สุรยุทธ์ยืนยัน ไม่อยู่นาน ไม่ยืดเยื้อ

"ไม่ต้องการอยู่นาน อยากทำงานให้เสร็จ"


หลังจากที่ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ออกมาพูดว่า รัฐบาลจะอยู่ทำหน้าที่นานถึง 1 ปี 5 เดือน เพื่อให้การร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสมบูรณ์ พร้อมกับเลือกตั้งเรียบร้อยแล้วนั้น ล่าสุด นายกรัฐมนตรีได้ออกมาย้ำว่ารัฐบาลไม่ต้องการอยู่นาน อยากทำงานให้เสร็จและมีการเลือกตั้งเร็วที่สุด

สุรยุทธ์ อยากเลือกตั้งเร็วที่สุด

เมื่อวันที่ 19 ต.ค.เวลา 11.30 น. ที่มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ถนนอู่ทองนอก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ระบุว่ารัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จะอยู่บริหารงานไปถึง 1 ปี 5 เดือน ว่า เรื่องนี้ถ้าอยากจะให้ยืนยัน ก็ยืนยันได้เลยว่าจะพยายามทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ พูดตรงๆ วันนี้ไม่อยากแบกรับหน้าที่เกินความจำเป็น ความจำเป็นก็คือทำให้เร็วที่สุด และถ้ามีรัฐบาลใหม่ผ่านการเลือกตั้งของประชาชน ก็เป็นสิ่งที่ตนหวังไว้เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าไม่หวัง อยากให้มีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งมาบริหารประเทศให้ถูกต้อง และอยากเห็นรัฐบาลที่ดีที่จะมาสานต่อแนวทางที่รัฐบาลชั่วคราวนี้วางไว้และก้าวต่อไปข้างหน้า แนวคิดของผมไม่มีอะไรมากนัก คือนำเอาบทเรียนในอดีตมาแก้ไขเพื่อสร้างปัจจุบันให้ดีขึ้น มีอนาคตที่ดียิ่งขึ้นกว่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลนี้มีโอกาสที่จะอยู่เกิน 1 ปี หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ผมจะพยายามใช้เวลาให้น้อยที่สุด ผมตอบได้แค่นั้นเอง แต่เวลาจะเป็นเท่าไหร่ ไม่แน่ใจ แต่ยืนยันกับทุกคน ต่อหน้า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ว่า ผมจะพยายามทำให้สั้นที่สุดเท่าที่จะสั้นได้

วอนทุกฝ่ายร่วมมือแก้ไขปัญหา

ต่อข้อถามว่า เหตุผลการร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ จะทำให้ขยายเวลาอายุรัฐบาลไปถึง 1 ปี 5 เดือนหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า เรื่องนี้ได้ให้หัวข้อประชาชนแสดงความคิดเห็นไปแล้ว 3 ข้อ คือรัฐธรรมนูญท่านอยากจะได้สั้นหรือยาว หรืออยากจะได้แก้ง่ายแก้ยาก เราอยากจะได้อย่างไหน เวลานี้คือเราอยากฟังความคิดจากพี่น้องประชาชนมากกว่ามาถามตนว่าอยากจะให้เป็นอย่างไร ในกระบวนการยุติธรรมก็เหมือนกัน ที่ผ่านมาได้พูดไว้ในครั้งแรกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมือง หรือ 3 จังหวัดชายแดน มันเกี่ยวข้องกับความเป็นธรรม ในสังคมค่อนข้างมาก ส่วนเรื่องคุณธรรมนำการศึกษาก็เป็นเรื่องที่ยาวและเป็นเรื่องยาก แต่อยากฟังจากพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เรื่องศาสนาอย่างเดียว เพราะบ้านเมืองเรามีหลายศาสนา และจะนำคุณธรรมมาสู่ระบบการศึกษาอย่างไร อยากรวบรวมความคิดเห็นอยากฟังมากๆ จะทำเป็นเอกสาร งานวิจัย งานสัมมนา ก็จะเปิดโอกาสให้ทำ เพื่อที่จะเพิ่มพูนในสิ่งเหล่านี้ ยิ่งถ้าได้เร็วจะยิ่งทำให้งานของตนลุล่วงไปได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น รวมถึงความร่วมมือของประชาชนด้วย ถ้าจะให้ตนไปเร็วๆท่านก็ต้องช่วย

แก้ประกาศฉบับที่ 7 รอเปิดสภาฯ

ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในการแก้ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 7 พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ยังอยู่ในขั้นตอนจะเสนอต่อสภานิติบัญญัติ ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ไม่มีปัญหาแล้ว ต้องรอให้เปิดสมัยประชุมสภาฯก่อน และทราบว่าในวันที่ศุกร์ที่ 20 ต.ค.นี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯทรงเป็นผู้แทนพระองค์ ในพระราชพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา หลังจากนั้นก็คงดำเนินการนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯได้

สุรยุทธ์ ระบุขอทำงานเพื่อชาติ


ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 7 ธนาคาร ทหารไทย สำนักงานใหญ่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการแถลงยุทธศาสตร์ชาติเฉพาะด้าน เรื่องการเสริมสร้างอุดมการณ์ความรักชาติ โดยนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ปี 2548 ทั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนมีความปลาบปลื้มที่ได้มาอยู่ท่ามกลางท่านอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ความรู้สึกย้อนกลับไปประมาณ 10 ปี การที่จะเป็นขิงแก่ ก็เป็นขิงที่กำลังพอดีๆ พอเป็นขิงแก่แล้วมันเกิดความรู้สึกหลาก หลายว่า เวลาที่มีอยู่ของขิงแก่นั้นมันน้อยลงๆทุกที ฉะนั้นเวลาที่เหลือก็อยากจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมืองบ้าง เป็นความรู้สึกที่ดี ที่จะทำให้ตนมีกำลังใจ มองเห็นแสงไฟ แสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์อยู่บ้าง ไม่ได้เป็นความมืดมิด จนกระทั่งไม่เห็นเลยว่า โอกาสข้างหน้านั้นเป็นอะไร การทำงานของรัฐบาลนั้นในอันดับแรกคือความมีส่วนร่วมของประชาชน

รับสื่อมีอิทธิพลจูงใจชาวบ้าน

พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า อยากจะฝากนักศึกษา วปอ.ช่วยกันพิจารณา และให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญเรื่องสังคมที่ยังขาดความเป็นธรรม ซึ่งสะท้อนไปสู่ปัญหาหลัก 2 ประการคือ ปัญหาทางการเมืองของเรา และปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำอย่างไรที่เราจะแก้ไขกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองเราให้มันเกิดความเป็นธรรมขึ้นมา นอกจากนี้ เห็นด้วยกับการที่ให้ความสำคัญเรื่องสื่อ อย่างน้อยๆก็เห็น อย่างโฆษณาครีมหน้าเด้งนั้นทำให้เด็กผู้หญิงสนใจในเรื่องผิวขาวหน้าเด้งอะไรกันมากมาย และต้องเสียเงินทองไปทำสิ่งเหล่านี้ ซึ่งมันเห็นชัดว่า อิทธิพลของสื่อที่กระทบต่อความรู้สึกของผู้คนมีค่อนข้างมาก ดังนั้นจะทำอย่างไรที่จะหาความสมดุลในเรื่องการใช้สื่อ

ลั่นไม่อยู่ยืดเยื้องานเสร็จก็ไป

พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ได้รับคำถามจากสื่อมวลชน ว่า รัฐบาลจะอยู่นานเท่าไหร่ จะอยู่ไปถึง 17 เดือน อย่างที่นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้พูดไว้หรือไม่ ถ้าถามก็บอกว่า จะพยายามทำหน้าที่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เพราะรับมาทำงานนี้ก็เหมือนงานของตนที่ผ่านมาในชีวิตราชการทหาร เป็นงานที่คนอื่นไม่อยากทำทั้งสิ้น ก็โยนมาอยู่ที่ตน เมื่อรับมาแล้วก็จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ เมื่อเสร็จภารกิจก็ขออนุญาตอำลา เพราะชีวิตทหารก็เป็นอย่างนั้น เมื่อทำเสร็จแล้วเราก็ไป ไม่ได้คิดจะอยู่ยืดเยื้อ ไม่ได้คิดที่จะแสวงหาอะไรเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากการทำงานที่ได้รับมอบให้ดีที่สุด และส่งมอบงานให้คนอื่นต่อไป ถ้าได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายใน 3 เรื่องหลักๆ ก็คิดว่าสามารถจะย่นเวลาในการทำงานของตนลงไปได้

บุญสร้าง ย้ำ คมช.พร้อมวางมือ

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่ารัฐบาลจะยืดระยะเวลาการบริหารงานออกไปเป็น 1 ปี 5 เดือนว่า เป็นการคาดการณ์ส่วนตัว แต่ที่แน่นอน คมช.จะพยายามอยู่ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด ซึ่งความจริง คมช. ไม่อยากจะยืดระยะเวลาการทำงาน เพราะไม่รู้จะยืดไปทำไม และอยากให้จบโดยเร็ว ยืดไปก็ไม่ได้อะไร เพราะมีงานต้องทำอีกมากมาย และความจริง คมช.ไม่ได้ยืดระยะเวลาออกไป แต่บางเรื่องอาจมีความจำเป็นเฉพาะเรื่อง เมื่อถามถึงกรณีคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว พล.อ.บุญสร้าง กล่าวเพียงสั้นๆว่า ต้องไปถามผู้ที่รับผิดชอบ

ตั้ง กก.สรรหาสมัชชาแห่งชาติ


ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบัญชาการกองทัพบกว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. ลงนามในคำสั่งที่ 8/2549 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ (กดส.) ระบุว่าเพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ จึงแต่งตั้งให้ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และในฐานะรองประธาน คมช. เป็นประธาน กดส. โดยมีกรรมการทั้งสิ้น 16 คน ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงแรงงาน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ พญ.กมลพรรณ ชีวพันธุ์ศรี นายอำนาจ สอนอิ่มศาสตร์ นางอมรา พงศาพิชญ์ นายสมชาติ เลขาลาวัลย์ นายสุพจน์ ไข่มุกด์ นางสุทธินี เมธีประภา นายชวลิต หมื่นนุช ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. 2549 เป็นต้นไป

บุญรอด ย้ำอยากวางมือเร็วที่สุด

ด้าน พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลจะขยายระยะเวลาในการบริหาร ประเทศออกไปเป็น 1 ปี 5 เดือน ว่าท่านเพียงแต่คาดการณ์ว่าการร่างรัฐธรรมนูญน่าจะเสร็จเมื่อไร การประมวลผลจะเสร็จเมื่อไร ท่านได้คาดการณ์ว่า ทุกอย่างจะเสร็จอย่างเร็วที่สุดภายใน 1 ปี 5 เดือน แต่นายกรัฐมนตรีระบุว่า ท่านอยากให้ทุกอย่างเสร็จโดยเร็ว ยิ่งเสร็จเร็วเท่าไรยิ่งดี ถ้าเสร็จเมื่อไรก็จะวางมือวันนั้น ดังนั้น หาก กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญออกมาเร็วก็จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเร็วขึ้น เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าอยากให้ทุกสิ่งทุก อย่างเสร็จแล้วรวมถึงการประกาศกฎอัยการศึกด้วยหรือไม่ พล.อ.บุญรอดตอบว่า กฎอัยการศึกต้องเลิกก่อน คาดว่าไม่นานเกินรอ อย่างที่ตนได้เคยบอกไว้

วินัย มั่นใจสมัชชาจะได้คนดี

ขณะที่ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่ คมช.แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ (กดส.) ว่า คมช.แต่งตั้งให้ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ และรองประธาน คมช. เป็นประธาน กดส. โดยเราวางกรอบเวลาสรรหาสมัชชาแห่งชาติไว้ไม่น่าจะเกิน 1 เดือน แต่ ต้องให้ กดส.มีการประชุมหารือก่อน เมื่อถามว่า หลายฝ่ายเกรงว่าให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแลหลักในการสรรหา อาจทำให้มีคนใกล้ชิดกลุ่มฐานอำนาจเดิมเข้ามาเป็นสมัชชาแห่งชาติ พล.อ.วินัยตอบว่า กำลังพิจารณาโครงสร้างว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งจะหากลไกที่มีความเหมาะสมที่สุด รายละเอียดต้องให้ พล.อ.อ.ชลิตเป็นผู้ชี้แจง ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะได้คนดีจากทุกภาคส่วนทุกระดับ


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์