นปช.ประกาศระดมพลครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด! ล้มรบ.มาร์คให้ได้ใน 9 เม.ย.นี้

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อเวลา 21.00 น.

วันที่ 7 เมษายน บรรยากาศเริ่มตึงเครียด แกนนำสั่งการ์ดมารักษาความปลอดภัยให้แกนนำ โดยยืนคล้องแขนรอบเต๊นท์แกนนำและสื่อมวลชน จากนั้นนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ขึ้นปราศรัยบนเวที ปลุกมวลชนตลอดเวลาให้สู้เคียงคู่กับคนเสื้อแดง

"ผมขอแจ้งไปยังทหารที่จะออกมาปฏิบัติหน้าที่ภารกิจของท่านกำลังจะเข่นฆ่าประชาชนท่านรบเพื่อใคร ถ้าเป็นการรบข้าศึกที่มารุกรานประเทศเพื่อปกป้องแผ่นดินของเรา ครั้งนี้ท่านจะต้องเข่นฆ่าประชาชนที่เป็นคนไทยเหมือนกับท่าน ท่านกล้าถามหัวใจตัวเอง ประชาชนตาย แต่อภิสิทธิ์อยู่ ออกมาอยู่เคียงข้างประชาชนและให้อภิสิทธิ์ยุบสภา ก็จะไม่มีใครตาย คืนนี้หรือเช้านี้จะเป็นเดิมพันว่าอนาคตของคนเสื้อแดงกับนายอภิสิทธิ์ ทรราชย์ของประเทศ"

จากนั้นเมื่อเวลา  17.30 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธาน แนวร่วมประชาชนขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขึ้นปราศรัยว่า ทันทีที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยกระดับถึงขั้นปราบปรามประชาชนแล้ว เมื่อเขายกระดับ เราก็ควรยกระดับการต่อสู้เช่นเดียวกันอย่าว่าแต่อยู่ถึง 15 วันเลย แค่ 1 วันรัฐบาลนี้ก็อยู่ไม่ได้
  

นายจตุพร กล่าวว่า กรณีที่นายสุเทพ เตรียมการนำกำลังทหารจากปราจีนบุรี กาญจนบุรี เพื่อการสลายม็อบ ไปพักไว้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

การกระทำเช่นนี้คล้ายกับกรณีนายเนวิน ชิดชอบ นำเจ้าหน้าที่ ไปใส่เสื้อน้ำเงิน แล้วไปเตรียมการที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขอให้พี่น้องผ่านค่ำคืนนี้ และวันพรุ่งนี้(8เมษายน)ไปให้ได้ แล้วพร้อมกันปิดเกมในวันที่ 9 เมษายน พร้อมฉลองสงกรานต์กันที่นี่ ทั้งนี้ตนไม่อยากไปสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ถ้ามีความจำเป็นก็จะไปสนามบิน เพื่อขอตรวจค้นโกดัง เพื่อขับไล่ทหารออกจากสนามบิน
  

จากนั้นเมื่อเวลา 18.10 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อโทรทัศน์ทุกช่องได้ถ่ายทอดสดการแถลงข่าวการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของนายอภิสิทธิ์  นายณัฐวุฒิ และนายจตุพร พร้อมด้วยแกนนำคนอื่นๆ ต่างมุงดูและรับฟังการแถลงข่าว โดยมีสีหน้าเคร่งเครียด โดยเฉพาะนายจตุพร ส่ายหน้าทุกครั้งที่นายอภิสทธิ์ กล่าวจบประโยค


จากนั้นในเวลา 18.15 น. นายณัฐวุฒิ กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า ขณะนี้รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเรียบร้อย

โดยให้นายสุเทพ เป็นผู้สั่งการ นี่เป็นครั้งแรก ที่การประกาศนี้มีประชาชนมากันมากมาย ไม่มีอาวุธ ขณะที่รัฐบาลมีอาวุธ เลยประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  จากนี้ขอให้ออกมาต่อสู้กันนี่คือยกสุดท้าย สู้ด้วยสันติวิธี จะต้องชนะด้วยมือเปล่าที่จะต่อสู้กับปลายกระบอกปืน ใช้หัวใจสีแดงต่อสู้กับอำนาจอยุติธรรม ใครใกล้ผ่านฟ้า ไปผ่านฟ้า ใครใกล้ ราชประสงค์ไปราชประสงค์ จะเป็นอย่างไรก็เป็นกัน ขอให้ออกมากันเยอะๆ
  

นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  ขอให้พี่น้องใกล้ถานที่ชุมนุมที่ไหน ให้ไปที่นั่น ขณะที่พี่น้องที่อยู่ตามจังหวัดก็ขอให้ไปพร้อมกันที่ศาลากลางจังหวัด ตายเป็นตาย ประชาชนจงเจริญ
  

นายวีระ ขึ้นปราศรัยบนเวทีว่า ใครสันติ อหิงสา ใครกระหายเลือด ก็จะได้รู้กันแล้ว เราจะได้ทรราชย์รายใหม่ คืออภิสิทธิ์กับสุเทพ

นี่เป็นชัยชนะของคนเสื้อแดง ถือว่าพวกเราชุมนุมไม่ได้กลัวความร้อนความหนาว ชุมนุมอย่างสงบ ทำให้รัฐบาลต้องประกาศ พรก.ฉุกเฉิน รัฐบาลเผยธาตุแท้ไม่อาจทนต่อสภาพการต่อสู้ของคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอย่างสงบแบบนี้ต่อไปได้การประกาศภาวะฉุกเฉินไม่มีมูลเหตุอันสมควรถือว่าผิดรัฐธรรมนูญ การประกาศภาวะฉุกเฉินก็เพราะ พรบ.ความมั่นคงไม่อาจยับยั้งการชุมนุมของคนเสื้อแดงต่อไปได้
  

นายวีระกล่าวอีกว่าคนเสื้อแดงไม่ต้องกลัวทำใจให้สบาย พวกเรามีหน่วยสันติวิธีคอยดำเนินการอยู่หากมีการสลายการชุมนุมเกิดขึ้นและให้ระวังอาจจะมีคนไม่หวังดีนำอาวุธมาซุกซ่อนให้กับเรา และแกนนำทุกคนจะอยุ่กับพวกเราไม่ไปไหน ขอให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไม่มีหนทางที่จะทำลายคนเสื้อแดงได้ และไม่อาจทำลายคนเสื้อแดงให้หมดไปจากประเทศนี้ได้
  

ต่อมาเมื่อเวลา 19.30 น.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมคนใดที่มีรถส่วนตัว หรือกลุ่มใดมีรถขอให้มารวมตัวกันที่รถบริเวณทางออกของแต่ละด้าน เช่น ถนนราชดำริ ถนนสุขุมวิท ถนนพระราม 1 ฯลฯ ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมไปรวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมบางอย่างซึ่งจะต้องรอคำสั่งต่อไป


ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 7 เมษายน ที่เวทีราชประสงค์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาชนขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขึ้นเวทีประกาศมติและแนวทางเคลื่อนไหว ว่า แกนนำ นปช.หรือคนเสื้อแดง มีมติแนวทางการเคลื่อนไหวว่า เรายืนยันจะปักหลักชุมนุมที่ราชประสงค์เพื่อชัยชนะต่อไป ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนแปลงพื้นที่การชุมนุมและยังไม่มีการยุบรวมหรือขยายพื้นที่ชุมนุมเพิ่มเติม ยังคงเป็นสะพานผ่านฟ้าและราชประสงค์แห่งนี้ ประกาศต่อมา ข้อเรียกร้องของคนเสื้อแดงท่ามกลางกระแสเจรจารอบ 3 หรือการปรับลดเวลายุบสภาลงของกลุ่มบุคคลองค์กรต่างๆ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีท่าทีชัดเจน จึงยืนยันให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ยุบสภาภายใน 15 วัน


นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากวันนี้นายอภิสิทธิ์ และครม.ได้เดินทางไปประชุม ครม.ที่อาคารัฐสภาในช่วงเช้า

ต่อมาในช่วงสายขณะมีการประชุมสภาผู้แทนฯ แกนนำคนเสื้อแดง นำโดยนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายขวัญชัย ไพรพนา นำพาคนเสื้อแดงจากสะพานผ่านฟ้าจำนวนหนึ่ง ไปที่อาคารรัฐสภาเพื่อกดดัน ปรากฏว่าในช่วงเวลาเดียวกัน ผมได้รับข้อมูลแน่ชัดว่า สุเทพได้มีคำสั่งเด็ดขาดจากห้องประชุมรํฐมนตรีให้กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอซีที) ติดต่อไปยังไทยคมให้ตัดสัญญาดาวเทียมพีเพิลแชแนลทันที โดยอ้างเหตุแห่งความมั่นคงของประเทศ
(พร้อมโชว์เอกสารคำสั่ง ซึ่งลงลายมือชื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ลงวันที่ 6 เมษายน)


"มีความชัดเจนว่านายสุเทพ ได้มีคำสั่งให้ดาวเทียมไทยคมยุติการส่งสัญญาณออกอากาศของพีเพิลแชแนล โดยอ้างเรื่องของความมั่นคงของชาติ ต้องเรียนว่า หากการถ่ายทอดการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงกระทบความมั่นคงของชาติ แล้วเอเอสทีวีของคนเสื้อเหลืองที่เชิญชวนคนไปยึดทำเนียบ และสนามบินนานาชาติหมายความว่าอย่างไร หากรัฐบาลถือเอาอำนาจปิดพีเพิลแชแนล เอเอสทีวีก็ต้องถูกดำเนินคดีบ้างหรือไม่ และถ้าปิดพีเพิลแชแนลแล้วไม่ปิดเอเอสทีวี รัฐบาลจะปฏิเสธความเป็น 2 มาตรฐานได้อย่างไร"


เลขาธิการ นปช. กล่าวต่อว่า เราจะขอประณามการออกคำสั่งดังกล่าวอย่างสันติที่สุด ไม่ให้รัฐบาลปิดการออกอากาศพีเพิลแชแนลได้

ขณะนี้คนเสื้อแดงที่นนทบุรีได้ไปปักหลักที่ศาลากลางนนทบุรีแน่นเป็นที่เรียบร้อย พี่น้องได้ไปร้องขอผู้บริหารดาวเทียมไม่ให้ตัดสัญญาณ และถ้าฝ่ายรัฐบังคับให้ปิดพี่น้องที่นั่นจะต่อต้านโดยสันติวิธี และขอเรียนทุกคนที่รักประชาธิปไตยมาที่ราชประสงค์ และพร้อมทวงถามความยุติธรรมจากนายกฯ ทันที ไม่ว่าจะซุกอยู่ที่ไหนก็ตาม นอกจากนี้ หากปิดสัญญาณพีเพิลแชแนลยังมีอีกหลายสถานีที่ใช้ช่องสัญญาณเดียวกันก็เตรียมที่จะฟ้องร้องรัฐบาลเช่นกัน


"เราจะต่อสู้ถึงที่สุดเพื่อปกป้องการออกอากศของพีเพิลแชแนล การตัดสัญญาณไม่ใช่การยุติ เพียงแค่เป็นบันไดขั้นที่หนึ่งนำไปสู่การล้อมปราบ จะทำให้จอดำก่อนที่จะส่งกำลังเข้ามาสลายการชุมนุม" นายณัฐวุฒิ กล่าว


นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า หลังจากนายสุพร อัตถากร  แกนนำ และคณะไปวางกำลังที่สถานีดาวเทียมไทยคม แคราย

นายอริสมันต์กับคณะที่รัฐสภาเฝ้าสังเกตการณ์ภายในก็พบว่าคนของรัฐจะกระทำต่อประชาชนที่ชุมนุมนอกรั้ว มีคนกลุ่มหนึ่งขว้างแก๊สน้ำตาโดยไม่มีเหตุอันควร ไม่มีการเจรจา และไม่มีขั้นตอนใดๆ การใช้แก๊สน้ำตาจะต้องเป็นขั้นตอนสุดท้ายๆ นายอริสมันต์กับพวกจึงยึดของกลางพร้อมกับเรียกร้องทวงถามว่าให้ออกมารับผิดชอบว่าขว้างระเบิดแก๊สน้ำตาใส่ประชาชนที่มาโดยสันติได้อย่างไร เรียกอยู่นานไม่สนอง จึงจำเป็นที่จะต้องส่งตัวแทน 20 คน เข้าไปตรวจสอบหานายสุเทพเพื่อสอบถามสิ่งที่เกิดขึ้น ยืนยันไม่ได้มีการบุกรุกรัฐสภาแต่อย่างใด จึงได้พบว่านายสุเทพรีบออกรัฐสภาโดยทันที


"แต่หลังจากนายสุเทพหลบหนีไปทีมงานของเราก็ได้ไปพบอาวุธสงครามติดอยู่ที่ตัวบุคคล ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ในรัฐสภา คำถามว่ามีอำนาจสิทธิอะไรถึงได้ให้คนเอาอาวุธสงครามเข้าไปในรัฐสภา ซึ่งเป็นที่ทำการของฝ่ายนิติบัญญัติชี้ว่ารัฐบาลชุดนี้ลุแก่อำนาจ ทำตัวเป็นแก๊งมาเฟีย แก๊งอิทธิพล สามารถให้คนนำอาวุธสงครมไปได้ นอกจากนี้ ยังพบปืน 11 มม. 2 กระบอก และแก๊สน้ำตาจำนวนหนึ่ง ทีมงานได้นำไปแจ้งความและส่งคืนเจ้าหน้าที่ไปแล้ว" นายณัฐวุฒิ กล่าว


เลขาธิการ นปช. กล่าวต่อว่า เราจะขอประกาศมาตรการครั้งใหญ่อีกครั้งในวันศุกร์ที่ 9 เมษายนนี้ จะเป็นการระดมสรรพกำลังของคนเสื้อแดง

เพื่อล้มรัฐบาลในวันศุกร์ที่ 9 เมษายนนี้ จะได้พบกับการต่อสู้ทุกรูปแบบของคนเสื้อแดงเป็นครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ขอเชิญคนเสื้อแดงฮึดอีกหนึ่งยกชกรัฐบาลให้ล้มลงไป อยู่ภาคไหนให้ไหลกันมารวมกันที่ กทม. เราจะฉลองสงกรานต์พร้อมกับฉลองชัยชนะ ต่างจังหวัดนัดหมายกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์