ทักษิณจะเร่งปิดเกม6เมษาฯ... คนไทยหน่ายเกมนี้เหลือเกินแล้ว

พาดหัวหนังสือพิมพ์เมื่อวานบอกว่า "ทักษิณเร่งปิดเกมสัปดาห์หน้า" อีกบางฉบับบอกว่า ทักษิณจะ "ปิดบัญชี" วันที่ 6 เมษายนนี้

 แต่พอวีดิโอลิงค์จากรัสเซีย เมื่อค่ำวันอังคาร ทักษิณถามคนเสื้อแดง ว่า "เบื่อหรือยัง เหนื่อยหรือยังครับ ที่จะเอาผมกลับบ้าน?"


 พูดเองแล้วก็คงจะลืมไปเองแล้วกระมัง ตกลงจะให้การประท้วงเกี่ยวกับผลประโยชน์ของตัวเองหรือไม่


 และเพราะเกี่ยวกับตัวเอง ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่นี่แหละ จึงทำให้เกิดคำว่า "ปิดเกม" ขึ้นมา โดยที่ผมก็ไม่แน่ใจว่าคำนี้มีความหมายว่าอย่างไรกันแน่


 หากหมายถึง การพยายามเจรจาต่อไป เพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง ก็คงไม่ใช่เรื่อง "ปิดเกม" หรือ "ปิดบัญชี" แต่คงจะใช้คำว่า "หาทางออก" หรือ "สรุปประเด็น" หรือ "ต่อรองให้ยุบสภาโดยเร็ว"


 หรือแม้จะเสนอให้ "ยืนยันในเงื่อนไขของเรา" ก็ยังฟังดูดีกว่าคำว่า "ปิดเกม" เพราะคำหลังนี้มีความหมายส่อไปในทาง "หักดิบ" และใช้วิธีการกดดันด้วยวิธีการของตนฝ่ายเดียว เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องยอมตามฝ่ายของตน โดยไม่สนใจว่าจะมีผลกระทบต่อส่วนรวมอย่างไร


 คุณวีระ มุสิกพงศ์ ยืนยันบนเวทีหลายครั้งว่า ความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้น อยู่บนพื้นฐานของ "การนำร่วม" หรือที่ฝรั่งเรียก collective leadership ซึ่งแปลว่าไม่ใช่เป็นการตัดสินบนการของคนใดคนหนึ่ง


หมายความว่า การตัดสินใจใดๆ ที่จะเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยนั้น จะมาจากการปรึกษาหารือร่วมกันของแกนนำหลายๆ คน ไม่ใช่เป็นเรื่องที่คนใดคนหนึ่ง จะมาตัดสินแทนมวลชนทั้งหมดได้


 เป็นแนวทางที่น่าชื่นชม และสมควรจะได้รับการสนับสนุน เพราะไม่ว่าจำตัดสินใจทำอะไร แกนนำของ นปช. ก็จะได้สามารถตอบคำถาม และข้อสงสัยของประชาชนทั่วไป ทั้งที่ร่วมประท้วงและที่ไม่ร่วมประท้วงได้อย่างชัดเจนในทุกประเด็น


 แต่คำว่า "ปิดเกม" นั้น มาจากคุณทักษิณ คนเดียว เพราะข่าวบอกว่าคุณทักษิณ ได้โทรศัพท์สายตรงถึงแกนนำของคนเสื้อแดงคนหนึ่ง ที่กำลังจะพาพลพรรคจากต่างจังหวัดกลับบ้าน โดยคุณทักษิณ รับปากว่า จะ "เร่งปิดเกมก่อนวันที่ 6 เมษายนนี้..."


 ไม่ว่าคำว่า "ปิดเกม" จะมีความหมายในทางปฏิบัติว่าอย่างไร แต่เมื่ออ่านข่าวชิ้นนี้แล้ว ก็จะเข้าใจไปเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากว่าคุณทักษิณเป็นคนตัดสินใจ ว่า ขบวนการคนเสื้อแดงจะทำอะไร หรือไม่ทำอะไร และถ้าทำจะทำเมื่อไร และจะทำโดยใคร...และทำตามคำสั่งของใครด้วย


 ซึ่งก็แปลว่าการ "ปิดเกม" ครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจของคุณทักษิณคนเดียว มิใช่มาจาก "การนำร่วม" ของผู้ที่เชิญชวนผู้คนมาร่วมการประท้วงครั้งนี้แต่ประการใด


 ฟังดูแล้วจึงเห็นได้ว่า เป็นแนวโน้มที่ค่อนข้างอันตราย เพราะการประกาศ "ปิดเกม" นั้น ย่อมตีความได้ว่า คุณทักษิณต้องการให้คนเสื้อแดง ละทิ้งเส้นทางแห่งการหาทางออกอย่างสันติ ด้วยการเจรจาต่อรอง เพื่อให้บรรลุข้อตกลงร่วมที่ประชาชนคนไทยทั่วไป (ทั้งคนร่วมประท้วงและคนไม่เห็นด้วยกับการประท้วง) จะเห็นว่าเป็นทางออกที่สอดคล้องกับความเห็นของคนส่วนใหญ่ของประเทศ


 การเจรจาสองรอบที่ผ่านมานั้น แม้จะยังหาข้อตกลงไม่ได้ แต่ก็ยังน่าชื่นชมกว่าการเผชิญหน้าหรือข่มขู่ซึ่งกันและกัน อีกทั้งฝ่ายรัฐบาลก็ประกาศว่าพร้อมที่จะเจรจารอบที่ 3 แม้ว่าจุดยืนของทั้งสองฝ่ายจะยังห่างกัน


 ที่สำคัญ กว่าจุดยืนของรัฐบาล และ นปช. ก็คือ ความคิดเห็นของคนไทยส่วนอื่นๆ ในสังคม ซึ่งก็คือคนส่วนใหญ่ของชาติ ซึ่งทั้งสองฝ่ายที่กำลังเจรจากันอยู่ จะต้องรับฟังเพื่อนำไปพิจารณาปรับจุดยืนของตนเอง


 แกนนำ นปช. ทั้งสามได้ริเริ่มการเจรจากับผู้นำรัฐบาลมาด้วยบรรยากาศแห่งการ "พูดจา" กันตามแนวทางที่สังคมต้องการเห็นแล้ว สมควรจะต้องเดินตามกระบวนการที่คนส่วนใหญ่ อยากจะเห็นเดินหน้าต่อไป


 การประกาศ "ปิดเกม" หรือจะใช้มาตรการ "ดาวกระจาย" เพื่อป่วนเมืองอย่างต่อเนื่อง ก็เท่ากับกดดันประชาชนคนไทย ที่กำลังรู้สึกหนักหน่วงขึ้นทุกที ว่า พวกเขาถูกคู่กรณีทั้งสองฝ่าย "จับเป็นตัวประกัน"


 คนไทยส่วนใหญ่ที่ต้องการกลับไปใช้ชีวิตปกติสุข ต้องการเห็นทั้งรัฐบาล และคนประท้วงหาทางออกให้บ้านเมืองอย่างสันติ มิใช่เล่นเกม มิใช่ข่มขู่ และมิใช่ "ปิดเกม" 

 เพราะคนไทยไม่ต้องการ "เล่นเกม" กับใคร ไม่ว่าฝ่ายไหนทั้งสิ้น


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์