วันนี้ ( 20 เม.ย.) นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า จากการประชุมคณะทำงานซึ่งรับผิดชอบคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว จำนวน 46,373 ล้านบาทเศษนั้น นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร แจ้งต่อที่ประชุมว่า ได้รับสำเนาอุทธรณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ และครอบครัวทั้ง 5 คน จากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ขณะนี้กำลังร่างคำแก้อุทธรณ์ เพื่อเตรียมยื่นต่อศาลฎีกา ฯ
ด้านนายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการฝ่ายคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ( สคช.) หนึ่งในคณะทำงานอัยการ กล่าวว่า คณะทำงานอัยการได้ร่างคำแก้อุทธรณ์เสร็จแล้ว และเตรียมยื่นต่อศาลฎีกา ฯ ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ สำหรับประเด็นแก้อุทธรณ์นั้นอัยการ ได้ยืนยันต่อศาลว่า หลักฐานที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงพจมาน และครอบครัว รวม 5 คน ที่ยื่นอุทธรณ์มานั้นไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ ซึ่งพยานบุคคลที่อ้างไว้ในคำอุทธรณ์ก็เป็นพยานซึ่งมีอยู่ในบัญชีพยานชั้นไต่สวนอยู่แล้ว แม้พยานบางปากศาลจะไม่ได้ไต่สวนก็ถือว่าผ่านการวินิจฉัยของศาลแล้ว จึงไม่ถือว่าเป็นพยานหลักฐานใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่อัยการยื่นคำแก้อุทธรณ์แล้ว ศาลฎีกาฯ จะรวบรวมเอกสารสำเนาอุทธรณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว รวมทั้งคำแก้อุทธรณ์ของอัยการ เสนอต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณา ซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจะได้กำหนดวันประชุมเพื่อเลือกผู้พิพากษาระดับไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลฎีกา 5 คน เป็นองค์คณะพิจารณาสำนวนอุทธรณ์คดีนี้เพื่อสรุปความเห็นว่า คำอุทธรณ์เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมาย และจะรับอุทธรณ์ไว้พิจารณาได้หรือไม่