คำไว้อาลัยจากเพื่อนพ.อ. ร่มเกล้า ธุวธรรม

พ.อ.(พิเศษ)ร่มเกล้า ธุวธรรม (เตรียมทหารรุ่นที่ 25 จปร.รุ่น36)รองเสธนาธิการ พล.ร.2 รอ. ค่ายจักรพงษ์ ปราจีนบุรี ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณืปะทะกันระหว่างฝ่ายทหารและกลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณสี่แยกคอกวัว เมื่อค่ำวันที่ 10 เมษายน 2553  โดยเชื่อว่า โดนลอบยิงเอ็ม 79 จากกองกำลังไม่ทราบฝ่าย


ขณะที่พล.ต. วลิต โรจนภักดี ผบ.พล.ร.2 รอ.บาดเจ็บสาหัสโดนระเบิดที่ขา และ พ.ท. เกรียงศักดิ์ นันทโพธิ์เดช ผู้บังคับกองพันทหารราบที่2  กรมทหารราบที่ 12 รอ. บาดเจ็บสาหัสโดนสะเก็ดระเบิดที่หัว


การเสียชีวิตของ พ.อ.(พิเศษ)ร่มเกล้า นอกจากทำให้แวดวงสีเขียวสั่นสะเทือนอย่างหนักแล้ว บรรดาศิษย์เก่าโรงเรียนเซ็นต์คาเบรียล Saint Gabriel′s College ยังรู้สุญเสียเพื่อร่วมสถาบันด้วย

ต่อไปนี้เป็นคำไว้อาลัยจากศิษย์เก่าร่วมโรงเรียน
-----------------------------

รบกวนทุก ท่านที่ ศาลาวรจักร วัดเทพศิรินทร์ นะครับ(รดน้ำศพเย็นวันที่ 12 เมษายน)

ขอบคุณครับ
---------------

เสียใจจริงๆครับ กับเหตุการณ์เมื่อคืน ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและเลือดเนื้อของหลายคน รวมทั้ง พ.อ. ร่มเกล้า ธุวธรรม รองเสธฯ พล.ร.2 รอ. ค่ายจักรพงษ์ ปราจีนบุรี รุ่นพี่เซนต์ฯของผมนี่เอง


ผมทันรุ่นกับพี่ร่มหรือพี่เปา เพราะแกเป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กกิจกรรมซึ่งเคยได้ทำกิจกรรมในวันวิชาการด้วยกัน

พี่ร่ม เป็นกำลังสำคัญในการสลายกำลังของพวกเสื้อแดงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงเมื่อเมษายนปีที่แล้ว โดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อ และยังเป็นอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ซึ่งการตรวจสอบตามกระบวนการของพี่ร่ม ทำได้ละเอียดรอบคอบ ถูกต้อง มีเอกสารหลักฐานยืนยันชัดเจน จนนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย จว.แพร่ และนายชลน่าน ศรีแก้ว จว.น่าน ซึ่งเป็นคณะกรรมการร่วมในการตรวจสอบดังกล่าวไม่พอใจ


นายชลน่าน ถึงขนาดพูดออกมาว่า "คุณมันไม่เหมาะที่จะเป็นทหารแล้ว" และนายวรวัจน์ ยังออกปากตำหนิพี่ร่มในทำนองให้หาผู้สั่งการตัวจริงว่า ทหารไม่ควรโบ๊ยไปมา ซึ่งพี่ร่ม ก็ตอบกลับไปอย่างขึงขังว่า


"ผมพูดตรงๆ ไม่เคยโบ้ยใคร ผมเป็นทหารไม่ใช่นักการเมือง"


จากเหตุการณ์ต่อเนื่องนี้ ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่พอใจพี่ร่ม และทหารใต้บังคับบัญาเป็นอย่างมาก จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า การที่พี่ร่ม ถูกกระสุนหลายนัดที่ศรีษะและลำตัว น่าจะมาจากการชี้เป้าให้ยิง มากกว่าจะเป็นจากกระสุนลูกหลง

(เนื้อหาจากข้อความของพี่ อากรกูล จาก www.sgalumni.com)


อย่างพี่ร่ม มาเสียชีวิตจากน้ำมือคนไทย....แบบนี้ น่าเสียดายจริงๆ

---------------

ขอไว้อาลัยต่อท่าน พ.อ ร่มเกล้า ชุวธรรมผู้เสียสละเพื่อประชาชน
by siamman » Sun Apr 11, 2010 3:34 pm

วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2553
ร่มเกล้า ธุวธรรม MO Memoir : Sunday 11 April 2553

ด้วยว่าโรงเรียนที่เรียนมาด้วยกันนั้น เวลาที่ใครอยู่ห้องไหนก็จะอยู่ห้องนั้นด้วยกันตั้งแต่ ป.๑ ไปจนถึง ม.๓ ช่วง ม.๓ ขึ้น ม.๔ ก็จะมีเพื่อน ๆ ย้ายโรงเรียน ทางโรงเรียนก็จะมีการจัดแบ่งห้องใหม่ ทำให้ผมกับมันได้มาเรียนอยู่ห้องเดียวกันในช่วงม.ปลาย


ตอนแรกคิดว่ามันจะเลือกเรียนวิศวด้วยกัน และมันก็จบวิศวด้วย แต่จบจากโรงเรียนนายร้อยทหารบก จากนั้นก็ทราบข่าวว่าได้ไปอยู่แถวชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะกับกองกำลังแถวนั้นก็หลายครั้ง บางครั้งก็ต้องจัดการกับพวกขโมยรถไปขายต่างประเทศ


ตอนผมเรียนจบจากต่างประเทศ มาแต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่ชลบุรี ก็มาทราบข่าวว่า มันมาเป็นนายทหารอยู่ที่ค่ายทหารตรงถนนสุขุมวิทก่อนถึงตัวจังหวัดชลบุรี


จากนั้นเราก็ไม่ค่อยเจอกัน เว้นแต่วันที่มีงานรวมรุ่นโรงเรียน (ซึ่งผมก็ไม่ค่อยจะได้ไป) ได้รับการติดต่ออีกทีจากมันเรื่องหาคนที่รู้จักการอ่านแผนที่ดาวเทียม (จำได้ว่าเป็นช่วงหลังเหตุการเผาสถานฑูตไทยมาพักหนึ่งแล้ว) ผมก็เลยพามันไปหาเพื่อนที่เป็นอาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านนี้ เพื่อแนะนำให้รู้จักกัน วันแรกที่เขาไปพบกันนั้นผมนั่งฟังสองคนคุยกันอยู่ร่วม ๓ ชั่วโมง (โดยที่ไม่ค่อยรู้เรื่องว่าเขาคุยอะไรกัน) ดูเหมือนว่าช่วงนั้นมันจะทำงานด้านปราบปรามการบุกรุกป่า


พบกันอีกทีช่วงหลังปฏิวัติ ทราบว่า มันได้รับคำสั่งให้เป็นผู้นำทหารเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล

หลังจากนั้นอีกประมาณหนึ่งปี ผมก็ได้รับการ์ดเชิญให้ไปร่วมงานแต่งงานของเขาที่โรงแรมแห่งหนึ่งบนถนนพระราม ๑ บรรยากาศของงานวันนั้นสนุกสนานมาก เพื่อนร่วมโรงเรียนต่างเฝ้ารอคอยเวลาสำคัญ คือเวลาที่เจ้าบ่าวจะร้องเพลงที่มันพูดไว้ตั้งแต่สมัยอยู่โรงเรียนแล้วว่าถ้ามันแต่งงานเมื่อใดมันจะร้องเพลงนี้ให้เจ้าสาวฟัง ซึ่งก็ต้องใช้เวลากว่า ๒๐ ปีกว่าที่มันจะได้ร้องเพลงนี้ และนั่นเป็นการที่ผมได้พบและพูดคุยกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย


จากสถานการณ์บ้านเมืองที่มีผู้พยายามก่อความเสียหายโดยเห็นแก่เงินและอำนาจที่ตัวเองจะได้ในช่วงเมษายนปีที่แล้ว ทำให้เขาต้องออกมาปฏิบัติหน้าที่ในกรุงเทพอีก ผมเห็นข่าวเขาอีกครั้งตอนที่ต้องไปชี้แจงให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ใคร ๆ ก็ดูออกว่าอยู่ฝ่ายไหน ในการซักถามนั้นทางผู้แทนเหล่านั้นพยายามจะบังคับให้พูดว่าทหารใช้อาวุธฆ่าประชาชน และพยายามจะบังคับให้กล่าวหาผู้สั่งการ แต่เขาก็ยืนยันว่าทหารที่ปฏิบัติการนั้นไม่ได้ใช้อาวุธยิงประชาชน และก็ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต และการสั่งการนั้นก็เป็นไปตามลำดับขั้นตอน


ก่อนหน้านั้นมันถูกส่งไปปฏิบัติงานใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้ ก่อนจะลงไปมันยังบ่นเลยว่าไม่รู้ว่าจะให้ไปยิงกับใคร แต่ก็ต้องไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งที่ได้รับ เพื่อไปแก้ปัญหาความไม่สงบที่คนที่ก่อเรื่องไว้ได้หนีไปต่างประเทศแล้ว


เมื่อตอนดึกได้ยินผู้สื่อข่าวประกาศว่ามีนายทหารยศพันเอกนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากอาวุธที่ยิงมาจากกลุ่มผู้ชุมนุม ตอนมาถึงโรงพยาบาลนั้นเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจมาตลอดทาง ผมได้ยินเขาประกาศแต่ชื่อ แต่ในขณะนั้นข่าวก็สับสน ตอนเช้ามืดเปิดดูข่าวทางเน็ตก็พบรายงานข่าวว่าสามารถปั๊มหัวใจให้ฟื้นขึ้นมาได้


แต่พอตอนหลังแปดโมงก็มีรายงานข่าวว่ามีนายทหารเสียชีวิต ๑ นาย แต่ยังไม่มีการประกาศชื่อ ต่อมาสักพักก็มีการประกาศชื่อนายทหารยศพันเอกพิเศษที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า (http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=2&t=20127&start=0#p323579)


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์