คมชัดลึก : “เหวง” พร้อมเจรจารอบ 3 แต่ต้องไม่มีเงื่อนไข คุยแค่วันยุบสภาอย่างเดียว นักวิชาการมอง3เดือนยุบสภาเหมาะสม (30มี.ค.) นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. กล่าวว่า การเจรจา 2 นัดที่ผ่านมาถือเป็นความสำเร็จของคนเสื้อแดง
ที่สามารถอธิบายความชอบธรรมในการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภาได้อย่างชัดเจน ตอกย้ำความเป็นรัฐบาลที่ถูกอุ้มสมโดยอำมาตยาธิปไตย ส่วนเงื่อนไข 3 ข้อที่รัฐบาลยื่นมาก่อนที่จะยุบสภานั้นเป็นเพียงข้ออ้าง ทั้งการทำเศรษฐกิจให้ดีรัฐบาลนี้ก็ทำไม่ได้เพราะมีแต่การกู้เงินมาโกงกัน เรื่องการสร้างบรรยากาศบ้านเมืองให้สงบนั้นก็เป็นไปไม่ได้เพราะความคิดของนายกฯกับนปช.สวนทางกันอยู่วันยังค่ำ
ดังนั้นต้องยุบสภาให้ประชาชนตัดสิน และกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือว่านายกฯตระบัดสัตย์ เพราะเคยรับปากพรรคร่วมว่าจะแก้ไข 6 ประเด็นตามข้อเสนอของกรรมการสมานฉันท์แต่กลับคำภายหลัง
“ผมเปิดโทรศัพท์ตลอดเวลา พร้อมเจรจาอีกรอบ แต่ยังไม่มีใครโทรมา แต่หากจะเจรจารอบใหม่จะต้องไม่มีเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อที่รัฐบาลอ้าง จะคุยเพียงแต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการยุบสภาเท่านั้น ทั้งนี้ข้อเสนอ 9 เดือนถือว่าเป็นการจงใจที่จะหาเรื่องกัน ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เปรียบเทียบกับต้นไม้ราคา 3 หมื่นบาทแต่รัฐบาลบอกจะขาย 1 ล้านมันไม่ใช่การต่อรองแต่ไม่คิดจะขายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นเราจะไม่ตกอยู่ในเกมที่รัฐบาลกำลังนำไปสู่การซื้อเวลา” นพ.เหวงกล่าว
นพ.เหวง กล่าวว่า นปช.พร้อมสู้ระยะยาวโดยจะมีการจัดทัพใหม่ ให้ผู้ชุมนุมสับเปลี่ยนกันมาชุมนุมแต่ละจังหวัด ให้มีคนอยู่ทุกวันอย่างน้อย 3 - 5 หมื่นคน
เหวง”พร้อมเจรจารบ.รอบ3คุยแค่วันยุบสภา
นักวิชาการมอง3เดือนยุบสภาเหมาะสม
ดร.เกษม เพ็ญภินันท์ ภาควิชาปรัชญา อักษรศาสตร์จุฬา กล่าวในรายการคมชัดลึกทางเนชั่นทีวีว่า
เหตุผลที่เลือกให้ยุบสภาภายใน 3 เดือนเพราะน่าจะเหมาะสมกับทุกฝ่าย รัฐบาลควรแยกให้ชัดเจนว่าอะไรควรทำก่อนหลัง การเจจรไม่ใช่เป็นเรื่องที่ทำให้จบ นายกฯก็ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่มีการเตรียบกรอบในากรเจรจาแต่พยายามแก้ต่าง แต่น่าจะเอาคนที่มีปัญหามาคุยกัน ทั้งคู่เป็นเพียงตัวแทน เสื้อแดงก็มีธงบางอย่างอยู่ แต่ทั้งคู่กำลังเป็นตัวแทนของแต่ละฝ่าย ตอนนี้ไม่ต้องมีพูดเรื่องอำมาตย์หรือพ.ต.ท.ทักษิณแต่ควรมองถึงบทบาท
9 เดือนกับการไม่ยุบสภาไม่มีค่าอะไรแต่อาจสามารถแก้ไขปัญหาทำให้รัฐบาลได้เปรียบ
สิ่งที่รัฐบาลทำนี้เป็น รัฐบาลสังคมสงเคราะห์และการดำเนินการนโยบายต่อรัฐบาลสมชาย แต่สิ่งที่รัฐบาลทำมากที่สุดคือการใช้กรอบกม.แต่ไม่มีการพูดถึงมาตรการทางออกของสังคม เราควรนับถือของชีวิตและแต่ละชีวิตที่ได้รับผลกระทบทางการเมือง เรากำลังพูดถึงพื้นฐานทางสังคมคือระบบการเมืองที่จะทำให้ปัญหาคลี่คลายไป ให้ทุกคนออกมาแสดงความคิดเห็น การเลืกตั้งเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนในการแสดง เลือกในสิ่งที่ตนเองต้องการ
นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป.)
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่การยุบสภาแต่ข้อเรียกร้องไปสอดคล้องกับความรุนแรง เป็นการช่วงชิงอำนาจทางการเมือง อายุรัฐบาลคงอยู่ได้ไม่นาน สองวันที่ผ่านมาเป็นการแสดงโวหารวาทกรรมไม่ใช่การเจรจา เรากลัวเสียงระเบิดความรุนแรง กลัวความกระทำของคนที่มองไม่เห็น สิ่งที่เราเจอนี้นักการเมืองไม่สามารถนำพาประเทศไปได้ ปัญหาชาวบ้านไม่เคยมีเป็นวาระในการเจรจาระดับประเทศ การยุบสภาไม่ใช่ทางออก แต่การเลือกตั้งจำเป็นแต่คงไม่ช่วยให้สถานการณ์ขณะนี้คลี่คลายไปได้ แต่ประชาชนทั้งประเทศต้องมาช่วยกัน เกี่ยวกับปัญหาการบริหารประเทศ
ครป.ไม่เห็นด้วยกับการแก้รธน.และยุบสภา ปัญหาคือทุกรัฐบาลไม่ได้แก้ปัญหาให้ประชาชน
รัฐบาลไหนก็เหมือนเดิม ชุมชนถูกแทรกแซง ปัญหาสังคมไปเกินกว่าการจะมายุบสภาปัญหาประเทศไม่ใช่เพียงแค่ยุบสภาและเลือกตั้งเพราะประเทสไม่ได้ทุกข์ที่ที่รธน.หรือนักการเมืองแต่ลามไปถึงจริยธรมคุณธรรม มากกว่า แต่ควรปฏิรูปประเทศอย่างไร ทำเมกกะโปรเจคให้คนจนได้หรือไม่ ชาวบ้านไม่ต้องการเอาเงินมากินแต่ต้องการเพื่อปรับปรุงพืชผล
" คนจะเป็นจะตายไม่ใช่คนชุมนุมแต่เป็นคนที่อยู่ต่างประเทศ"
นายพรศักดิ์ ลิ้มบุญยประเสริฐ เลขาธิการชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า รธน.ปี 50 มาจากการลงประชามติไม่ใช่าแก้กัน 6 คนแล้ว
ปากท้องประชขนแก้ปัญหาตรงไหน ความแตกแยกของสังคมตอนไหนที่เป็นห่วงคือศก. โดยรวมของโลกแตกไปตั้งแต่วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ในขณะนี้หลายประเทศกำลังฟื้นฟูและเริ่มมีการลงทุนหากก้าวพลาดก็มีปัญหาแน่นอน ซึ่งไม่สนับสนุนให้มีการยุบสภา ตนไม่ได้ชื่นชมนายกฯ แต่ความจำเป็นยังคงมีอยู่
ทั้งนี้การเจรจาทั้งสองวันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย บรรยากาศแบบนี้ทำร้ายประเทศมาก หากยุบสภาไป
แล้วปชป.ได้เข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากเรายังตีกันอย่างนี้ ตนห่วงจุดที่เราเริ่มเรื่องธุรกิจหากหกล้มในช่วงนี้ในขณะที่ศก.โลกกำลังปรับตัวขึ้น การยุบสภาไม่ได้ช่วยอะไรแต่ปัญหาต้องมาคุยับบนโต๊ะ อยากให้มาแก้ปัญหาร่วมกันคุยกันแต่ละปัญหา อาจนำไปสู่การแก้รธน.ที่เป็นตัวแทนมาจากประชาชน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ นักกิจกรรมทางสังคม 3 เดือนที่นักวิชาการเสนอมาเป็นตัวเลขน่ายอมรับได้ทุกฝ่าย ทิศทางประเทศไปในทางใดคือประชาชนเป็นผู้ตัดสิน การยุบสภาเป็นการเริ่มต้น ทั้งนี้การปรากฏการณ์การเคลื่อนไหว เป็นพลเมืองที่ถูกกดไว้นานเริ่มตื่นแล้ว เป็นการใช้สิทธิ์ในฐานะเป็นพลเมือง การตัดสินของประชาชนมันถูกต้องแล้วและมีหลายคนเริ่มรู้ว่าอยู่ไม่ได้แล้ว ทั้งนี้ระบบปชต.ไม่ใช่ดีที่สุดแต่ เป็นระบบเลวน้อยสุด ขณะนี้มีสามกลุ่มคือ1.กลุ่มเสื้อแดงอยากให้มีการเลือกตั้ง 2.ไม่ชอบเสื้อแดงพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาสภาพนี้ไว้ 3.กลุ่มคนตรงกลาง แต่ไม่ว่าจะสีอะไรประชาชนก็จะเป็นคนเลือก