"อำนวย นิ่มมะโน" เตรียมสอบเจ้าของรร.เอสซี ปาร์ค ให้แกนนำนปช.พัก ยันไม่ได้ทำงานล้มเหลว เชื่อแกนนำไม่ฮึกเหิม แต่จะกลัวจนไม่กล้าออกจากกลุ่ม หรือกระทั่งไปอาบน้ำ ชี้ อริสมันต์ถูกตั้งข้อหาในหลายกรรมแล้ว ยันไม่มีตำรวจมะเขือเทศแน่...
เมื่อเวลา 20.30 น. 16 เม.ย. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.อ.สรรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)
ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมศอฉ. โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอฉ. และผบ.เหล่าทัพ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ในที่ประชุมมีการพูดถึงการเชิญผู้ต้องสงสัยว่าจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับสนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงในการเคลื่อนไหวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อทั้ง 51 คนได้ แต่วันนี้มีมารายงานตัว 12 คน ยังไม่มาอีก 39 คน โดยทั้ง 12 คนประกอบด้วย หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ 9 คน หัวหน้าสถานีวิทยุชุมชน 2 คน และอีกหนึ่งคนคือผู้นำชุมนุม ศอฉ.จะให้เวลาอีก 2 วัน ถ้าไม่มาจะมีความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท และจะต้องออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งอาจจะทิ้งเวลาอีก 3 วัน ถ้าหากไม่มีเหตุอันควรที่ไม่มารายงานตัวอีก ก็คงจะเป็นหมายจับ
ขณะที่พล.ต.ต.อำนวย แถลงข่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ตนเป็นหัวหน้าการสอบสวน ตอนนี้ลุล่วงไป 50%
ทั้งนี้คณะกรรมการคดีพิเศษ มีมติให้เหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย เป็นคดีพิเศษ และจะกลับมาเป็นคดีธรรมดาไม่ได้คือ 1.การก่อการร้าย 2.การบังคับให้รัฐบาลกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจำยอมต่อสิ่งใด 3.การประทุษร้ายต่อประชาชน ไม่คำนึงว่าเป็นใคร 4.การกระทำต่ออาวุธยุทโธปกรณ์ของราชการ คดีนี้จะเป็นคดีพิเศษตั้งแต่ปี 2552 แล้วมารวมที่ดีเอสไอ ซึ่งการสอบสวนจะมี 10 หน่วยงานในการบูรณาการคดีดังกล่าว และจะมีการดำเนินการข้อหาการก่อการร้ายด้วย
“ถ้าเป็นข้อหาการก่อการร้าย หากใครให้การสนับสนุนเงินทองข้าวของ จะโดนเรื่องฟอกเงินด้วย เพราะคดีก่อการร้ายเป็นคดีความผิดมูลฐาน ตนขอความร่วมมือว่า หากใครมีคลิป ตนเปิดรับทุกช่องทาง เราต้องการพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ ตนตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตั้งแต่ลานพระรูปถึงถนนอรุณอัมรินทร์ และจากการตรวจสอบตามร้านค้า หากที่ไหนมีกล้องวงจรปิดตามร้านขายของ ก็จะถูกเอาผ้ามาปิด หรือเงยขึ้นข้างบนดูท้องฟ้า หรือกดลงต่ำส่องดูพื้นดิน ผมไม่ได้พูดว่าใครทำ แต่เรามีคลิปว่าใครเป็นคนเอาผ้ามาปิดกล้องวงจรปิด ซึ่งไม่รู้ว่าการกระทำอย่างนี้ เพราะต้องการจะปกปิดความผิดอะไรหรือไม่ คลิปเหล่านี้จะเป็นหลักฐานว่าใครทำอะไร เราก็จะดำเนินการด้วยความละเอียด และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ยืนยันว่าจะสอบสวนด้วยความเป็นธรรมและเป็นกลาง สามารถอธิบายได้ทุกแง่มุม” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
สอบเจ้าของเอสซีปาร์ค ให้ที่พักแกนนำ อริสมันต์โดนหลายข้อหา
ผู้สื่อข่าวเมื่อถามว่าการบุกจับแกนนำไม่ได้ในตอนเช้าเป็นความล้มเหลวและทำให้แกนนำฮึกเหิมมากขึ้นหรือไม่
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ออกไปจับกุมในแต่ละวัน ใช่ว่าจะจับได้ทุกครั้ง เช่นรับแจ้งคนเล่นการพนัน คนที่เล่นก็พยายามหนี ใช้เชือกเส้นเดียวโรยตัวหนีออกไปได้ แต่ไม่ใช่ว่าตำรวจจับไม่ได้ แล้วเขาจะฮึกเหิมออกมาเล่นกลางลาน แต่เขาจะกลัวไม่กล้าออกจากวง รับรองว่างานนี้น้ำก็ไม่กล้าอาบด้วยซ้ำ ไม่ฮึกเหิมแต่จะตรงกันข้ามมากกว่า อย่างเขาประกาศว่าพรุ่งนี้จะไม่ไปไหน ตนถือว่าการทำงานไม่ล้มเหลว เพราะเจออาวุธสงคามก็ต้องดำเนินคดี อย่างตอนเช้ามีคำถามว่า โรงแรมของใครเกี่ยวข้องอย่างไร ตนคงไม่ต้องตอบ ตำรวจแค่ก้าวไปเท้าเดียว อีกเท้ายังไม่ได้ก้าวไปเลย ก็โทรตามกันมาแล้ว ตำรวจยังไม่รู้เลยว่าพักอยู่ห้องไหน แต่พวกเขารู้แล้วก็ไปห่อตัวกันอยู่ตรงนั้น
นอกจากนี้ พล.ต.ต.อำนวย ยังกล่าวถึงกรณีการให้แกนนำใช้พื้นที่ เจ้าของโรงแรมจะมีความผิดขั้นไหนว่า เรื่องนี้ทางบก.น. 4 กำลังตรวจสอบอยู่
และจะเรียกตัวเจ้าของโรงแรมมาสอบสวนว่ารู้แค่ไหนอย่างไร หากมีการบันทึกชื่อแกนนำในสมุดผู้พักด้วย ทั้งที่รู้ว่าเป็นคนมีหมายจับ เพราะมีใครไม่รู้บ้างว่า นายอริสมันต์มีหมายจับในประเทศไทย ผ้สื้อข่าวถามว่า หากแกนนำออกไปนอกประเทศจะออกหมายรียกได้หรือไม่ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า การออกหมายเรียกใช้ได้ในพระราชอาณาจักรประเทศไทย คงจะออกหมายเรียกในต่างประเทศไม่ได้ นอกจากนี้ สิ่งที่เราเป็นห่วงคือกลุ่มอื่นออกมาเคลื่อนไหวในทางตรงข้ามกับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยในขณะนี้ และหากโตขึ้นเรื่อยๆ ก็หายใจรดต้นคอ ศอฉ.กลัวจะเกิดการกระทบกระทั่ง เพราะเป็นปัญหาใหม่ และจะเป็นปัญหาที่เติบโต ขอวิงวอนว่ากลุ่มไหนที่ไม่เห็นด้วย ศอฉ.ไม่อยากจะสู้ศึกหลายด้าน
เมื่อถามว่า กลุ่มที่เกิดใหม่ หรือกลุ่มเสื้อเหลืองที่เปลี่ยนเป็นเสื้อชมพู หรือเสื้อหลากสีในขณะนี้ พยายามจะเข้ามาปะทะกับคนเสื้อแดงหรือไม่
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เกรงว่าแค่นั่งรถเมล์ผ่าน แต่ใส่เสื้อผิดสีไป จะโดนลากไปทำร้ายในกลุ่ม จากแค่คู่เดียวจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวในที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาที่จะเกิดใหม่ เราก็กังวล ตนฝากผู้ชุมนุมทุกกลุ่มว่า เราคนไทยด้วยกันทั้งนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประเมินหรือไม่ว่า ทำไมการจับกุมในวันนี้จึงล้มเหลว เป็นเพราะข่าวรั่วใช่หรือไม่ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า เป็นเพราะมวลชนของเขาเร็ว แค่พนักงานโรงแรมโทรศัพท์บอก กลุ่มคนเสื้อแดงเขาก็มาแล้ว เมื่อถามต่อว่าเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นตำรวจมะเขือเทศใช่หรือไม่ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวติดตลกว่า ผมกินมะเขือเทศไม่ได้ ท้องจะเสีย
เมื่อถามถึงการที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำนปช. ประกาศตามไล่ล่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง
รอง ผบช.น. กล่าวว่า ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะประกาศให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายของแผ่นดิน ประทุษร้ายต่อนายกรัฐมนตรี โดยมีการตั้งค่าหัวไว้ด้วย ทั้งที่เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือน เม.ย.52 ตนได้ออกหมายจับนายอริสมันต์ ซึ่งก็พูดในทำนองว่า นายอภิสิทธิ์ไม่ใช่นายกฯของประชาชน มาไม่ชอบ เจอที่ไหนจับตัวที่นั่น ซึ่งศาลได้ออกหมายจับแล้ว เพราะถือว่าเป็นการประทุษร้ายต่อบุคคลอย่างชัดเจน ยั่วยุให้ประชาชนทำผิดกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 166 (3) โดยคราวนี้ถือว่าหนักกว่า เพราะมีการตั้งค่าหัวด้วย และขณะนี้นายอริสมันต์ถูกตั้งข้อหาในหลายกรรมแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อที่ศอฉ.ขึ้นบัญชีให้การสนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงในการต่อต้านรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จำนวน 51 คน
อาทิ พล.ต.อ.ชัชจ์ กุลล์ดิลก อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง, นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีตรมช.พาณิชย์, ว่าที่ร.ต.สุเมธ ฤทธาคณี ส.ส.ปทุมธานี อดีตพรรคพลังประชาชน, นายสมโภชน์ โกเมนชัย หัวหน้าสถานีวิทยุชุมชนคนจริงใจ 94.75 หัวหน้าสถานีวิทยุ เอฟเอ็ม 87.75 หัวหน้าสถานีวิทยุคนชานเมือง เอฟเอ็ม 95.75, นายสุพร ทองอ่อน, นายธงชัย ใบกว้าง, นายอดิศัย บุญประเสริฐ, นายเฉลิม ช่างทองมะดัน, นายวิชา ชูถิ่น, นายพีระ พริ้งกลาง, นายวรชัย เหมะ, นายชาญนุ ชัยยะ, นายนพคุณ ไตรวรวัฒน์, ผช.ศ.ดร.เมธาพันธ์ โพธีรโรจน์, นายศิริ เพ็งแจ่ม, นายพิชัย ก้อนแก้ว, นายสุวิมล ศรีเจริญ, นายชูพงษ์ ถี่ถ้วน, นายวินัย นกแก้วน้อย, นายสมบัติ บุญแข็ง,
ส่วนรายชี่อผู้ที่เดินทางมาให้ข้อมูลศอฉ. จำนวน 12 คน ดังนี้ 1.นางอมรา จิตรประภา 2.นายสมโภชน์ โกเมนไทย 3.นายธงชัย กวักหิรัญ 4.นายสมบัติ พิมพ์แก้ว 5.นายวีรศักดิ์ คล้อยวิถี 6.นายประดุม เรือนแจ่ม 7.นายโชคชัย รสดี 8.นายวินัย นกแก้วน้อย 9.นายศิริ เพ็งแจ่ม 10.นายสมบัติ บุญแข็ง 11.ว่าที่ร.ต.สุเมธ ฤทธาคณี ส.ส.ปทุมธานี พรรคพลังประชาชน และ 12.นายสุพร ทองอ่อน