเอส นายกฯ กล่าวว่า ในชุดหลังค่อนข้างชัดว่าต้องการให้ไปที่การชุมนุม อย่างไรก็ตาม ตนเห็นความเข้มแข็งของคนมากขึ้น แต่สิ่งที่ตนเสียใจคือผู้ที่สูญเสียไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง จากการฟังข้อมูลญาติพี่น้องเขาตั้งใจแค่มาปกป้องและให้กำลังใจคนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ซึ่งพลังของคนที่อยากเห