คมชัดลึก : ไม่น่าเชื่อว่า ในจังหวะที่โรยแรงของคนเสื้อแดงนั้น จะมีประเด็นโผล่มาในจังหวะสำคัญ ทั้งเรื่องผลการตรวจเลือด และการนัดหมายชุมนุมของนักวิชาการในรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนกลายเป็นแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้งของคนเสื้อแดง น่าสงสัยว่า นี่คือฉากหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมด ที่จัดวางเส้นทางให้เดินไปสู่ฉากสุดท้ายของการชุมนุมหรือไม่หรือว่า นี่เป็นเหตุบังเอิญที่ประจวบเหมาะให้เกิดแรงต้านธรรมชาติของคนเมืองหลวง กับกลุ่มคนเสื้อแดง
ฉากสุดท้ายจะเป็นเช่นไร เผชิญหน้า-รุนแรง หรือราบเรียบ ก็เป็นเรื่องของความอดทนอดกลั้นของทั้งสองฝ่าย
แต่อย่าลืมว่า ทั้งสองฝ่ายเป็นคนเป็นชาวบ้าน ที่มีความไม่พอใจเป็นทุนเดิม หาใช่ทหารที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ที่มีทั้งคำสั่ง และวินัย กำกับความรู้สึกเอาไว้
เสื้อแดงที่เวลานี้หัวขบวนระดับจังหวัดกำลังปวดหัวกับคำสั่งให้ระดมคนมาเพิ่ม ขณะที่กลุ่มเดิมที่อ่อนล้านั้น ขอทยอยกลับ
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชักธงรบ อุบลราชธานี ที่เก็บหม้อนึ่ง หวด พร้อมเตาแก๊สกลับไปแล้ว บางส่วนของกลุ่มภาคเหนือที่ทยอยกลับไปนอนเอาแรงที่บ้านแบบเต็มตื่นสักพัก ไม่ต่างจากกลุ่มขอนแก่นที่บางส่วนก็ขอตัวก่อน
ส่วน ขวัญชัย ไพรพนา ที่อาสาไประดมคนที่อุดรธานี ก็ยังมีบางส่วนขอกลับไปพักเอาแรงด้วยเช่นกัน
สภาพการชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ในยามเปลวแดดที่ร้อนแรงจนอดคิดไม่ได้ว่า พระอาทิตย์โกรธเคืองคนเสื้อแดงมาแต่หนไหน จึงบางตาและน่ากลัวว่าคนจะหายไปหมดแล้วจริงๆ
แต่จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ในเมื่อใบสั่งให้ระดมคนจากทักษิณ ชินวัตร ชัดเจนออกมาแล้ว
ส.ส.ไปหามาให้ได้ 100 คันรถ
ว่าที่ผู้สมัครจัดมา 20-30 คันรถ
ถึงแม้จะมีเสียงโอดครวญว่า เบี้ยเลี้ยงค่าน้ำมันที่ออกไปก่อนหน้านี้ มาครั้งนี้จะไปหาที่ไหนมาอีก แถมไปต่อรองจากส่วนกลางก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล บางคนโชคดีหน่อย ได้รับคำมั่นสัญญาที่ด่านวังน้อยว่า ค่าน้ำมันคันละ 5,000 แล้วไปรับจริงที่ "กระท่อมหลานหลวง" แต่พอมารับ เอาเข้าจริงตัวเลขกลับลดลงเกือบครึ่ง
จาก 5,000 ก็เหลือเพียงแค่ 3,000 !
เลือด-จุฬาฯ-คดีสนธิส่งแรงฮึดเสื้อแดง
คำตอบจากส่วนกลางก็คือ ก่อนหน้านี้คุยนักคุยหนาว่าจะเอามาเป็น 100 คัน เอาเข้าจริงมาไม่ถึง 20 คัน ครั้งนี้จึงจำเป็นต้องแก้ตัวให้ได้
แต่ในใจของคนที่ไประดมคนนั้น ไม่มีใครเชื่อมั่นว่าจะขนมาได้ตามเป้า นั่นเพราะ ทุนหด อ่อนล้า ชัยชนะยังเป็นอากาศ
โชคดีที่แดงได้ประเด็นความเคลื่อนไหวของอาจารย์จุฬาฯ ภาคประชาชน และนักธุรกิจ สวมเสื้อสีชมพูจัดกิจกรรมรวมพลังรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และคัดค้านการยุบสภา ซึ่งป็นแนวทางตรงกันข้ามกับเสื้อแดง ทำให้ถูกยกเป็นเหตุให้คนเสื้อแดงเคลื่อนไหว ทั้งที่ไร้ประเด็นขับเคลื่อนในวันศุกร์
ไม่เพียงเท่านั้น กลุ่มพี่น้องมหิดล นำโดย นพ.กุศล ประวิชไพบูลย์ ได้ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ออกมาตรการดูแลประชาชน ซึ่งอาจเกิดการติดเชื้อจากการเทเลือดยังสถานที่ต่างๆ ของกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง
หมอกุศลระบุความเสี่ยงจากเลือดที่ว่านั้นมีถึง 3 ชนิด 1.เชื้อไวรัสตับอักเสบบี 2.เชื้อไวรัสตับอักเสบซี และ 3.เชื้อไวรัสเอชไอวี หรือเชื้อไวรัสเอดส์ โดยอ้างว่า ได้ตัวอย่างเลือดไปตรวจที่ห้องแล็บ รพ.รามาฯ
ประเด็นนี้ทำให้แกนนำเสื้อแดงออกมาตอบโต้ในทันที พร้อมกับเรียกร้องให้แพทยสภาตรวจสอบการกระทำของหมอกุศล
น่าสนใจก็คือ กลุ่มคนในระดับนำที่ออกมาเคลื่อนไหวเชิงคัดค้านคนเสื้อแดงนั้น อาจถูกเชื่อมโยงกับอำมาตย์ ไม่ว่าจะเป็นหมอมหิดล จุฬาฯ ซึ่งก็รวมทั้ง 40 ส.ว.
ไม่เพียงแค่ 2 ประเด็นนี้เท่านั้นที่จะเป็นประเด็นส่งแรงฮึดให้คนเสื้อแดง หน่วยงานด้านความมั่นคงยังกังวลกับการออกหมายจับ สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ที่อัยการเร่งรัดให้ตำรวจรีบดำเนินการมาแล้วหนหนึ่ง และในวันที่ 2 เมษายนนี้ ก็จะเป็นวันที่อัยการนัดให้สนธิไปฟังคำสั่งคดี หากไม่มีอัยการก็จะส่งตำหนิรูปพรรณให้ตำรวจสน.ดุสิต ออกหมายจับ
คงเดาไม่ยาก หากตำรวจ สน.ดุสิตทำมึนๆ งงๆ ปล่อยผ่านไปจะเกิดอะไรขึ้นกับรัฐบาล
สองมาตรฐานจะกลายเป็นหอกทิ่มตำใส่อกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อีกครั้ง
แน่นอนว่า วันที่ 3 เมษายน ก็จะมีประเด็นนี้เพิ่มไปอีก 1 ประเด็นในทันที