วุฒิพงศ์ แฉดีลฯ ชิน "พันธมิตรขายชาติ"
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 มีนาคม 2549 20:59 น.
วุฒิพงษ์แฉโกหกต้นตอดีลฯชินพันธมิตรฯร่วมขายชาติทักษิณ-ตระกูลลีตั้งข้อสังเกตชื่อต้นไม้ที่เป็นนอมิมีของเทมาเส็กโยงชื่อโอ๊ค-เอมมีนัย พร้อมชี้พัฒนาการโกงคุมอำนาจรัฐ-ผูกขาดสัมปทาน-ฟาดกำไร -ขายให้สิงคโปร์
การชุนนุมยืดเยื้อเพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ยังมีกิจกรรมบนเวทีปราศรัยต่อเนื่อง โดยขณะนี้เป็นการเปิดมหาวิทยาลัยเปิดมหาวิทยาลัยการเมืองภาคประชาชนต่อเป็นวันที่ 2 ด้วยการเสวนา การซื้อขายหุ้นชินคอร์ป : รู้จักหุ้น รู้ว่าใครโกง โดยนายวุฒิพงศ์ เพรียบจริยวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันสหัสวรรษ มาให้ข้อมูลเรื่องกลโกง การเลี่ยงภาษี ในการขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้กลุ่มทุนเทมาเส็ก จากสิงคโปร์โดยนายพุฒิพงษ์เริ่มด้วยการย้ำอีกครั้งว่า "กูไม่ได้อิจฉามึง แต่กูเกลียดมึง เพราะมึงปล้นประชาชน"
"คุณทักษิณบอกว่าเป็นนักธุรกิจ แต่พวกเราในวงการธุรกิจด้วยกันต้องอับอาย เพราะการทำธุรกิจของคุณทักษิณที่บอกว่าทำหลากหลายรูปแบบนั้น แท้จริงเป็นรูปแบบเดียวคือการปล้นประชาชน ซึ่งจริงๆ แล้วมีองค์ประกอบอยู่ 3 ชิ้น คือ 1.เงิน 2.อำนาจรัฐ และ 3.สัมปทานสิทธิพิเศษ"
"คุณทักษิณเอาเงินไปซื้ออำนาจรัฐ แล้วเอาอำนาจรัฐไปสร้างสัมปทาน แล้วกลับมาเป็นเงินอีกทอดหนึ่ง อีกทั้งก่อนเป็นนายกฯ ก็ซื้ออำนาจรัฐจาก รสช. ซื้ออำนาจจากนักการเมือง ต่อจากนั้นก็บอกว่าไม่ต้องใช้เงินซื้ออำนาจรัฐอีกแล้ว แต่จะเอาอำนาจรัฐมาเป็นของตัวเอง ด้วยการใช้เงินตั้งพรรคการเมือง กลายเป็นนักล่าสัมปทาน โดยครอบครัวชินวัตรเอาตระกูลไปซท่อสัมปทานและผูกขาด ฟาดกำไร และวันนี้คุณทักษิณได้พัฒนาไปอีกขึ้นนึงแล้วคือขายให้สิงคโปร์ สรุปกิจการของครอบครัวชินวัตร คือ "กุมอำนาจรัฐ เอาชินวัตรเข้าผูกขาด และขายอำนาจให้สิงคโปร์" "
"หลายคนบอกว่าคุณทักษิณขายหุ้นไปหมดแล้วใช่ไหมครับ แน่ใจนะว่าไม่ได้ซุกอยู่ตามบริษัทชื่อแปลกๆ แต่ผมเชื่อว่ายังมีหุ้นส่วนหนึ่งอยู่ในมือตระกูลชินวัตร-ดามาพงศ์ เรื่องอะไรจะไปถือหุ้นชินครอปเอง ก็ตั้งบริษัทเอ บี ซี มาซื้อหุ้นไปแทน และครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์ก็ซื้อขายหุ้นผ่านบริษัทนั้น แต่ถ้าเริ่มมีคนสงสัยจับได้ก็ตั้งบริษัทเอ็กซ์ วาย แซดมาถือเอบีซีอีกที และซื้อขายหุ้นอีกชั้นให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น ท้ายสุดแล้วแทนที่จะมาถือหุ้นโดยตรง ก็ตั้งเป็นกองทุนในสิงคโปร์ไม่ต้องแจ้งตลาดหลักทรัพย์เสียด้วยซ้ำ จะขายบิกล็อต สมอลล็อตก็ได้ไม่มีใครสงสัย"
"ไม่รู้ว่าเหตุการณ์จริงๆ มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สามารถทำธุรกิจต่างๆ ได้โดยไม่เป็นที่ครหา วิธีการปั่นหุ้นก็เกิดขึ้นได้โดยไม่เป็นที่สงสัย แทนที่เราจะเป็นเจ้าของบริษัท อันนี้ก็ไม่เสียการควบคุม สามารถควบคุมเงียบๆ จากหลังบ้านก็ได้ ควบคุมจากฟ้าก็ได้ เพราะฉะนั้นมีความจำเป็นที่เจ้าของหุ้นในสิงคโปร์ในบริติช เวอร์จินจะต้องย้ายภูมิลำเนาอย่างกระทันหัน ซึ่งจะเกิดได้ภายในไม่กี่วันนี้"
"ก็ไม่แน่ถ้าวันที่ 14 มีนาฯ นี้คนมาเป็นแสนๆ ล้านๆ วันที่ 15 มี.ค.ก็หนีออกนอกประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไอ้ที่เราเรียกว่าเป็นเทมาเส็กทั้งหมด แต่ไม่ใช่เทมาเส็กมาซื้อแต่เป็นกองทุนนอมินีที่เป็นกองทุนไม่เปิดเผยชื่อ แต่บอกว่าเทมาเส็กเป็นเจ้าของ อะไรต่อมิอะไรสับสนวุ่ยวาย บอกว่าเป็นกองทุนกุหลาบแก้ว ถือโดยไซเปรส (Cypress) ซื้ออีกต่อก็คือแอสเปรน (Aspen) เทน ทั้งหมดเป็นชื่อต้นไม้อีก โอ๊คก็เป็นชื่อต้นไม้"
"คนที่บริหารเทมาเส็ก ซีอีโอใหญ่ชื่อมาดามโฮซิง เป็นภรรยาของลีเซียนลุงนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของลีกวนยู อดีตนายกรัฐมนตรี ธุรกิจของตระกูลชินวัตร-ดามาพงศ์คือธุรกิจปล้นชาติ ผู้นำประเทศปล้นชาติของตัวเอง เปลี่ยนจากธุรกิจการปล้นชาติแบบเก่า เป็นการปล้นข้ามชาติ แทนที่จะให้ผู้นำประเทศไทยปล้นโทรคมมาคมของไทยอย่างเอไอเอส ชินครอป ให้ฮุนเซนปล้นคนเขมร ให้หม่องเอปล้นคนพม่า ต่างคนต่างปล้น แต่วันนี้ไม่มีความจำเป็น เรามาตั้งกองทุนใหญ่ๆ เป็นชื่อต้นไม้ แล้วก็มาปล้นกันเอง ให้สิงคโปร์เป็นหัวหน้าใหญ่"
"แทนที่เทมาเสกจะเข้ามายึดโทรคมนามในไทยก็ไปยึดในลาว เขมร พม่า อินเดีย บังคลาเทศ ตั้งเป็นองค์กรแบ่งเป็นสัดเป็นส่วน อันนี้น่าจะเป็นวิวัฒนาการใหม่ของการปล้นชาติ วันนี้ต่างคนต่างปล้นไม่มัน มีพันธมิตรไม่ใช่พันธมิตรประชาธิปไตยเป็น "พันธมิตรร่วมปล้นชาติ" "
"ทำไมทักษิณถึงสู้เหลือเกินทั้งๆ ที่คนก็มามืดฟ้าม้วดิน ที่ไม่ถอย เพราะถอยไม่ได้ เงินยังคิดอยู่ ยังไม่ได้รับเต็มที่ เพราะตัวสัญญาซื้อขายระหว่างเทมาเส็กกับเซดา (Cedar) กับแอสเพนที่มีอยู่กับครอบครัวชินวัตร ดามาพงศ์ยังไม่เป็นที่เปิดเผย ก็สงสัยว่าทำไม กลต.ทำไมยังไม่เปิดเผย หรือต้องส่งคนไปซัก 3-4 มื่นคนเพื่อเปิดเผย"
"คุยกับเพื่อนนักธุรกิจอีกหลายคนบอกว่าเงินนี้ยังไม่ได้เข้ากระเป๋าชินวัตรดามาพงษ์ จะยังไม่มีการเคลื่อนไหวจนกว่าจะเรียบร้อย ซึ่งหุ้นนี้ยังอยู่ในภาวะปลอดภัย เพราะเป็นเงื่อนไขพิเศษ เป็นหุ้นการเมือง ที่ขึ้นและลงตามการเมืองของทักษิณ ถ้านายกฯ ทักเป็นไปทางการเมือง หุ้นก็จะลง ซึ่งมีช่วงเวลาหนึ่งที่เขาบอกยกเลิกซื้อขายได้ด้วย ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ แต่น่าจะภายใน 90 วัน ซึ่งที่ทักษิณยังลงไม่ได้ก็เพราะต้องมีการดูแลภายใน 90 วัน ภาษาตลาดคือ ต้องมีการบริการหลังการขาย 90 วัน
"เราไม่เห็นสัญญาเพราะ กลต.ไม่เปิดสัญญา ส่วนคุณทักษิณก็ไม่เปิดสัญญาให้เราดู หลังจากเทมาซื้อหุ้นไปเรียบร้อยแล้ว มีข้อเสนอ 9 ข้อ ชัดเจนว่ามีกองทุนซีดา และแอสเพน หากมีเหตุการณ์ใดๆ ที่ทำให้มูลค่าหุ้นเปลี่ยนแปลง จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่ง 49% ที่เขาทำสัญญากับชีดา เราไม่ได้เห็น แต่เราอนุมานได้ว่าต้องมีเงื่อนไข 49% บริการหลังการขาย ต้องถามเลขาธิการ กลต. และเงินต้องถูกโอนเข้ามาในบัญชีของพานทองแท้และพิณทองทา ชินวัตร โดยไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เรามีภาษาเทคนิคว่า "บัญชีเอสโครว์" ยังไม่มีการถ่ายเทเงิน เราไปเปิดบัญชีลาง ต้องมีสถาบันการเงินมาดูแล จะเปิดบัญชีนี้ได้ต้องให้เงื่อนไขที่ตกลงกันบรรลุเรียบแล้ว ซื่งบัญชีนี้ยังแตะไม่ได้อยู่ในชื่อของพานทองแท้และพิณทองทา"
"นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเรายังต่อสู้กันยาวนาน เราก็ขอดูได้ แต่อย่าไปกันทีละคน 2 คน แต่ไปกันทีละแสนคน ผมเชื่อว่ามันมีเหตุการณ์อย่างนี้ คุณทักษิณอาจจะโกหกพกลมด้วยเรื่องการลาออกชาติหน้าตอนสายๆ เพราะยังบริการหลังการขายยังไม่สำเร็จ ผมเชื่อว่าคุณทักษิณไม่มีวันจะลาออกแน่นอน เพราะถ้าประชาชนชนะจริงๆ จะเห็นการหนีออกแทน"