สวนดุสิตโพล 42.39%ควรเจรจารอบ3 และ38.52% ไม่จำเป็นเสียเวลา 44.35% ยืดเยื้อต้องส่งผลเสียหายเศรษฐกิจ 29.88% เบื่อหน่าย
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิจ สำรวจความคิดเห็นประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,442 คน
ระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 42.39 คิดว่าควรมีการเจรจารอบ 3 ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแกนนำคนเสื้อแดง โดยให้เหตุผลว่าจะได้พูดคุยแบบเห็นหน้ากัน หากมีเรื่องใดไม่เข้าใจ จะได้ตกลงกันให้รู้เรื่อง ร้อยละ 38.52 ไม่ควรมี เพราะเจรจาไปก็เสียเวลาต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตัวเอง ไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน ขณะที่ร้อยละ 19.09 เห็นว่ามีก็ได้ ไม่มีก็ได้ เพราะทำใจกับสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้แล้ว
นอกจากนี้ ระหว่างการยุบสภากับการให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อ ร้อยละ 43.03 เห็นว่าควรให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อจนครบวาระ แล้วค่อยเลือกตั้งใหม่
เศรษฐกิจประเทศกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ไม่ควรนำความขัดแย้งทางการเมืองมาให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก ร้อยละ 30.10 เห็นว่ายุบสภาดีกว่า จะได้เริ่มต้นใหม่ ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ขณะที่ร้อยละ 26.67 เห็นว่ายุบหรือไม่ยุบก็ได้ เพราะหากการเมืองไทยยังไม่มีกฎ กติกา หรือข้อกำหนดที่ชัดเจน เลือกตั้งกี่ครั้งก็เหมือนเดิม
สำหรับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา
จนถึงขณะนี้ ประชาชนร้อยละ 44.35 เห็นว่า หากชุมนุมยืดเยื้อต่อไปจะส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจ ร้อยละ 29.88 รู้สึกเบื่อหน่าย ร้อยละ 16.53 อยากให้แกนนำคนเสื้อแดงใช้วิธีเรียกร้องอย่างสันติ ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชน
ส่วนแนวทางที่จะทำให้ประเทศชาติสงบสุข ร้อยละ 37.41 เห็นว่าทุกฝ่ายต้องอดทนอดกั้นให้มากที่สุด เห็นแก่ความเป็นคนไทยด้วยกัน ร้อยละ 28.22 เห็นว่าทุกฝ่ายต้องจริงใจต่อกันในการแก้ปัญหา ร้อยละ 19.67 เห็นว่าต้องใช้แนวทางสันติวิธีในการชุมนุม และรัฐบาลต้องไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา และร้อยะ 14.70 เห็นว่าประชาชนต้องมีวิจารณญาณ มีสติ ไม่ด่วนสรุปหรือตัดสินเอาเอง