เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จัดงานครบรอบ 10 ปี ผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยมีนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และประธานกรรมการมูลนิธิประเทศไทยในสะอาด กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "การเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมเพื่อสังคมไทยใสสะอาด" และภายในงานยังมีพระราชวิจิตรปฏิญาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม และนายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมกล่าวแสดงความคิดเห็นด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้
"พระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นต้นแบบของสุดยอดความอดทน ท่านรับสั่งว่าฉันเป็นพระเจ้าอยู่นั่งอยู่บนยอดปิรามิด แต่อย่าลืมว่าปิรามิดเมืองไทยเป็นปิรามิดหัวกลับ ยอดปิรามิดไปอยู่บนก้นกรวย ใครมีอะไรก็จะเทใส่ฉัน เวลานี้เขาก็เทใส่ท่านอยู่ น่าสังเวชใจไหม"
"ผมพูดเรื่องคุณธรรมจริยธรรมไปเยอะในหน่วยงานต่างๆ แต่ก็ยังไม่หยุด ทำไมเราจึงมาถึงจุดนี้ได้ ผมพูดคุยกับหลายคนก็บอกว่าสุดปัญญาจริงๆ ไม่รู้จะทำอย่างไร เรากำลังอยู่ในสภาพแวดล้อมของวัตถุนิยม คนสมัยนี้ไม่คิดเรื่องความดีจริยธรรมคุณธรรม เพราะมันกินไม่ได้ จึงปลุกไม่ขึ้น ไม่เหมือนเรื่องเงินทองที่เห็นกันเต็มตา สมัยก่อนเราสู้กับภัยก่อการร้ายจนชนะ แต่ไม่มีการพูดถึงเรื่องเงิน ทุกวันนี้เงินมีอิทธิพลต่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ซื้อได้ทั้งเกียรติยศ ตำแหน่ง ความดีก็ยังซื้อได้ด้วยเงิน เมื่อวานอ่านหนังสือพิมพ์เห็นข่าวเศรษฐีเสียใจเอาหลานเข้าโรงเรียนดังไม่ได้เพราะจ่ายเงินไม่ถึงล้าน คิดดูว่าอนาคตของเด็กยังต้องจ่ายเงินซื้อเลย หน่วยราชการก็พูดว่าห้ามจ่ายเป็นความผิด แต่ถามว่าห้ามได้หรือไม่
วันนี้โลกทั้งโลกไม่มีแล้ว ทุนนิยม เสรีนิยม สังคมนิยมหรือคอมมิวนิสต์เพราะโลกทั้งโลกถูกครอบด้วยระบบบริโภคนิยม แม้ประเทศที่ยังมีกลิ่นอายของคอมมิวนิสต์อย่างจีนวันนี้ก็แทบไม่เหลือร่อยรอย บริโภคนิยมยังเป็นต้นตอของทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งเป็นต้นตอของหายนะของโลกด้วย เวลานี้เรามองต้นไม้ไม่ได้มองแบบมีปัญญาว่าต้นไม้ให้ก๊าซอ๊อกซิเจนให้ร่มเงา แต่เรามองว่าลูกบาศก์เมตรละเท่าไหร่และชอบไปลักลอบตัดต้นไม้ สิ่งที่พูดมานี้ถือเป็นต้นตอของปัญหาจริยธรรมคุณธรรม เราจะมีจริยธรรมเมื่อเราควบคุมกิเลสตัณหาได้ ขอถามว่าเวลานี้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเราไม่ใช่เพราะความกระหายหรือความอยากได้หรือ ดังนั้นอย่ามาเลี่ยงบาลีว่าเป็นเรื่องประชาธิปไตย เรื่องสิทธิเลย เพราะจริงๆไม่ใช่ ผมไม่อยากพูดแล้ว พูดไปก็ป่วยการเวลานี้บ้านเมืองกำลังตึงเครียด ไม่อยากเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก เพราะไฟจะย้อนมาเผาตัวเอง
การที่เราคำนึงถึงเรื่องการเจริญเติบโตของประเทศมาก ทำให้เราขายทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศจนหมดและสุดท้ายคือขายคน จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ปัญหาที่เราเผชิญทั้งหมดเกิดขึ้นจากคนทั้งสิ้น ไม่ว่าเป็นวิกฤติวัฒนธรรม เยาวชน ยาเสพติด หรือการเมือง ล่าสุดเขาประกาศตำแหน่งอันทรงเกียรติให้ประเทศไทยเป็นรองแชมป์คอร์รัปชั่น โดยมีอันดับรองจากอินโดนีเซียน แต่ชนะเขมร น่าอนาถใจไหม เชื่อว่าต้นตอของปัญหานี้มาจากอะไรทุกคนรู้หมด ถึงขนาดในหลวงออกมาแช่งนานแล้วว่าใครทุจริตขอให้มีอันเป็นไป
แต่เวลานี้การคอร์รัปชั่นเข้าครอบทุกแห่ง ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องทำอะไรบ้าง ในหลวงเคยรับสั่งเรื่องความดีตั้งแต่ปี 2525 ว่า ความดีทำยากแต่จำเป็นต้องทำ หาไม่ความชั่วจะเข้าครอบงำ ขณะนี้เรามักจะมีคำสองคำ คือ คนเก่งแล้วต้องเป็นคนดีด้วย เพราะถ้าเก่งอย่างเดียวจะเกิดข้อบกพร่อง 4 ด้าน คือ 1.บกพร่องในเรื่องความคิดพิจารณาที่กว้างไกล เนื่องจากจะเป็นคนใจร้อนเชื่อมั่นตัวเองสูง 2.บกพร่องในความนับถือและเกรงใจผู้อื่น คิดแต่ว่าตัวเก่ง จึงไม่ต้องนับถือคนอื่น 3.บกพร่องในเรื่องมัธยัสถ์พอเหมาะในการกระทำ คิดแต่อยากจะก้าวหน้าอยากเลื่อนขั้นเร็วๆ และ4.บกพร่องในเรื่องจริยธรรมความรับผิดชอบชั่วดี เพราะมุ่งแต่จะหาประโยชน์เฉพาะตัว ที่เกิดขึ้นเวลานี้จับกันแทบไม่ได้ ฉะนั้น เก่งจึงยังไม่พอ เราจึงต้องเน้นในเรื่องของจริยธรรมคุณธรรม ซึ่งจะว่าไปทุกองค์กรดูจะเน้นจนจะกลายเป็นแฟชั่นแล้ว แต่เราก็ยังต้องเน้นให้มากๆ โดยเรื่องคุณธรรม
ในหลวงเน้นให้รักษาคุณธรรม 4 ประการ 1.รักษาความสัตย์ แต่วันนี้เปิดทีวีเห็นแต่โกหกกัน เรื่องเดียวกันกลับพูดกันคนละอย่าง ถามว่าแล้วจะเอาความสัตย์มาจากไหน จับมือกันแล้วจะเชื่อกันได้ไหม สันติอหิงสาพูดกันมา ถามว่าตอนนี้ตายกันไปกี่คน อย่าไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ปัจจุบันเลย เชิญทำกันตามสบายเถิด
2.ต้องรู้จักข่มใจมีตบะ การจะเอาชนะกิเลสได้ ต้องมีตบะ มีความเพียร ปรารถนาอย่างแรงกล้า 3.ความอดทนอดกลั้นอดออม ไม่ประพฤติล่วงในความสัตย์สุจริต เรื่องความอดทนมีความสำคัญ บางอย่างไม่ต้องไปแก้ ควรอดทนรอเวลา เพราะเวลาจะจัดการตัวของมันเอง อย่างพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นต้นแบบของสุดยอดความอดทน ท่านรับสั่งว่าฉันเป็นพระเจ้าอยู่นั่งอยู่บนยอดปิรามิด แต่อย่าลืมว่าปิรามิดเมืองไทยเป็นปิรามิดหัวกลับ ยอดปิรามิดไปอยู่บนก้นกรวย ใครมีอะไรก็จะเทใส่ฉัน เวลานี้เขาก็เทใส่ท่านอยู่ น่าสังเวชใจไหม ผมพูดแค่นี้ และ 4.ให้ละวางความชั่ว ความทุจริต รู้จักละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง
มีคนเคยยกให้ผมเป็นวีรบุรุษ เพราะเคยร่วมสู้รบในสงครามเมื่อปี 17 ผมก็บอกว่าคำนี้ใช้กับคนที่ตายไปแล้ว และบอกว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่ทำให้บ้านเมืองอยู่รอด มีคนอื่นที่เสียสละให้บ้านเมืองมากกว่า ผมเป็นเพียงเศษหนึ่งส่วนหกสิบสองล้านของประเทศไทย และที่ทำก็เพื่อตัวเองที่อยากอยู่ในประเทศนี้ ไม่อยากเป็นคนอพยพ เพราะลูกเมียเราอยู่ที่นี่ ถือว่าคุ้ม ถ้าทุกคนคิดอย่างนี้บ้านเมืองก็รอด แต่ที่เป็นอยู่ไม่คิดอย่างนี้ไม่เสียสละกัน ยังทำร้ายกันอีก คนไทยด้วยกันทั้งนั้นไม่ใช่ศัตรูต่างชาติสักคน ถ้าผมพูดว่าคนไทยฆ่ากันมานานแล้ว ก็อาจจะถูกด่า แต่ถามว่า เราไปปราบปรามอย่างคนไทยภูเขา เขาก็เป็นคนไทย วันนี้ยังจะเดินซ้ำร้อยกันอีกหรือ เสียของไม่เท่าไหร่ แต่เสียชีวิตคนคำนวณไม่ได้หรอก
สุดท้ายที่อยากฝากง่ายๆ คือ ขอให้ทุกคนยึดหลักทศพิศราชธรรมของพระองค์ท่านในการปฏิบัติตน บางคนก็ตอบได้ แต่บอกไม่ได้ว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง ซึ่งข้อที่สำคัญมาก คือ ข้อสุดท้าย อวิโรธนัง คือ การไม่ยอมทำผิด ในหลวงท่านไม่ยอมทำผิดในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องวัฒนธรรม ประเพณี กฎหมายต่างๆ ในหลวงจะปฏิบัติอย่างไร ท่านจะมีพระราชวินิจฉัยเอง ท่านถือมากท่านไม่ยอมทำผิด จำได้ไหม เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ท่านพูดว่า rule of law ท่านบอกว่าถ้าท่านทำก็จะทำผิดกฎหมาย แต่ทำไมเราชอบพูดว่าทำไมท่านไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ เราคิดกันไปเอง ท่านจะทำอะไรท่านจะมีพระราชวินิจฉัยเอง ผมพูดได้แค่นี้ ไปคิดต่อกันได้ ตนขันติแล้ว ชินชาแล้ว
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม
คำว่ายุติธรรมมีในโลก แต่ความเป็นธรรมไม่มีในโลก ความเป็นธรรมไม่ค่อยมีกับคนและบ้านเมือง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี หาทางออกให้กับประเทศด้วยการพึ่งพระบารมี ทำให้อดีตนายกฯหลายคนออกมาคัดค้าน การที่พล.อ.ชวลิต เป็น ถึงอดีตนายกฯ และเป็นประธานพรรคเพื่อไทย ออกมาพูดเรื่องขอเข้าเฝ้าในหลวง ทันทีที่ออกมาพูด ก็ถูกอดีตนายกฯ คนอื่นๆ คัดค้าน การพูดอย่างนี้ก็ถือเป็นการไม่บังควรแล้ว มันไม่ใช่หน้าที่ เพราะมันมีอีกฝ่ายหนึ่ง และอีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าออกมาก็แย่
หากถามพวกเราให้เดาใจพระองค์ท่านว่าจะออกมาไหม ไม่ใช่การเดาใจในหลวง แต่เดาใจในฐานะนักปกครอง พระองค์ท่านครองราชย์มา 60 ปี พระบารมีสูงส่ง จึงไม่วายมีคนแอบอ้างเอาไปหาประโยชน์ การอ้างความจงรักภักดีและแอบอ้างสถาบันเป็นความเลว ทั้งนี้อยากให้ทุกฝ่ายหยุดการอ้างถึงสถาบัน ขอให้มีคนเสียสละ ยอมกัน ใครจะเป็นคนไกล่เกลี่ย และใครจะรับฟัง เพราะต่างก็มาด้วยศักดิ์ศรีว่าต้องชนะ
ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
เหตุความไม่สงบในกรุงเทพฯเกิดขึ้นเพราะการขาดไร้จริยธรรม ปากพูดว่าทำเพื่อประเทศชาติ ทำเพื่อพระเจ้าแผ่นดิน แต่ใจคิดถึงแต่ตัวเอง ปากกับใจไม่ตรงกัน ทั้งนี้โดยส่วนตัวมองว่ารัฐธรรมนูญเป็นเพียงกระดาษจึงไม่จำเป็นต้องแก้ไข หากปลูกฝังให้ประชาชนผู้ใช้รัฐธรรมนูญเป็นคนดีมีคุณธรรมจะเป็นทางออกให้กับ ประเทศไทย หากทุกคนมีจิตสำนึกก็คงกลับบ้าน เพื่อให้รัฐบาลแก้ปัญหา ขณะนี้ความเห็นของผู้ชุมนุมกับรัฐบาลก็ตรงกัน เห็นด้วยกับการยุบสภาฯแต่ติดขัดที่เงื่อนเวลา ดังนั้นจึงต้องมานั่งพูดคุยกันและยอมกันให้ได้ จะพูดเอามันหรือเอาแพ้ชนะกันไม่ได้ อย่าต้องให้คนไทยช่วยกันสร้างความย่อยยับให้กับบ้านเมือง เชื่อว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี แต่ไม่ช่วยกันแก้สิ่งที่ทำเหมือนเป็นการยุให้เกิดปัญหา
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า