เสียงจากสีลมหากมาร์คทำงานเป็นเต่า...เราก็ไม่เอา

คมชัดลึก : ขณะที่ "กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ออกมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลให้ "ยุบสภา" โดยยกระดับการชุมนุมให้เข้มข้นขึ้นบุกไปปักหลักบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ "ใจกลางย่านธุรกิจ" ของประเทศ

"ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย" ถือเป็นกลุ่มนักธุรกิจเอกชนอีกกลุ่มหนึ่งที่ออกมาทำกิจกรรมเคลื่อนไหวสวนกระแสคนเสื้อแดง

"พรศักดิ์ ลิ้มบุญยประเสริฐ" เลขาธิการชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นกลุ่มที่รู้จักกันดีอีกชื่อคือ "กลุ่มนักธุรกิจสีลม" หรือชื่อติดปากในยุค "พฤษภาทมิฬ" คือ "ม็อบมือถือ" ที่เคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลมาตลอด

"ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย" ได้ออกแถลงการณ์ "ไม่ต้องการให้รัฐบาลยุบสภาในช่วงนี้ เนื่องจากจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหายจากความไม่เชื่อมั่นในการลงทุนภายในประเทศ เพราะเปลี่ยนนโยบายการบริหารทางเศรษฐกิจ สังคม ที่ไม่ต่อเนื่อง ทำให้ต่างประเทศเห็นความไม่แน่นอนทางการเมือง จึงไม่กล้าเข้ามาลงทุน

"เป้าหมายที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อแสดงเสียงจากกลุ่มนักธุรกิจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่อยากเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น คนเสื้อแดงเคลื่อนไหวได้ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น แต่ทางชมรมจะไม่ออกมาเดินถนนให้เกิดการเผชิญหน้า แต่ออกมาในรูปของแถลงการณ์
ป้ายข้อความติดตามย่านธุรกิจ"

"พรศักดิ์" กล่าวว่า หากไม่มีการโฟนอินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็อาจจะเชื่อว่าการมาชุมนุมครั้งนี้เพราะเดือดร้อนจริงๆ ซึ่งสามารถนั่งโต๊ะเจรจานำปัญหามาพูดคุยเป็นวาระแห่งชาติได้ จึงไม่เชื่อว่าการยุบสภาจะสามารถแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ 

นอกจากนี้ "พรศักดิ์" เห็นว่า การปิดแยกราชประสงค์ยิ่งสร้างความเสียหาย ไม่ได้รับผลกระทบแค่ห้างสรรพสินค้าอย่างเดียว แต่การจัดแสดงงานต่างๆ ก็ต้องยกเลิก หากเป็นลูกจ้างรายวันก็ยิ่งกระทบหนัก และเชื่อว่าหากผู้ชุมนุมบางกลุ่มได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง อาจทำให้เปลี่ยนใจไม่มาร่วมชุมนุม จึงอยากให้รัฐบาลใช้สื่อที่อยู่ในมืออย่างคุ้มค่า 

"หากคุณอภิสิทธิ์ทำงานเป็นเต่าอย่างนี้ พวกเราก็ไม่เอาเหมือนกัน รัฐบาลไม่ทำอะไรก็จะสูญเสียฐานเสียงของคนกรุงเทพฯ และที่ผ่านมาเราก็ไล่รัฐบาลมาหลายรัฐบาลแล้ว แต่ครั้งนี้ต้องออกมาไล่ม็อบ เราไม่อยากยุ่งกับการเมือง แต่หากมีวิกฤติเกิดขึ้นแล้วไม่ออกมา ก็ดูจะเห็นแก่ตัวเกินไป" เลขาธิการชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปิดท้าย

ด้าน "นางกาญจนี วัลยะเสวี" หนึ่งในแกนนำเครือข่ายประชาสังคมหยุดระบอบทักษิณ กล่าวว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงเจตนากดดันให้รัฐบาลยุบสภาเท่านั้น แต่มีเจตนาทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว ทำลายเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่ได้สนใจว่าภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาชาวต่างชาติจะเสียหายเพียงใด และส่งผลกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ

"การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่เป็นอยู่ไม่ใช่การชุมนุมอย่างสันติ อหิงสา แต่มีพฤติกรรมคุกคามบุคคลที่มีความคิดเห็นต่าง และมีแกนนำบางคนปราศรัยใช้วาจาก้าวร้าวข่มขู่เอาชีวิต ดังนั้นความไม่เด็ดขาดของรัฐบาลนอกจากจะทำให้บ้านเมืองเสียหายแล้ว อาจทำให้สถานะของรัฐบาลเพลี่ยงพล้ำอีกด้วย" นางกาญจนี กล่าว

  
นางกาญจนี กล่าวว่า รัฐบาลควรสร้างความมั่นใจต่อประชาชนในเรื่องสวัสดิภาพในการดำรงชีวิต แต่ภาพที่ออกมาขนาดผู้นำของประเทศยังเอาตัวไม่รอด จึงอยากให้ฝ่ายความมั่นคงพิจารณาหาทางบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ชุมนุมอย่างเคร่งครัดมากขึ้นกว่าเดิม