ทหารคนสนิทสยมข่าวลือ ปัดป๋าเปรมถูกยิง

พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป นายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ

ชี้เหตุการณ์คนร้ายปาระเบิดเอ็ม 67 ใส่หน้าอาคารมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เลขที่ 48 ถนนอู่ทองนอก เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อค่ำวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นการพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความปั่นป่วนไปเรื่อยๆ โดยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม และเชื่อว่าคนที่ จ้องจะสร้างความวุ่นวายกับคนที่ระวังป้องกันดูแลสามารถเกิดความผิดพลาดกันได้ แเจ้าหน้าที่ก็ทำงานกันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้เข้มข้นมากขึ้นตามการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

"ทั้งนี้เห็นว่าเล่นกับพวกอันธพาลจะต้องระวังและอดทนให้มาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่ายังโชคดีที่ไม่มีใครได้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนเหตุการณ์ทั่วไปที่เกิดขึ้นในเวลานี้ คนร้ายพยายามให้เห็นถึงศักยภาพและประสิทธิภาพ เพื่อให้เห็นว่าอำนาจรัฐไม่สามารถคุ้มครองหรือปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์หรือคนดีได้ ถือว่าเป็นธรรมชาติของการต่อสู้ หรือวิถีทางการบ่อนทำลายของกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง ทั้งนี้ ไม่ต้องไปประณามกับการกระทำของกลุ่มคนร้าย เพราะเขาทำอย่างไรเดี๋ยวก็ได้อย่างนั้น ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าใครทำ แต่จะให้บ้านเมืองเกิดบรรยากาศที่มีอาวุธสงครามมาระบาด โดยเฉพาะในพื้นที่ กรุงเทพมหานครนานไปคงไม่ดีแน่นอน" พล.อ.  พงษ์เทพกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การโจมตีมูลนิธิต้องการสื่อสารไปถึง พล.อ.เปรมใช่หรือไม่ พล.อ.พงษ์เทพกล่าวว่า ทุกคนรู้ดีว่าเป็นอย่างไร

การโจมตีมูลนิธิมันจะสามารถสื่อสารไปถึงใครแค่ไหนทุกคนรู้ เขาจึงพยายามทำ มันมีหลักคิดอยู่อย่างหนึ่งว่าคนที่คิดดีกับชาติบ้านเมืองจะไม่ทำอะไรให้เกิดความรุนแรงกับชาติบ้านเมืองแบบนี้ แต่ถ้าคิดแบบกลุ่มหรือพรรคพวก หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือพวกที่คิดไม่ดีกับชาติบ้านเมืองก็จะพยายามทำแบบนี้ เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย
เมื่อถามถึงกระแสข่าวลือว่า พล.อ.เปรมถูกลอบยิง พล.อ.พงษ์เทพกล่าวพร้อมกับหัวเราะ

"มันลือกันไปเรื่อยเปื่อย ตอนนี้ไม่รู้ว่าอะไรจริงเท็จแล้ว แต่ขอยืนยันว่าตอนนี้ พล.อ.เปรมไม่ได้ป่วย และไม่ได้เป็นอะไร ท่านยังสุขภาพแข็งแรงดีเหมือนคนทั่วไปไม่ต้องเป็นห่วง ทั้งนี้ ไม่คิดว่ากระแสข่าวที่ว่า พล.อ.เปรมถูกยิง หรือป่วยหนักต้องหามเข้าส่งโรงพยาบาล ไม่ได้เป็นการแช่ง"