ใครจะรักคนเสื้อแดง...เท่าทักษิณ

โดย ไทยทน

กว่า 20 วันแล้ว ที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุม ป่วนประเทศ

กว่า 25 วันแล้ว ที่ครอบครัวชินวัตร หนีออกต่างประเทศตั้งแต่ก่อนกระบวนการป่วนชาติ

...ที่น่าเศร้าใจ คือ อดีตผู้นำไทย ไม่มีศักดิ์ศรีพอที่จะบอกกับบรรดาคนเสื้อแดงอย่างจริงใจว่า ที่ครอบครัวต้องไปต่างประเทศ เพราะกลัวอันตราย จากการสลายการชุมนุม

กลัวคนเสื้อแดงไม่เข้าใจว่า พอถึงสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่อการปะทะ และอาจมีการบาดเจ็บล้มตายได้นั้น ครอบครัวชินวัตรจะอยู่ห่างเลย เพราะเขารักห่วงใยกันในครอบครัว

แต่ “ความรุนแรง” เช่นนั้นหรือไม่ ที่อดีตผู้นำรอคอย เพราะนั่นคือโอกาสแห่งชัยชนะของท่าน

เพียงแต่ท่านห่วงครอบครัวของท่านได้ แต่กับ “คนเสื้อแดง” ที่รักท่าน มาเพื่อปกป้องโหยหาท่าน ท่านไม่นึกถึงครอบครัวเขาหรือ ? มาลำบาก ตากแดด ตากฝน ตากน้ำค้างกัน จนกลับบ้านก็ล้า และเสียชีวิตไปแล้วหลายคนเพราะอุบัติเหตุ ท่านก็ช่วยเหลือหลักหมื่นบาท แล้วมันคุ้มกับการดูแลครอบครัวของเขาหรือ ?

ในฐานะที่ท่านเป็นถึงอดีตผู้นำไทย ก็ไม่น่าจะโกหก กลุ่มคนที่รักท่าน ถูกชักชวนมาเพื่อปกป้องท่านว่า “ไม่มีอะไร ลูกๆไปนิทรรศการ จองไว้ตั้งนานแล้ว” นี่กว่า 25 วัน นิทรรศการก็คงเลิกไปตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่กลับมา

การจะเป็นผู้นำไทย ก็ควรจะกล้าหาญเปิดเผย แทนที่จะหลอกคนมาเสี่ยงอันตรายเพื่อท่าน หากจะพูดออกไปอย่างโปร่งใส ก็จะดูมีศักดิ์ศรีมากกว่าการโกหกคนของท่านเอง เช่น ท่านน่าจะมีศักดิ์ศรีพอที่จะบอกว่า

“ชัยชนะของเราอยู่แค่เอื้อม ... ถ้าเมื่อไร รัฐใช้กำลังสลาย หรือ เราสร้างภาพทหารปลอมมายิงทำร้ายประชาชนได้ ยิ่งถ้ามีพี่น้องเสื้อแดงตาย ... เราก็จะชนะแน่นอน พี่น้องทนอีกหน่อยนะ ป่วยอีกหน่อยนะ อีกไม่นานเราก็จะได้ชัยชนะติดมือกลับบ้านไปฝากลูกหลานของเรา

เรื่องลูกชายลูกสาว และอดีตภรรยาของผม ขอขอบคุณที่พี่น้องหลายคนแสดงความห่วงใย พี่น้องไม่ต้องเป็นห่วง... ผมให้ไปอยู่ต่างประเทศกันหมดแล้ว มันอันตรายและเสี่ยงต่อชีวิต ผมจึงขอเอาครอบครัวออกไปก่อนนะครับ ส่วนหากพี่น้องเสื้อแดงต้องสูญเสีย หรือทำให้คนไทยทะเลาะกัน เป็นสงครามกลางเมืองได้ เราก็จะได้รับชัยชนะ และครอบครัวของผมจะได้ปลอดภัย”

เพราะครั้งที่แล้ว กระบวนการ “หาศพ” หลังเหตุการณ์สงกรานต์ ก็ทำให้สะท้อนใจว่า นั่นคือ ท้องเรื่องที่ท่านต้องทำให้ได้ใช่หรือไม่ ? สื่อมวลชนมากมาย กล้องเสื้อแดงมากมาย กลับไม่มีภาพการสลายการชุมนุมที่โหดร้าย ในที่สุด ก็ไร้ศักดิ์ศรีถึงขั้นตัดต่อคลิปเสียงกว่า 70 จุด จับได้ว่า ต้นตออยู่ในกลุ่มบริษัทของครอบครัวท่าน พ.ต.ท. ทักษิณ ยังกล่าวเองว่า “เป็นของแท้แน่นอน”

หากใครฟังดู ก็จะจำได้ว่า เป็นเสียงเหมือนรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกอภิสิทธิ์” จริงๆ แต่พูดหลายๆเรื่อง หลายประเด็น ต่อเนื่องกันอย่างไม่ใช่การประชุมสั่งการเพื่อกระทำการรุนแรงกับประชาชนเลย

เมื่อนายกฯอภิสิทธิ์พูดเรื่องนี้ต่อหน้าตัวแทนทั้งสาม ก็เงียบ ไม่สามารถยืนยันความเท็จมาโต้ตอบได้ ทักษิณจึงเปลี่ยนคำพูดไปพูดเรื่องคำพูดอื่น ก็ต้องสร้างหลักฐานปลอมไปหลอกชาวบ้านให้โกรธแค้นชิงชัง ทำให้บ้านเมืองแตกแยกโดยไม่ได้ใช้หลักฐานและเหตุผลที่ถูกต้อง

เรื่อง 2 มาตรฐานก็พูดกันไป ภรรยาซื้อที่ดินคงไม่เป็นไร แต่นี่ที่ดินขายโดยภาครัฐ มีหลักฐานพิรุธมากมายถึงการเอื้อประโยชน์เฉพาะตัว เพราะเป็น 2 มาตรฐาน ทักษิณ และภรรยาจึงมีความผิด

การเอื้อประโยชน์กิจการโทรคมนาคม ที่ “ซุกหุ้น” หนีรัฐธรรมนูญ ก็พิสูจน์แล้วว่า เพราะหัวใจท่าน 2 มาตรฐาน ด้วยกิจการกลุ่มของท่าน ท่านเป็นเจ้าของอยู่โดยเอาหุ้นไปซ่อน จึงมีความผิด

เรื่องยุบพรรคไทยรักไทย ไม่ใช่เรื่องกรรมการบริหารทำผิด เป็นเรื่องปลอมพรรค ปลอมการเลือกตั้ง

หากสมัยรัฐธรรมนูญปี 40 ยุบพรรคด้วยเรื่องกรรมการบริหารทำผิด แทบทุกพรรคก็คงถูกยุบตั้งแต่ช่วงนั้น จนเมื่อใช้รัฐธรรมนูญ 50 จึงกำหนดว่าหากกรรมการบริหารทำผิด ก็ต้องยุบพรรค ทั้งหมดนี้ ก็เป็นมาตรฐานเดียวกัน แต่ใช้สร้างความโกรธแค้นชิงชัง

การบอกว่าเป็นสังคมที่มีปัญหาชนชั้น หากมองรอบตัว คนไทยก็ยังได้รับพระคุณแผ่นดินไทย ใครใคร่ค้าขายอย่างไร เรียนรู้อย่างไร ทำงานมากเพียงไร ก็ทำได้ ขณะนี้ ยอดคนว่างงานต่ำมากเพียง ประมาณ 1% ทั้งๆที่อเมริกาเผชิญวิกฤต คนว่างงานสูงถึงเกือบ 10% ทุกคนสร้างเนื้อสร้างตัวได้

ท่านอ้างว่า จะทำให้ทุกคนฐานะดีเหมือนท่าน ขอถามหน่อยว่า “มีกิจการแข่งขันไหนเลยที่ท่านชนะบ้าง ?” พีโอเอส บัสซาวด์ ชินอินเตอร์ฯ ดาวเทียมไปแข่งต่างชาติ อสังหาริมทรัพย์ดูไบช่วงใกล้ลูกโป่งแตก เหมืองเพชรถ้ำปลอมรอฟอกเงินก็ไม่มีแสดงการดำเนินงานได้เลย เท่าที่เห็น กิจการที่ท่านทำได้ดี ก็ล้วนแต่กิจการที่ใช้อำนาจรัฐเอื้อกลุ่มตัวเองแบบ 2 มาตรฐานทั้งนั้น แล้วท่านจะเอาอำนาจรัฐเอื้อธุรกิจคนจำนวนมากให้เอาเปรียบคนอื่น เหมือนที่เคยทำให้ท่านได้อย่างไร ?

ท่านมุ่งสร้างความรุนแรง รอชัยชนะคือเมื่อมีการปราบปรามและคนเสื้อแดงต้องสูญเสียหรือไม่ ?

ภารกิจแรกตั้งแต่รวมพลวันที่ 12-14 คือพาคนเสื้อแดงไปชนกับกองทัพ และศูนย์บัญชาการที่ ราบ 11

ภารกิจต่อมาคือเอาเลือดไปทาที่ทำเนียบ และโยนเลือดเข้าไปบ้านนายกฯที่ท่านกล่าวหาว่าเป็นโรคจิตสั่งฆ่าประชาชน

ภารกิจต่อมาคือสร้างความเดือดร้อนให้คน กทม. ในการซ้ำเติมปัญหารถติด แล้วก็เสี่ยงพาคนเสื้อแดงไปอวดศักดารอบ กทม. ทั้งๆที่ปีที่แล้ว เคยขัดแย้งกันจนคนเสื้อแดงยิงชาวบ้านชุมชนนางเลิ้งตายไป 2 คน ครั้งนี้ ชาวบ้านก็อาจจะโต้ตอบเร็ว เสี่ยงต่อการสูญเสียของคนเสื้อแดงและชาวบ้านอย่างน่ากังวล

เมื่อท่านรักครอบครัวของท่าน ห่วงใยจนต้องส่งไปต่างประเทศ ก่อนเสี่ยงที่จะถูกสลาย ท่านก็ไม่ควรมี 2 มาตรฐาน กับคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมเพื่อท่าน ทุกครั้งที่ นายกฯ ทหาร ตำรวจ คน กทม. คนต่างจังหวัดที่สูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยว ให้ความรัก ความเข้าใจ ความเมตตาคนไทยร่วมชาติ ยังไม่มีการสลายหรือปราบปราม ท่านก็จะมีการยกระดับการยั่วยุขึ้นไปอีก ทุกครั้งที่บอกว่า “ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม” คือ ความหมายว่า “คนเสื้อแดงบางคนอาจใกล้ถึงความเจ็บตาย” หรือไม่ ? ถ้าไม่ ก็เอาครอบครัวของท่านมาเมืองไทย มาร่วมกับคนเสื้อแดง

ในประวัติศาสตร์ชาติไทย ผู้นำล้วนมีความห้าวหาญ และต้องมีคุณธรรม เรื่องคุณธรรมคงไม่ต้องพูดถึง จากหลักฐานต่างๆที่เป็นที่ประจักษ์ แต่แม้เรื่องความห้าวหาญก็ยังไม่มี ก็น่าละอายใจจริงๆ

คนเสื้อแดงรอให้ท่านเห็นเขาอย่างมีศักดิ์ศรี เขาไม่น่าจะแตกต่างจากครอบครัวของท่าน อย่าปล่อยให้เป็น 2 มาตรฐานอีกเลย

ดูๆแล้ว “ใครจะรักคนเสื้อแดง..เท่าทักษิณ” เพราะเห็นแต่คนที่รักมากกว่า เข้าใจมากกว่า ไม่มีใครโหดร้าย และดูถูกศักดิ์ศรีด้วยการหลอกมาเสียสละเพื่อท่านสักคนเลยครับ