ดร.เสรี สอนแม้ว - สื่อเมินเพราะแผ่นเสียงตกร่อง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 มีนาคม 2549 19:57 น.
ดร.เสรี เกจิวารสารศาสตร์ ชี้เหตุรัฐบาลโดนฝ่ายพันธมิตรฯ ชิงพื้นที่สื่อ เพราะมัวแต่พูดคำเดิม เป็นแผ่นเสียงตกร่องจนไม่เหลือคุณค่าข่าวให้รายงาน ขณะที่ฝ่ายต่อต้านมีประเด็นใหม่ตลอดเวลา สื่อไม่นำเสนอก็เท่ากับตกข่าว ระบุถึงเวลาที่สื่อต้องชดเชยคืนให้ประชาชน
ดร.เสรี วงษ์มณฑา อดีตคณบดีคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ ASTV เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาว่า กรณีที่คนในรัฐบาลออกมาตัดพ้อว่าสื่อมีความลำเอียงรายงานแต่ข่าวของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลนั้น เป็นเพราะว่าขณะนี้ข่าวของฝ่ายรัฐบาลไม่มีอะไรใหม่ นายกฯ ก็พูดแต่คำเดิมๆ เหมือนแผ่นเสียงตกร่อง ขณะที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล มีประเด็นใหม่เกิดขึ้นทุกวัน ถ้าสื่อไม่นำเสนอก็เท่ากับตกข่าว
ดร.เสรี กล่าวต่อว่า ถ้าเข้าใจหลักการวารสารศาสตร์ ก็จะเข้าใจว่าที่สื่อหันมาเสนอข่าวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะเห็นว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ มีคนจำนวนนับแสน ออกมาขับไล่รัฐบาล และขยายวงออกไปเรื่อยๆ ไปถึงนักวิชาการ ราชนิกุล นักเรียนนักศึกษา ขาสั้น-คอซองออกมาหมด
ที่ฝ่ายรัฐบาลไม่ค่อยมีพื้นที่ข่าว เพราะมันแผ่นเสียงตกร่อง พูดแต่คำเดิมซ้ำๆ ซากๆ ถูกกติกาๆ มันเก่าแล้ว ภาษาข่าวเขาเรียกว่า มันไม่มี news value หรือคุณค่าข่าว
ส่วนการสื่อทีวีหันมารายงานข่าวการชุมนุมมากขึ้น ดร.เสรี กล่าวว่า นอกจากเพราะมันมีคุณค่าข่าวแล้ว ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะต้องการชดเชยที่เมื่อก่อนไม่ได้ให้ความสำคัญ และก็คงมีนักข่าวจำนวนมากที่หันมาเสนอข่าวผู้ชุมนุม เพราะเห็นด้วยกับเนื้อหาที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพูด และเห็นว่ารัฐบาลนี้ไม่ควรจะอยู่ต่อไป
กรณีที่รัฐบาลหันมาใช้วิธีการซื้อพื้นที่สื่อ โดยล่าสุดได้ซื้อโฆษณาเต็มหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เพื่อลงเนื้อหาของสารจากพรรคไทยรักไทยฉบับที่ 1 ดร.เสรี ให้ความเห็นว่า การซื้อพื้นที่เพื่อเขียนข่าวของตัวเองเป็นหลักการที่ใช้ได้ แต่เมื่อไปดูเนื้อหาที่พรรคไทยรักไทยลงโฆษณา กลับไม่ได้บอกว่า เขาจะทำอะไร มีแต่บอกว่าคนอื่นไม่ดีอย่างไร มีแต่จุดไฟให้เกิดความขัดแย้ง
เริ่มต้นขึ้นมาก็บอกว่ายึดมั่นประชาธิปไตย รักษากติกา ซึ่งเนื้อหานี้มันซ้ำกับที่เขาพูดไปแล้ว มันไม่ใช่เรื่องใหม่ เราเรียกว่ามันเป็นข่าวเน่า ขณะเดียวกันก็ไปว่าคนอื่นเขาไม่ลงเลือกตั้ง ทำผิดกติกา การชุมนุมไล่รัฐบาลผิดกฎหมาย ขอรัฐบาลพระราชทานตามมาตรา 7 ฉีกรัฐธรรมนูญ ซึ่งคนเขาตั้งแย้งได้ เพราะการไม่ลงเลือกตั้ง หรือการชุมนุม ก็เป็นสิทธิในรัฐธรรมนูญ แล้วมาตรา 7 ก็อยู่ในรัฐธรรมนูญ
ดร.เสรี กล่าวอีกว่า การทำการตลาดเพื่อให้เป็นข่าว หรือที่เรียกว่าอีเวนต์มาร์เกตติ้ง ของรัฐบาลใช้ไมได้ผลแล้ว เพราะใช้ไปหมด ตั้งแต่ไปทัวร์นกขมิ้น นุ่งผ้าขาวม้าอาบน้ำ ชงกาแฟ ทอดไข่ นักข่าวเขาให้พื้นที่ข่าวไปนานแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะกลับสู่การทำข่าว ที่เป็นประเด็นข่าวที่แท้จริง
อะไรที่ใหม่ เขาก็เสนออันนั้น รัฐบาลพูดแต่ซ้ำๆ ซากๆ ฉันทำถูกกติกา ฉันคืนอำนาจให้ประชาชน มันไม่มีอะไรใหม่ แต่ฝ่ายผู้ชุมนุมเขามีอะไรเคลื่อนไหวใหม่ๆ ตลอด มีคนโน้นคนนี้ออกมา มีนักศึกษาเอเชีย มีราชนิกุล อดีตปลัดกระทรวง ซี 9 ซี 10 ออกมา ถ้าสื่อไม่ทำข่าวก็ถือว่าตกข่าว
ดร.เสรี ยังกล่าวถึง กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปตีกอล์ฟที่สนามของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน และไปกินข้าวกับนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย ว่า เป็นความพยายามสร้างข่าวที่ทุเรศมาก เพราะคนเขามองออก คนที่เป็นกุนซือที่แนะนำให้ทำอย่างนั้น ต้องเอาไปตัดหัว