คมชัดลึก : แม้กลุ่มคนเสื้อแดงจะยืนยันว่าอาวุธไม้เหลาแหลมจำนวนมากมายก่ายกองที่ใช้เป็นแนวรั้วตั้งรับไม่ใช่อาวุธ แต่ก็เป็นการยืนยันการข่าวของหน่วยงานความมั่นคงได้ในระดับหนึ่งว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมมีการตระเตรียมบางสิ่งที่ดูเหมือนจะใช้เป็นอาวุธได้ไว้ต่อกรกับเจ้าหน้าที่รัฐ หากมีการใช้กำลังเข้ากดดันให้ยุติการชุมนุม ?!!
ไม่เฉพาะไม้เหลาแหลมเท่านั้นที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)
ออกมาระบุว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้เตรียมการไว้ แต่ยังมีระเบิดขวด น้ำกรด ไม้ตอกตะปู รวมถึงอิฐตัวหนอนปูพื้นของกรุงเทพมหานครอีกจำนวนหนึ่งด้วย แม้ในชั้นนี้จะยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าภายในสวนลุมพินี ที่การข่าวระบุว่าเป็นที่ซ่องสุมอาวุธ มีสิ่งที่เก็บซุกซ่อนเอาไว้หรือไม่ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมปฏิเสธที่จะให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าตรวจสอบ เพื่อคลี่คลายประเด็นสงสัยคาใจนี้
ในขณะที่เจ้าหน้าที่การข่าวด้านความมั่นคง ยืนยันว่า มีจริง และมีตั้งแต่สากกะเบือยันอาวุธสงคราม !?!
หลังเกิดเหตุการณ์มิคสัญญี 10 เมษายน 2553 จนนำมาสู่ความสูญเสียชีวิตทั้งทหารและพลเรือน 25 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 800 คน เจ้าหน้าที่การข่าวระแคะระคายมาบ้างแล้วว่า มีผู้ไม่หวังดีลักลอบเข้ามาปะปนอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม มีการตระเตรียมอาวุธหลายชนิดทยอยเข้ามาเก็บซุกซ่อนไว้ในที่ชุมนุม ป้องกันการใช้กำลังทหารตำรวจสลายการชุมนุม เมื่อหลายวันก่อนการชุมนุมจะขยายวงไปที่แยกศาลาแดง เผชิญหน้ากับกองกำลังทหารที่ป้องกันไม่ให้เสื้อแดงเคลื่อนเข้าถนนสีลม เจ้าหน้าที่การข่าวได้รับรายงานว่ามีรถบรรทุกหกล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 80-9678 แพร่ และทะเบียน 81-2478 แพร่ รวม 2 คัน ใช้ผ้าใบปิดคลุมกระบะบรรทุกขับเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม
จากการตรวจสอบด้านการข่าวยืนยันว่า รถบรรทุกทั้ง 2 คันบรรทุกน้ำกรดจำนวนมากเข้ามาให้กลุ่มผู้ไม่หวังดี ถ่ายใส่ขวดแก้วเตรียมไว้รับมือกับเจ้าหน้าที่รัฐหากมีการใช้กำลัง ?!!
แนวทางการสืบสวนทราบว่า รถทั้ง 2 คันขนน้ำกรดจำนวนมากมาจากจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก โดยทะเบียนรถบรรทุกทั้ง 2 คันตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นทะเบียนปลอม
สำหรับระเบิดเพลิงนั้น เจ้าหน้าที่การข่าวระบุว่าผู้ชุมนุมใช้วิธีดูดจากถังน้ำมันรถกระบะ เมื่อน้ำมันหมดก็ออกไปเติมให้เต็ม ส่วนระเบิดปิงปองประกอบขึ้นเองแล้วซุกซ่อนอยู่นอกจุดชุมนุม นอกจากนี้ การข่าวยังพบการตระเตรียมเหล็กแหลมที่ดัดแปลงมาจากคันเกียร์รถยนต์ด้วย
ทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่การข่าวได้ข้อมูลมายังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจน แต่สิ่งที่การันตีแล้วว่ามีวัตถุที่พร้อมจะใช้เป็นอาวุธ คือ "ไม้เหลาแหลม" จำนวนมากที่ผู้ชุมนุมนำมาประกอบเป็นแผงกั้นหันปลายแหลมออกด้านนอก
ไม้ไผ่เหล่านี้ถูกลำเลียงมากับรถกระบะอีซูซุ ติดป้ายทะเบียน ปท 1452 ชัยภูมิ แล้วทยอยไปกองไว้ตามจุดต่างๆ 6 จุดทางแยกที่จะเข้าไปสี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นที่ชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง จากการตรวจสอบก็พบอีกว่าป้ายทะเบียนดังกล่าวเป็นของปลอมอีกเช่นกัน
เช็ก...ศัสตราวุธ เสื้อแดง !
นอกจากนี้ หัวคะแนนที่มีความสนิทสนมกับแกนนำเสื้อแดงได้ขนไม้ไผ่จำนวนมากใส่รถบรรทุกหกล้อ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจากพื้นที่คลองเตยเข้ามายังที่ชุมนุม
ส่วนบั้งไฟหรือตะไลไฟแล้วแต่จะเรียก สำหรับรับมือเจ้าหน้าที่รัฐ หากถูกบุกทางอากาศและภาคพื้นดินนั้นพบว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจากอีสานได้ประกอบมาเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รอประกอบเข้ากับก้านไม้ไผ่เท่านั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา หน่วยงานความมั่นคงได้รับรายงานจากสายข่าวในพื้นที่เมืองชลบุรีว่า มีคนกลุ่มหนึ่งไปกว้านซื้อสากกะเบือจำนวนมากจากพื้นที่ อ.อ่างศิลา แหล่งผลิตครกหินเลื่องชื่อใน จ.ชลบุรี รวมถึงไปกว้านซื้อพริกขี้หนูสดจากตลาดไท จ.ปทุมธานี แล้วลำเลียงเข้าไปในพื้นที่การชุมนุม
"แม้ในชั้นนี้จะได้รับคำอธิบายว่า เพื่อนำไปประกอบอาหาร แต่ก็ไม่แน่ว่าถ้ามีการปะทะกันแล้ว พริกขี้หนูบดก็อาจจะถูกนำมาใช้เป็นอาวุธได้ด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับถังแก๊สที่ผู้ชุมนุมอ้างว่าเอาไว้หุงหาอาหาร แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แยกคอกวัวถังแก๊สถูกแปรสภาพมาใช้เป็นวัตถุระเบิดกลิ้งใส่แถวทหาร อาจทำให้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บได้
ที่สำคัญอาวุธสงครามของกองทัพที่หายไปจากรถหุ้มเกราะเมื่อครั้ง 10 เมษายน 2553 ยังได้คืนไม่ครบ ด้วยเหตุนี้ฝ่ายรัฐจึงหวั่นเกรงว่าหากเกิดการเผชิญหน้ากันเมื่อใด จะทำให้เหตุการณ์บานปลายไปกว่าที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วหน้านี้
แต่คำถามที่ทุกคนยังหาคำตอบไม่ได้ นอกจากการตั้งสมมติฐาน คือ บรรดาทหารแตงโมตำรวจมะเขือเทศมีปะปนอยู่เท่าไร และในจำนวนนี้จะสร้างความเสียหายต่อองค์กรและสถานการณ์การเมืองขณะนี้หรือไม่ เพราะการลำเลียงอาวุธจากรอบนอกเข้าสู่ใจกลางเมืองพื้นที่การชุมนุมนั้น หากเข้มงวดกวดขันจริงๆ ก็ไม่น่าจะปล่อยให้เล็ดลอดเข้าไปได้