วันที่ 15 เม.ย.เวลา 11.00 น. ที่ บช.น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.ประจำ บช.น. แถลงข่าวภารกิจ ศปก.น. ว่า
จากการตรวจสอบพื้นที่บริเวณถนนราชดำเนินตลอดสาย ไม่พบกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งทั้งหมดย้ายไปอยู่ที่แยกราชประสงค์ กินพื้นที่ถนนสุขุมวิทตั้งแต่แยกชิดลมถึงราชประสงค์ ถนนพระราม 1 ถึงหน้าสยามเซ็นเตอร์ ต้องปิดการจราจรตั้งแต่แยกปทุมวันถึงแยกชิดลมถนนราชดำริ ปิดการจราจรตั้งแต่สวนลุมพินี ถึงแยกประตูน้ำ บริเวณโดยรอบพื้นที่ราชประสงค์การดูแลความปลอดภัย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา สบ.10 จะเรียกประชุม ผบก.น.1 5 และ 6 ปรับแผนกันเวลา 13.30 น.วันนี้ (15 เมษายน) คาดว่าน่าจะใช้กำลังเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 1 เท่า จากเดิมที่มีอยู่ 9 กองร้อย จะเพิ่มเป็นประมาณ 18 กองร้อย โดยมีภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ การดูแลสถานการณ์มิให้บานปลาย การป้องกันกระทบระหว่างคนที่ไม่เห็นด้วย ดูแลการจราจร ตรวจค้นอาวุธ รวมทั้งยานพาหนะ
"เราได้ประเมินสถานการณ์มีการติดตามสถานการณ์เป็นระยะๆ ทาง ศอ.ฉ. มอบหมายให้ บช.น.ไปเจรจาตรวจสอบพื้นที่ ขออาวุธยุทโธปกรณ์คืน มีการรับมอบและส่งให้ทางทหารไปแล้ว 29 รายการ ยังมีอีกหลายรายการที่ยังไม่ได้รับคืน ทางกองทัพมีการแจ้งความแล้วสำหรับอาวุธที่ไม่ได้รับคืน รอแจ้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบว่าสิ่งของราชการที่ยังไม่คืน เกิดบุคคลมีวัตถุประสงค์ไม่ดีเอาไปใช้จะเป็นอันตรายแก่ประชาชนทั่วไป" พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า
สำหรับอาวุธปืนที่หายไป เจ้าหน้าที่ทหารไปแจ้งความตามพื้นที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง คือ สน.ชนะสงคราม- นางเลิ้ง -สำราญราษฎร์-ดุสิต เท่าที่ทราบเป็นอาวุธประจำกายเป็นหลัก ที่คืนมาเมื่อวาน (14 เมษายน) ส่วนใหญ่เป็นอาวุธปืนประจำยานพาหนะ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นคนประสานงานเจรจาว่าสิ่งต่างๆ ของทหารไปตกอยู่ที่ใด เช่นรถสายพานก็จะร่วมกันไปตรวจสอบว่ามีสิ่งใดหายไปบ้างก็จะทำบัญชีกัน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อ จากการตรวจสอบพื้นที่ถนนราชดำเนินตั้งแต่คืนที่ผ่านมา มีการตรวจสอบเริ่มตั้งแต่สนามหลวง ราชดำเนินใน-กลาง-นอก-หน้ารัฐสภา การตรวจสอบโดยชุดเก็บกู้ฯ บก.น.1 , 6 และกองร้อย ปจ. 15 กองร้อยที่ดูแลพื้นที่ รวมทั้งสุนัขตำรวจ ไม่พบสิ่งผิดปกติ วัตถุระเบิด ส่วนใหญ่เป็นเต้นท์ สิ่งของบางส่วน กำลังทยอยรื้ออยู่ ทาง บก.จร.จะทยอยเปิด การจราจรเป็นช่วงๆ ไป น่าจะเปิดการจราจรได้ทั้งหมดภายในวันนี้ (15 เมษายน) นอกจากนี้นครบาลได้มีการจัดชุดปฏิบัติการจิตวิทยา ตชส.ของ สน. ของกองร้อยควบคุมฝูงชน และ กองร้อย ปจ.หญิง ลงไปตรวจเยี่ยมยังพื้นที่ที่มีการชุมนุม ทั้งบริเวณสี่แยกคอกวัว ถนนข้าวสาร ถนนตะนาว ถนนดินสอ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำความเข้าใจ สร้างความมั่นใจ ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐยังดูแลอยู่ ก่อนจะขยายไปปฏิบัติในพื้นที่ราชประสงค์ด้วย
"การปรับกำลังจะถอนจากราชดำเนินบางส่วนไปเสริมที่ราชประสงค์ ยกเว้นที่ต้องดูแลสถานที่สำคัญ ศาลฎีกา พระบรมราชวัง ทำเนียบ รัฐสภา หน่วยงานราชการต่างๆ จะยังคงไว้ ปรับ ศปก.ส่วนหน้าจาก 7 แห่ง เหลือ 3 แห่ง" พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
เมื่อถามเรื่องการตรวจสอบหาตัวบุคคลใช้อาวุธสงครามในคืนวันที่ 10 เม.ย. พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า
มีการดำเนินการต่อเนื่องทั้ง บช.น. บช.ก. จะเดินคู่ขนานไปกับการสอบสวนโดย พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ที่ขอความร่วมมือทุกฝ่ายที่มีข้อมูลคลิปวีดิโอ ภาพถ่ายต่างๆ มาประกอบในการตรวจสอบ ส่วนฝ่ายจับกุมก็เดินไปตามเส้นทางของตนเองไป สำหรับการจับกุมแกนนำ24 คน เป็นภารกิจของ บช.ก.รับผิดชอบอยู่ ส่วนของ บช.น.ก็มีการดำเนินการบางส่วนพร้อมกับสนับสนุน บช.ก.ในการปฏิบัติ
เมื่อถามเรื่องอริสมันต์ ตั้งค่าหัวฝ่ายรัฐบาลและทหาร 3 คนหัวละ 1 ล้านบาท พล.ต.ต.อำนวยบอกว่า
พล.ต.ต.อำนวย ได้ดำเนินการตรวจสอบอยู่ทั้งหมดไม่ใช้เฉพาะตรงที่พูดเรื่องค่าหัวเท่านั้น ซึ่งผู้ที่ขึ้นปราศรัยจะต้องรับผิดชอบทั้งความผิดส่วนตัว และความผิดต่อบ้านเมือง ฝ่ายสอบสวนจะเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการอยู่