ฝ่ายค้านศรีลังกาแฉ ปธน.มหิทรา รับเงินแม้ว

นายโสมวันษา อมราสิงเห ผู้นำพรรค JVP ของศรีลังกาได้ออกมาท้าประธานาธิบดี มหิทรา ราชปักษี ให้เปิดเผยข้อตกลงที่เขาเคยทำกับ พตท.ทักษิณ ชินวัตร เรื่องการใช้เงินของฝ่ายหลังอุดหนุนการเลือกตั้ง

เว็บไซต์ srilankanewsfirst.com รายงานว่า
 
ผู้นำพรรค JVP ของศรีลังกา นายโสมวันษา อมราสิงเห เผยว่า พตท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางมาที่ศรีลังกาอย่างลับๆ พร้อมด้วยผู้ติดตาม 5 คน โดยเครื่องบินส่วนตัวเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมปีกลาย และได้เข้าพูดคุยกับ ปธน.มหิทรา ราชปักษี  ทั้งที่เมืองอนุราธปุระ และโคลัมโบ

นายโสมวันษากล่าวถึงข้อกังขาที่ว่าเงินของ พตท.ทักษิณ ได้ถูกใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในนามพรรค UPFA ของปธน.มหิทรา ราชปักษี พร้อมทั้งยกตัวอย่างมาตรการตอบโต้ทางการเมืองของไทย เมื่อครั้ง พตท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปยังกัมพูชา ที่เลือกใช้วิธีการระงับความสัมพันธ์ทางการฑูต

ผู้นำพรรคฝ่ายค้านศรีลังกากล่าวต่อว่า

นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยว่าเงินของกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลมหรือ LTTE ได้ถูกใช้ในการเลือกตั้งด้วย อีกทั้งนายกุมารัน ปัทมานาธาน (KP) หนึ่งในผู้นำของ LTTE ยังได้รับการยอมรับในบางส่วนของประเทศไทย เมื่อครั้งที่  พตท.ทักษิณ ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ รวมถึงมีการซื้อขายอาวุธกันเป็นจำนวนมาก ทำให้เชื่อว่าเป็นไปได้ที่ความร่ำรวยส่วนหนึ่งของ พตท.ทักษิณ มาจากเงินของกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม

นอกจากนี้แม้ว่าศรีลังกาและไทยจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ข้อตกลงระหว่าง  ปธน.มหิทรา และ พตท.ทักษิณ จะส่งผลกระทบต่อเรื่องนี้ เนื่องจากข้อตกลงของทั้งสองเป็นไปอย่างลับๆ และไม่เกี่ยวข้องกับการฑูต ซึ่งส่งผลต่อมาตรฐานการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ เพราะใครๆก็สามารถนำเงินออกนอกประเทศได้ และจากนี้ไปจะ มีแต่เงินสกปรกเข้ามาแทน

นายโสมวันษากังวลว่าเรื่องเหล่านี้จะทำให้ประเทศขาดความน่าเชื่อถือในสายตาต่างชาติ และกระทบต่อชื่ือเสียงของชาติ ซึ่งปธน.มหิทรา ไม่มีสิทธิ์ที่จะดึงศรีลังกาให้ตกต่ำจนอยู่ในสถานะนั้น

ขณะที่ส.ส.พรรค JVP นายพิมาน รัตนยะเก กล่าวเสริมว่า
 
เรือทุกลำของ LTTE ที่ถูกกองทัพเรือศรีลังกาทำลาย ล่องมาจากน่านน้ำบริเวณไทย-อินโดนีเซีย  ซึ่ง KP ได้ใช้สมรภูมินี้เป็นที่ค้าอาวุธสงคราม และข้อตกลงซื้อขายส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อครั้ง พตท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย

ทั้งนี้แหล่งข่าวรายงานว่า
 
พตท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางมาศรีลังกาด้วยเครื่องบินส่วนตัวซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะตามกฎแล้วการขอนำเครื่องบินส่วนตัวลงจอดที่สนามบินนานาชาติ กะตุนายะเก ต้องได้รับอนุญาตก่อน ซึ่งทางสถานฑูตไทยประจำศรีลังกาก็ไม่ได้ทำเรื่องติดต่อมาแต่อย่างใด จึงคาดว่าคนที่ดำเนินการในเรื่องนี้น่าจะเป็น นายจามัล ราชปักษี น้องชายของปธน.ราชปักษี ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีการบิน หรือไม่ก็ญาติของ ปธน.ที่เป็นประธานของบริษัทการบิน

นอกจากนี้ พตท.ทักษิณ ชินวัตร  ยังไม่ได้ถือหนังสือเดินทางทางการทูต ซึ่งตามกฎแล้วจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าศรีลังกาผ่านทาง VIP เลาจ์ แต่อดีตนายกฯไทยกลับผ่านทางช่องทางดังกล่าวได้ อีกทั้งค่าธรรมเนียมในการจอดเครื่องบินส่วนตัวจำนวนมหาศาล ก็ไม่ได้มีการเรียกเก็บแต่อย่างใดด้วย

ผลของการเจรจาอย่างลับๆของ พตท.ทักษิณ ชินวัตร  ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายกุมารัน ปัทมานาธาน (KP) หนึ่งในผู้นำของ LTTE ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ของสถานฑูตศรีลังกาในประเทศไทยตกที่นั่งลำบาก และจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้รายงานว่ารัฐมนตรีต่างประเทศศรีลังกา ได้โทรศัพท์ขออภัยต่อกระทรวงต่างประเทศของไทยแล้ว