(28มี.ค.) ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เมื่อเวลา 13.30 น. นายยุกติ มุกดาวิจิตร อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ นายไชยยันต์ รัชชกูล สถาบันศาสนา วัฒนธรรรม และสันติภาพ มหาวิทยาลัยพายัพ ในฐานะตัวแทน เครือข่ายสันติประชาธรรม ซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการไทยและต่างประเทศ 155 คน รวมทั้งนักวิชาการอิสระ ปัญญาชน และประชาชน 90 คน ร่วมกันลงนามในจดหมายเปิดผนึกถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและแกนนำ นปช. ต้องเร่งการเจรจาเพื่อขจัดเงื่อนไขไปสู่ความรุนแรงและคืนอำนาจให้ประชาชน
นายยุกติ กล่าวว่า พวกเราในฐานะนักวิชาการและประชาชนที่ห่วงใยสถานการณ์บ้านเมือง เห็นว่าหากปล่อยให้สภาวการณ์ดำเนินไปเช่นนี้ ย่อมหลีกเลียงไม่ได้ที่จะเกิดเหตุรุนแรง และนำไปสู่การใช้กำลังของรัฐเข้าปราบปรามสลายการชุมนุม ซึ่งประชาชนจำนวนมากอาจได้รับการบาดเจ็บล้มตายในที่สุด จึงขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีและแกนนำนปช. คือ 1. ให้นายกรัฐมนตรีประกาศว่าจะยุบสภาภายใน 3 เดือน รัฐบาลต้องไม่มองว่าการยุบสภาคือความพ่ายแพ้ แต่ควรเห็นว่านี่คือหนทางที่ดีที่สุดสำหรับปลดเงื่อนไขแห่งความรุนแรงที่กำลังจะเกิดขึ้นประการสำคัญ การยุบสภาคือการคืนอำนาจให้แก่ประชาชนในภาวะที่บ้านเมืองไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้ ส่วนฝ่าย นปช. ไม่ควรยืนยันให้รัฐบาลยุบสภาในทันที แต่ควรให้เวลา 3 เดือนแก่รัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาและผลักดันนโยบายที่เร่งด่วนเสียก่อน
นายยุกติ กล่าวว่า รัฐบาลและผู้นำนปช.จะต้องดำเนินการเจรจา เพื่อปลดเงื่อนไขทางการเมืองโดยเร็วที่สุด โปรดอย่าพูดว่าจะเจรจาเพียงเพื่อสร้างภาพความชอบธรรมให้กับฝ่ายตนเท่านั้น แต่ต้องมุ่งเจรจาเพื่อสร้างกรอบกติกาการเลือกตั้ง ที่เปิดโอกาสให้การหาเสียงเลือกตั้งของทุกฝ่ายดำเนินไปได้อย่างเสรีปราศจากการคุกคาม และ 3. ให้กลุ่มและพรรคการเมืองทุกฝ่ายต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง และเปิดโอกาสให้รัฐบาลใหม่ได้บริหารประเทศอย่างเต็มที่ ไม่มีการล้มกระดานด้วยวิธีการนอกระบอบรัฐสภาอีกต่อไป ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวเกิดจากการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง ภายหลังการรวมตัวติดตามสถานการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ช่วงหลังรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 ของกลุ่มนักวิชาการทั้งหลาย ซึ่งรายชื่อที่ปรากฏเป็นของจริงไม่มีการแอบอ้าง
นายศิโรฒน์ กล่าวว่า วันนี้การเจรจาที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นผลจากพลังของประชาชนจนรัฐบาลยอมเปิดการเจรจา ทั้งนี้คิดว่าการเจรจาควรเกิดขึ้นจากจุดที่รัฐบาลและนปช. เห็นแก่การประชาธิปไตยที่แท้จริงๆ ไม่ควรมีวาระซ่อนเร้น หรือหวังประโยชน์แต่เพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
นายไชยยันต์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเราได้ยินข่าวว่าการประชุมรัฐสภาล่มหลายครั้ง และมีปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ดั้งนั้นข้อเรียกร้องของนักวิชาการไม่ได้มุ่งแต่จะแก้ปัญหาในรัฐสภาเท่านั้น แต่เรามุ่งแก้ปัญหาทั้งในและนอกสภา ทั้งนี้อยากจะสื่อไปถึงนายกรัฐมนตรีที่มักจะใช้เหตุผลว่าให้ปฏิบัติอยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งการยุบสภาถือว่าเป็นกรอบขอกฎหมาย แต่ถ้านอกเหนือจากนี้ก็จะไม่ใช่วิธีการที่อยู่ในกรอบกฎหมาย แต่เป็นการที่ใครก้ามโตก็อยู่รอด ซึ่งเราไม่ต้องการอย่างนั้น ขอให้นายกรัฐมนตรีปฎิบัติและทำตามที่ตัวเองประกาศ ขอให้ปากกับใจตรงกัน
นายไชยันต์ กล่าวว่า ทั้งนี้ข้อเรียกร้องดังกล่าวไม่ได้ต้องการสื่อไปที่รัฐบาลฝ่ายเดียว แต่หากข้างบนที่เหนือกว่ารัฐบาลถ้าเห็นด้วยกับแนวทางเราก็ดีมาก
ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับรายชื่อนักวิชาการที่ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกครั้งนี้ อาทิ นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ ปัญญาชนอาวุโส นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายเกษียร เตชะพีระ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย นายสมชาย ปรีชาศิลปกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายธงชัย วินิจจะกูล อาจารย์มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น