จับเข่าคุยวีระ มุสิกพงศ์ประธาน นปช. ถ้าเสื้อแดงใช้ความรุนแรง ผมกลับบ้านทันที อยากพักเต็มทีแล้ว!!!

บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน ก่อนคุณวีระ มุสิกพงศ์" ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ก้าวขึ้นเวทีสมาคมนักข่าวฯ นักข่าว ประชาชาติธุรกิจ ได้มีโอกาสนั่งสนทนากับ ประธาน นปช. ในหลายประเด็นที่คนทั่วไปอยากรู้ และหลายประเด็นที่คนเสื้อแดง หลายคนไม่ค่อย แฮปปี้ เท่าใดนัก



 ประธาน นปช. ถือไม้เท้า  คล้องคอด้วยพระร่วงที่ชาวบ้านมอบให้ และข้อมือมีสายสิญจน์  
  "ไข่มุกดำ" ใช้รถโตโยต้า แคมรี่ สีดำ เป็นพาหนะ ขนาบด้วยโชเฟอร์ 1 และเลขานุการส่วนตัวอีก 1
  พฤษภาคม ศกนี้  ไข่มุกดำ จะอายุครบ 62 ปีแล้ว   เขาเปรยให้ฟังว่า ถ้าไม่มี 19 กันยายน 2549  จะวางมือ และจะพักผ่อน อยากมีความสุขเต็มทีแล้ว
  เป็นความเหนื่อยล้าที่ต้องต่อสู้กับพวกอำมาตย์มาหลายสมรภูมิแล้ว ไม่ว่าจะเป็น 14 ตุลาคม 2516   จนมาถึง พฤษภาทมิฬ 2535  และล่าสุดคือ การต่อสู้โค่นอำมาตย์ หลัง 19 กันยายน
  " ปี 2535 ผมบอกกับท่านจำลอง (ศรีเมือง) ว่า การรบบนถนนราชดำเนิน  ผมขอเป็นครั้งสุดท้าย แต่เมื่อปี 2549 มีการยึดอำนาจอีก ผมก็อยู่เฉยไม่ได้ ต้องลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ไม่ได้ประชาธิปไตยก็ตายไปเลย"


   ประธาน นปช. เล่าว่า  มีธุรกิจร้านอาหารไทยในชนบท ประเทศอังกฤษ 2 แห่ง  โดยภริยาคือ คุณศรีวิไล เป็นคนดูแลกิจการ   เป็นร้านอาหารที่ฝรั่งติดอกติดใจ แม้ว่า ปีที่แล้ว จะได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจในยุโรป
   " ผมอยากพักเต็มที่แล้ว  ต่อสู้กลางแดด มาหลายวัน มันเหนื่อยนะคุณ  คอผมแตกไปแล้ว  เสียงแหบสนิท " 
   "วีระ" เล่าว่า ลูกสามคน ไม่ใครชอบการเมือง เพราะเคยเห็นพ่อติดคุกที่บุรีรัมย์ ลูกวิ่งเล่นอยู่ในเรือนจำ  ...วันนี้ลูกของผมเป็นนักดนตรี เขามีความสุข


   นักข่าว ถามประธาน นปช. แบบตรงประเด็นว่า การยกระดับการต่อสู้ วันเสาร์ที่ 3 เมษายน นี้ จะรุนแรงไหม
  คำตอบคือ
"ผมยึดหลัก สันติ อหิงสา  ถ้าแกนนำ นปช. อยากชนะศึก โดยการใช้ความรุนแรง  ผมเลิก...กลับบ้านทันที"
 "  ผมเปรียบเทียบการต่อสู้ ของกลุ่มคนเสื้อแดง เหมือนขบวนรถไฟจาก เชียงใหม่ มุ่ง สู่หัวลำโพง  อันเป็นสถานีสุดท้ายที่หมายถึงชัยชนะ  เราวิ่งมาจากเชียงใหม่ ได้รับการยอมรับตลอดเส้นทาง ว่า เราไม่ใช้ความรุนแรง  แต่พอขบวนรถไฟ วิ่งมาถึง สถานีบางซื่อ  ถ้าเสื้อแดงบอกว่า ต้องยกระดับการต่อสู้ ใช้ความรุนแรงต่อสู้  เพื่อต้องการชนะศึก  ผมบอกไว้เลยว่า ผมลงสถานีบางซื่อ ทันที ผมกลับบ้านเลย ไม่ชนะ ก็ไม่เป็นไร  ผมกลับบ้าน "


      ก่อนหน้านี้ การเจรจา ระหว่าง รัฐบาล กับ แกนนำ นปช. 2 นัดที่ผ่านมา
  
"วีระ มุสิกพงศ์" ได้รับการยอมรับว่า นิ่ง และมีความเป็นผู้ใหญ่มากที่สุด
   "ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม" นักสันติวิธี  ให้เครดิตประธาน นปช. วัย 62 ปีว่า  " ทำได้ดี น่าพอใจ  และน่าชื่นชม  "
   ขณะที่ในโลกไซเบอร์ " น.พ. เหวง โตจิราการ" มีภาพติดลบไปทันที  จนกลายเป็นที่มาของการบัญญัติศัพท์ใหม่ ของคนที่พูดไม่รู้เรื่อง และพูดจา วกวน ว่า พูดแบบเหวงๆ
   ประธาน นปช. เล่าให้ฟังว่า " เขาให้ไปเจรจา ผมก็ไปเจรจา ไม่ได้ไปทะเลาะ  ผมทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ถ้าเสื้อแดงไม่พอใจ ผมก็เลิก  เท่านั้น "
   นักข่าว ถามว่า การเจรจา รอบ 3 เกิดขึ้นได้หรือไม่   
   คำตอบคือ "  เรื่องผลประโยชน์ประเทศชาติพูดคุยกันได้เสมอ แต่อย่าเอาคำพูดบนเวทีมาเป็นเนื้อหาหลักในการเจราจา เพราะไม่ฉะนั้นแล้ว การเจรจาจะจบไม่ได้
  " นาทีนี้  ข้อเสนอยุบสภาภายใน 15 วัน หรือ  9 เดือน หาข้อยุติไม่ได้  ฉะนั้นคำตอบการยุบสภาก็คงไม่ใช่ 2 เวลาดังกล่าวนี้แน่นอน  แต่จะเวลาไหน อย่างไร ก็อยู่ที่โอกาสที่จะได้ติดต่อพูดคุยกัน "

   ถอดรหัสง่ายๆ ก็คือ อาจเป็นการต่อรอง ประเด็นห้วงเวลา การยุบสภา ใน 2 ช่วงเวลาคือ  3 เดือน หรือ 6 เดือน
   แต่ทุกสูตร ไม่ว่า จะเป็น 3 เดือน หรือ 6 เดือน ต้อง บวก 45 วันช่วงรัฐบาลรักษาการ เข้าไปด้วย
  ประธาน นปช. วิเคราะห์ จุดอ่อนของการ ถ่ายทอดสด ระหว่างการเจรจาก็คือ " คนเจรจา ไม่ได้ สนใจ คู่เจรจา ที่อยู่ตรงหน้า แต่พวกนี้ ต้องการพูดกับแฟนที่รอดู รอฟังทั่วประเทศ  คนเจรจา จะไม่สนใจคู่เจรจา  "
   
นักข่าวถามประธานนปช. แบบตรงๆว่า ขณะเจรจา มี"ทักษิณ" เป็นวาระซ่อนเร้น อยู่หรือไม่
    คำตอบคือ " ผมหูหนวก ตาบอด มองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น "
   ประธาน นปช. กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลยุบสภา เสื้อแดงกลับบ้าน ผมจะไปต่อหนังสือเดินทางทันที  อยากพักผ่อนเต็มที่แล้ว(ครับ )










ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:






เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์