พันธมิตรฯทวงคำตอบสิงคโปร์ เลิกซื้อหุ้นชินฯ

พันธมิตรฯทวงคำตอบสิงคโปร์ เลิกซื้อหุ้นชินฯ

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 9 มีนาคม 2549 11:17 น.

กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วม 1 พันคน รอฟังคำตอบจากสิงคโปร์ ยุติการซื้อหุ้นกลุ่มชินฯพร้อมเตรียมบุก ตลาดหลักทรัพย์ จี้เลิกทำงานรับใช้ทุนการเมือง

วันนี้(9 มี.ค.)เวลา 09.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 1 พันคน ได้รวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 จากนั้นเวลา 10.00 น.ได้เคลื่อนขบวนไปยังสถานทูตสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย เพื่อรับฟังคำตอบจากการยื่นหนังสือให้ประเทศสิงคโปร์ยุติการซื้อขายหุ้นระหว่างกองทุนเทมาเส็กและกลุ่มชินคอร์ป

โดยการเคลื่อนขบวนนำโดยกองทัพธรรม จากสันติอโศก ผ่านถนนสีลม ถนนคอนแวน โดยระหว่างเคลื่อนขบวนแกนนำได้ปราศรัยให้กับประชาชนในบริเวณดังกล่าว ได้รับทราบ ถึงข้อมูลเกี่ยวกับการขายหุ้นชินฯของครอบครัว นายกรัฐมนตรี พร้อมกับชี้แจงเกี่ยวกับการที่รัฐบาลไทย ได้ให้สิงคโปร์ เข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทย ที่จังหวัดอุดรธานี ถือเป็นการชักศึกเข้าบ้าน และไม่ส่งผลดี ต่อความความมั่นคงของประเทศไทย รวมทั้ง ทำให้เกิดความขัดแย้ง กับประเทศเพื่อนบ้าน

ส่วนกรณีการขายหุ้นชินฯ ถือเป็นการผ่องถ่ายทรัพย์สินของประเทศชาติ มาเป็นของเอกชน ตระกูลชินและเครือญาติ ทั้งๆที่เป็นทรัพย์สินที่ได้จากการสัปทาน เป็นทรัพย์สินของคนในชาติ แต่เอาไปขายให้กับสิงคโปร์ ซึ่งเป็นความไม่ชอบธรรม พร้อมกับเรียกร้องให้ ประชาชนออกมาต่อต้านการรักษาการ นายกรัฐมนตรี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างสันติวิธี โดยการไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาลรักษาการ และให้บอยคอตสินค้า ของตระกูลชินและสิงคโปร์ทั้งหมด

นอกจากนั้น แกนนำได้ ย้ำว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้มีความพยายามที่จะทำให้เกิดความแตก
แยกและก่อให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงของคนในชาติ โดยการนำเงินไปหว่านซื้อคนระดับรากหญ้า ในชนบท เพื่อให้ต่อต้านคนระดับปัญญาชน และคนในสังคมเมือง ที่ไม่ยอมรับระบอบทักษิณ อย่างสิ้นเชิง

ด้านนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯกล่าวว่า วันนี้เป็นการรวมตัวเพื่อมารอฟังคำตอบจากสถานฑูตสิงคโปร์ หลังจากได้ยื่นข้อเรียกร้องไปเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหากไม่ได้รับคำตอบเป็นที่น่าพอใจ ก็จะทำการบอยคอตสินค้าในเครือที่สิงคโปร์ถือหุ้นทั้งหมดอย่างถาวร โดยขณะนี้ได้มีบัญชีสินค้าไว้ทั้งหมดแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต่อจากนั้น ก็จะเดินทางไปที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้ กลไกของ ก.ล.ต.กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเลิกทำงานที่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมือง หรือ กลุ่มทุนเอกชนที่เข้ามาผูกขาดอำนาจ และขอให้ ก.ล.ต.ทำงานอย่างโปร่งใส ทำงานอย่างเสรีปราศจากการถูกแทรกแซงจากอำนาจทางการเมือง

ส่วนการรักษาความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 และ นครบาล 6 ประมาณ 150 นาย เข้ารักษาความปลอดภัย โดยแบ่งเป็นรักษาความปลอดภัยสถานฑูตสิงคโปร์ 100 นาย รักษาความปลอดภัยตลาดหลักทรัพย์ 50 นาย ในส่วนของขบวน ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร อำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง

และล่าสุดเวลา 10.40 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขบวนได้เดินทางไปถึงหน้าสถานฑูตสิงคโปรแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่าง รอรับหนังสือจากเจ้าหน้าที่ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ขณะที่การชุมนุม เป็นไปอย่างสงบ

สิงคโปร์โบ้ยไม่มีสิทธิ์สั่งเทมาเส็กเลิกซื้อหุ้นชินคอร์ป

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 9 มีนาคม 2549 12:35 น.

ทูตสิงคโปร์แจงตัวแทนเครือข่ายพันธมิตร รัฐบาลสิงคโปร์ไม่มีสิทธิ์เข้าไปแทรกแซงการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปของกองทุนเทมาเส็ก ในขณะที่เครือข่ายให้สถานทูตสิงคโปร์แจ้งไปยังรัฐบาลให้ทบทวนกรณีดังกล่าวอีกครั้ง

วันนี้ ( 9 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ภายหลังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 1 พันคน ได้รวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 หน้าสวนลุมพินี แล้วเคลื่อนขบวนไปยังสถานทูตสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย เพื่อรับฟังคำตอบจากการยื่นหนังสือให้ประเทศสิงคโปร์ยุติการซื้อขายหุ้นระหว่างกองทุนเทมาเส็กและกลุ่มชินคอร์ปนั้น เมื่อตัวแทนกลุ่มพันธมิตรเดินทางถึงหน้าสถานทูต นายพิภพ ธงชัย นายสมศักดิ์ โกสัยสุข และนางรสนา โตสิตระกูล ได้รับการติดต่อจาก นายไมเคิล เชา เลขานุการของอัครราชทูตสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย ให้เข้าไปรับฟังการชี้แจงภายในสถานทูต และหลังจากที่ตัวแทนทั้ง 3 คนเข้าไปภายในสถานทูตเป็นเวลา 30 นาทีแล้ว ได้ออกมาชี้แจงให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมฟัง

นางรสนาขึ้นกล่าวบนรถเวทีปราศรัยให้ผู้ชุมนุมฟังว่า ทางสถานทูตสิงคโปร์ ได้ชี้แจงว่า กองทุนเทมาเส็กเป็นของรัฐบาลสิงคโปร์จริง แต่บริษัทชินคอร์ป เป็นบริษัทเอกชน ดังนั้น ทางรัฐบาลสิงคโปร์จึงไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงการทำงานของกองทุนเทมาเส็กได้ ซึ่งทางตัวแทนเครือข่ายฯ ได้พยายามต่อรองให้ทางสถานทูตสิงคโปร์ แจ้งไปยังรัฐบาลสิงคโปร์ใหม่ เพื่อให้ทบทวนเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง

นางรสนากล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศสิงคโปร์ กำลังอาศัยช่องว่างของกฏหมายของประเทศต่างๆในอาเซียนในการเข้าไปลงทุน โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องและความมั่นคงของประเทศนั้นๆ ซึ่ง เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เชื่อว่า คนไทย รวมทั้งชาติอื่นๆในอาเซียน ก็ต้องต่อต้านกาาเข้าไปครอบงำทางธุรกิจของกลุ่มทุนสิงคโปร์

"หลังจากได้รับคำตอบแล้ว เราก็ยังจะให้โอกาสทางสถานทูตได้ทบทวนใหม่ และหากเป็นเช่นนี้อีก ก็จะรณรงค์ให้คนไทยต่อต้านสินค้าและธุรกิจของกลุ่มทุนสิงคโปร์อย่างแน่นอน รวมทั้งจะกลับมาชุมนุมที่สถานทูตเพื่อมารอรับคำตอบอีกครั้ง ซึ่งเชื่อมั่นว่า ผู้ชุมนุมจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม"นางรสนากล่าวอย่างมั่นใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา ตัวแทนเครือข่ายพันธมิตรได้เดินทางจากหน้าสถาทูตสิงคโปร์ไปยังอาคารที่ทำการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือกลต. ที่ถนนวิทยุ ตรงข้ามสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อดำเนินการกดดันต่อกรณีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปต่อไป โดยมีตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกในการเคลือนขบวนอย่างดียิ่ง

สุรเกียรติติงพันธมิตรฯยึดกติกาประท้วงสิงคโปร์เชื่อไม่กระทบความสัมพันธ์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 มีนาคม 2549 12:12 น.

สุรเกียรติ เสถียรไทย เชื่อกลุ่มพันธมิตรฯเคลื่อนไหว-ประท้วงสิงคโปร์ไม่น่าห่วงหากยังอยู่ในกรอบกติกา มั่นใจไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

วันนี้( 9 มี.ค.) เวลา 11.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุรเกียรติ เสถียรไทย รักษาการรองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนไหวกดดันด้วยการประท้วงสินค้าและบริการของประเทศสิงคโปร์ จะลุกลามบานปลายกระทบความสัมพันธ์ ว่า หวังว่าจะไม่บานปลายกระทบความสัมพันธ์กับสิงคโปร์ ส่วนการดำเนินการต่างๆ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ทำหน้าที่รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทำหน้าที่รักษาราชการการแทน ระหว่างที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปประเทศชิลี คงจะได้มีการสั่งการดูแลไปแล้ว โดยปกติเราต้องมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับสถานทูตต่างๆในประเทศไทยทุกประเทศอยู่แล้ว ดังนั้นการแสดงความคิดเห็นต่างๆเป็นสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีความรุนแรงอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนที่มีการชักชวนให้มีการประกาศคว่ำบาตรสินค้าสิงคโปร์นั้น นายสุรเกียรติ กล่าวว่าเป็นสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นหรือมีการแสดงออกได้ ตราบใดที่ไม่มีความรุนแรง ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ ฝ่ายสิงคโปร์คงเข้าใจ เพราะบ้านเราเป็นประชาธิปไตย ถามว่าในระดับนโยบายได้มีการประสานกับประเทศสิงคโปร์ นั้นไม่ได้มีการประสานอะไรเลย เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีต่างประเทศจะเป็นผู้ดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวยังถามว่าในแง่ของการลงทุน ของต่างชาติก็ต้องวิตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสุรเกียรติ กล่าวว่าต้องดูว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อแค่ไหน ซึ่งในช่วงนี้คงยังไม่ถึงขนาดมีผลกระทบอะไร คงต้องดูว่าจะพัฒนาไปอย่างไร หากยังอยู่ในกรอบกติกาประชาธิปไตย ก็ยังคงอยู่ในกรอบที่ประเทศสิงคโปร์จะเข้าใจได้

เมื่อถามว่าฝ่ายผู้ชุมนุมประกาศกดดันทุกวิถีทางเป็นระยะๆ คงจะไม่จบง่าย นั้น รักษาการรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ในส่วนของรัฐบาลไม่ต้องชี้แจงอะไร เพราะเหตุที่เกิดขณะนี้เป็นการแสดงความคิดเห็น จึงไม่ต้องมีอะไรที่จะชี้แจง และถามว่าระดับนโยบายต้องมีการพูดจาอะไรกันหรือไม่ นายสุรเกียรติ กล่าวตอบว่ายังไม่มี

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์