มาร์คเล็งฟื้นสัมพันธ์ อาจส่งฑูตกลับ เขมรส่งสัญญาณบวก

นายกรัฐมนตรี เล็งฟื้นสัมพันธ์กัมพูชา พร้อมพิจารณาส่งฑูตกลับ หลัง สมเด็จฮุนเซน ส่งสัญญาณในทางบวกต่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ พร้อมให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นหลักในการเดินเรื่อง...

ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา หลังจากที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เริ่มมีท่าทีที่เป็นมิตรมากขึ้น ว่า ตอนนี้มีการส่งสัญญาณในทางบวกต่อการที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้อยู่ ในระดับที่เป็นปกติ ด้านความคืบหน้าการส่งเอกอัครราชทูตไทยกลับไปประจำที่กัมพูชา นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้ก็เริ่มมีสัญญาณที่ดี ก็คงเป็นเรื่องที่ทั้ง 2 ประเทศจะทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อนำไปสู่จุดนั้น

ส่วน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้รายงานถึงการเข้าพบสมด็จฮุน เซน เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรบ้าง นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายสุเทพไม่ได้เล่าอะไรมากกว่าที่เล่าให้สื่อมวลชนฟัง

ส่วนเพราะเหตุใด สมเด็จฮุน เซน จึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคงไม่ใช้โอกาสนี้มาวิเคราะห์ แต่หลังจากที่ตนได้พูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน แล้ว ตนเห็นว่าความรับผิดชอบของผู้นำของแต่ละประเทศคือผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งผลประโยชน์ของประชาชนที่เป็นเพื่อนบ้านกัน คือ การส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดี ทั้งด้านการค้าการลงทุน และถ้ามีปัญหาอะไร ก็หาทางออกในลักษณะที่ใช้สันติวิธี รวมถึงมีความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซงกิจการภายใน ซึ่งตนคิดว่าหลักการนี้เป็นที่ยอมรับ และทำให้สัญญาณที่ถูกส่งมาเป็นไปในทางที่ดี ส่วนนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนกัมพูชาทันทีเพื่อปรับความ สัมพันธ์ระหว่างกัน หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงเป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศต้องเป็นหลักในการเดินหน้าทำงานเรื่องนี้ต่อไป

ด้าน นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงภารกิจที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงต่างประเทศไปดำเนินการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชาว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศจะต้องประชุมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งหน่วยงานด้านความมั่นคงด้วย ส่วนโอกาสที่จะส่งเอกอัคราชทูตกลับไปที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชานั้นก็อยู่ที่ประเทศกัมพูชาด้วย แต่เบื้องต้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แต่ทั้งนี้ความสัมพันธ์ก็ยังดีอยู่เพราะเมื่อวันวาน(4เม.ย.)ได้มีการทักทายกัน 

“ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ผมก็ได้รับทราบจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีโดยตรงว่าท่านได้สนทนากับสมเด็จฮุนเซน อย่างไร โดยนายสุเทพได้รายงานนายกรัฐมนตรีให้รับทราบ และโทรศัพท์แจ้งให้ผมทราบเหมือนกับที่พูดกับสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ ผมก็ต้องเอาประโยคต่างๆมานั่งพิจารณาภายในกระทรวงการต่างประเทศ และต้องปรึกษาหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง นั่นคือสถานะของกระทรวงการต่างประเทศเวลานี้ ” อย่างไรก็ดี เมื่อมีการสอบถามถึงประเด็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์จะเริ่มได้เร็วขนาดไหน นายกษิต ปฏิเสธที่จะตอบและเดินออกไปจากวงล้อมของสื่อมวลชนทันที