สนธิแฉรมต.รับพันล.แลกขึ้นราคาน้ำตาล-ย้อนตำนานโกงทักษิณ

สนธิแฉรมต.รับพันล.แลกขึ้นราคาน้ำตาล-ย้อนตำนานโกงทักษิณ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 มีนาคม 2549 00:26 น.

สนธิ นำสาปแช่งรัฐมนตรีเรียกพันล้านจากพ่อค้าแลกข้อเสนอขึ้นราคาน้ำตาล พร้อมย้อนอดีตตำนานโกง-วิ่งเต้นทำธุรกิจผูกขาดของทักษิณ แฉเข้ามาเล่นการเมืองเพียงเพื่อหวังปกป้องทรัพย์สินของตัวเองเท่านั้น เรียกร้องสร้างพลังประชาชนให้เข้มแข็งตรวจสอบคนโกงชาติ นัดเปิดโปงนักการเมืองทุจริตหากำไรจากความพินาศของคนไทยอีกรอบคืนพรุ่งนี้ (9 มี.ค.)

นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีอีกครั้งเมื่อเวลา 23.00 น.อ้างข้อมูลลับจากเพื่อนซึ่งเป็นพ่อค้าน้ำตาล ระบุ คนในวงการต้องรวมตัวกันจ่ายเงินเป็นพันล้านบาท เพื่อให้มีการประกาศขึ้นราคาน้ำตาลขึ้นอีก จึงได้เชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันสาปแช่ง โดยกล่าวถ้อยคำดังนี้

"ข้าแต่พระแก้วมรกต เจ้าพ่อหลักเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่อยู่ในแดนสยาม พระสยามเทวาทิราช เจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าทุ่งเจ้าถ้ำ พระเพลิงพระพายพระแม่ธรณี ลูกขอตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบันดาลให้นักการเมืองที่กินเงินพันล้านเรื่องค่าน้ำตาล ขอให้มันพินาศชิบหาย ถ้ามันเป็นโรคขอให้มันตายโดยเร็ววัน ถ้ามันสุขภาพสมบูรณ์ขอให้มันเป็นโรคทันทีทันใด ขอให้เวรกรรมนี้จงลงไปสู่ลูกหลานมันด้วย ขอให้ตระกูลมันทำมาหากินไม่ขึ้น ขอให้มันพินาศชิบหายทั้งโคตรเหง้าเลย"

นายสนธิกล่าวว่า นอกจากน้ำตาลแล้วยังมีสินค้าตัวอื่นอีกที่ประชาชนต้องแบกรับราคาที่แพงเกินจริง อันเนื่องมาจากการโกงกินในระบบทักษิณ อาทิ เชื้อเพลิงเอธานอล ที่มีการผูกขาดสั่งเอธานอลเข้ามาขาย ขณะเดียวกันก็จงใจตรึงราคาน้ำมันให้แพงเหมือนเดิม แทนที่ราคาน้ำมันจะลดลงได้ เนื่องจากกลัวว่าเอธานอลจะขายไม่ออก

โอกาสนี้ นายสนธิยังแฉความหลังเส้นทางธุรกิจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรให้ฟังด้วยว่า สมัยก่อนมาเป็นนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนค้าขาย ที่เปิดโรงหนังทำธุรกิจที่ต้องแข่งขัน แต่แข่งไปแข่งมาแข่งไม่ได้ เลยเปลี่ยนวิถีชีวิต หันมาวิ่งเต้นขายคอมพิวเตอร์ให้หน่วยราชการแทน โดยเริ่มจากบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์

หลังจากวิ่งเต้นขายคอมพิวเตอร์ให้ตำรวจ รู้ช่องทางจ่ายเงินใต้โต๊ะ พ.ต.ท.ทักษิณก็เริ่มคิดทำเคเบิลทีวี ชื่อ ไอบีซี ซึ่งได้สัมปทานมาในสมัยที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จนกระทั่งวันหนึ่ง พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ ขอให้ร.ต.อ.เฉลิมจัดสัมปทานเคเบิลทีวีให้นายคีรี กาญจนพาสน์ ลูกชายของนายมงคล กาญจนพาสน์ ซึ่งเคยรับใช้จอมพลผิน บิดาของพล.อ.ชาติชาย

ร.ต.อ.เฉลิมสนองคำนาย จัดสัมปทานไทยสกายทีวีให้นายคีรี จึงกลายเป็นชวนให้พ.ต.ท.ทักษิณและร.ต.อ.เฉลิมไม่กินเส้นกันนับตั้งแต่นั้น เพราะทำให้ไอบีซีมีคู่แข่ง

นายสนธิเปิดเผยข้อมูลเบื้องลึกวงการธุรกิจ-การเมืองให้ฟังอีกว่า พล.อ.ชาติชายไม่ถูกกับนายทหารจปร.รุ่นห้า ซึ่งก็รวมถึง พล.อ.สุจินดา คราประยูร ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นับถือเป็นพ่อ ทั้งนี้ พล.อ.สุจินดามีคู่เขยเป็นพล.อ.อิสรพงษ์ หนุนภักดี ซึ่งก็มีคู่เขยนามสกุลเจียรวนนท์ เจ้าของเครือซีพี ซึ่งอยากจะทำโทรศัพท์พื้นฐาน

เมื่อรุ่นห้ามีอำนาจ จึงสามารถเขย่าบัลลังก์พล.อ.ชาติชายได้ จนพล.อ.ชาติชายต้องเรียกให้นายมนตรี พงษ์พานิช จัดการสัมปทานให้ บริษัทเทเลคอมเอเชียจึงได้โทรศัพท์พื้นฐาน 3 ล้านเลขหมายในกรุงเทพมหานคร

ส่วนการปฏิวัติเดือนพฤษภาคม ปี 2535 เกิดขึ้นโดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากการที่ทหารไม่พอใจ ที่ร.ต.อ.เฉลิมนำรถอ.ส.ม.ท. ไปดักฟังโทรศัพท์นายทหารรุ่นห้า จึงเกิดการปฏิวัติขึ้น ซึ่งตัวร.ต.อ.เฉลิมต้องลี้ภัยออกนอกประเทศไปสิงคโปร์ และเดินทางต่อไปยังประเทศเดนมาร์ก

หลังจากนั้นทหารรุ่นห้านำโดย พล.อ.วิโรจน์ แสงสนิท ก็ได้ส่งทหารปตอ.(กองพันกรมทหารปืนใหญ่ ต่อสู้อากาศยาน) สองคันรถมาจับนายสนธิที่สำนักงานถนนพระอาทิตย์ แต่นายสนธิไม่อยู่ที่สำนักงาน นับแต่นั้นหนังสือพิมพ์ผู้จัดการจึงเป็นศัตรูกับทหารรุ่นห้า เพราะไม่ชอบคนที่มาปฏิวัติรัฐประหาร

นายสนธิกล่าวสรุปว่า ธุรกิจของพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มาจากการแข่งขัน แต่เป็นธุรกิจผูกขาด ต้องใช้การวิ่งเต้น การจ่ายสินบน และเมื่อถึงจุดที่มีผลประโยชน์มากขึ้น ก็เริ่มรู้สึกว่าต้องเข้ามาเล่นการเมืองเพื่อปกป้องทรัพย์สมบัติของตัวเอง ซึ่งเป็นจุดแรกที่ทำให้เข้าไปร่วมกับพรรคพลังธรรม จากนั้นได้หยุดพักทางการเมืองไปช่วงหนึ่ง ก่อนจะกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้งหลังเกิดกรณีพฤษภาทมิฬ และเป็นหนึ่งในนายทุนในคราบนักการเมืองที่มีส่วนบิดเบือนมาตราต่างๆ ในร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 เพื่อเปิดช่องให้นักการเมืองซ่อนทรัพย์สินได้

นอกจากนี้นายสนธิยังกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้หนึ่งที่ได้ประโยชน์จากการลดค่าเงินบาท เนื่องจากรู้ข้อมูลภายในล่วงหน้าจากนายทนง พิทยะ จึงถือได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ร่ำรวยบนหยาดน้ำตาและหยดเลือดของประชาชนทั้งนั้น

ทั้งนี้ นายสนธิกล่าวว่า มีตำนานนักการเมืองชั่วๆ ภาคสอง มาเล่าให้ฟังอีกครั้ง โดยขอให้ผู้ชุมนุมมาฟังอีกครั้งในค่ำวันพฤหัสบดี (9 มี.ค.)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์