มาร์คนำทีมถกเครียด3แกนนำเสื้อแดง หาทางออกวิกฤตประเทศ

"มาร์ค"นำทีมถกเครียด 3แกนนำเสื้อแดง หาทางออกวิกฤตประเทศ "ยุบสภา-แก้รธน."ถ่ายทอดสดผ่านทีวี นปช.เส้นตายนายกฯ29มี.ค. ถามคำเดียว"จะยุบสภาหรือไม่" ถือเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเคลื่อนต่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายภายหลังเวลาผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมง ได้มีการพักประชุมประมาณ 3 นาที หลังกลับมาเข้าประชุม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้มีข้อเสนอว่า ให้นายกรัฐมนตรี ไปพิจารณาให้มีการยุบสภาภายใน 2 สัปดาห์ โดยเงื่อนไขต่างๆที่มีการหารือกันนั้น ทางฝ่ายเสื้อแดงจะไปพิจารณาทางออกต่างๆ โดยจะมีการนัดหารืออีกครั้ง ในเย็นวันจันทร์ที่ 29 มีนาคม เวลา 18.00 น. ที่สถาบันพระปกเกล้าเหมือนเดิม รวมระยะเวลาในการเจรจาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง



ในเวลา 15.50 น. วันที่ 28 มีนาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาถึงสถาบันพระปกเกล้า ต่อมาเวลา 16.00 น. นายวีระ มุสิกพงษ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. เดินทางมาถึง ทั้งนี้นายจตุพร กล่าวสั้นๆว่า " ข้อเสนอมีข้อเดียวคือต้องยุบสภาเท่านั้น "  ทั้งนี้ทั้งหมดได้ร่วมหารือกันในห้องประชุมใหญ่ที่มีการติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดซึ่งมีการถ่ายทอดภาพและเสียงออกมา การเจรจาในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศมาทำข่าวกันจำนวนมาก ซึ่งมีการถ่ายทอดสดออกทีวีเกือบทุกช่อง


นายวีระ กล่าวว่า "เราก็พวกเดียวกันทั้งนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดกันโดยตรง เราพูดกันผ่านสื่อ เพราะว่าต่างคนต่างมีสถานะที่กีดกันอยู่

ดังนั้น การที่นายกฯให้โอกาสให้เวลาพวกเรามาสนทนากันในวันนี้ ต้องขอบคุณ และก็เชื่อว่า สิ่งที่เราคุยกันจะเป็นทางออกที่ดี อย่างที่ท่านก็ทราบแล้ว เราก็มีแถลงการณ์ที่เรียกร้องก็ง่าย ๆ คืออยากให้มีการยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนได้ตัดสินใจ ทั้งนี้ไม่ได้มีอคติ อย่างหนึ่งก็คือข้อขัดข้องระหว่างพวกเรามันไปอยู่ที่รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นปัญหาหลัก ทำให้ไม่สบายใจกันตลอดมา
 

เรื่องที่ 2 ก็คือเรื่องของการทำงานของคณะรัฐบาล ก็มาในภาวะที่ประเทศมีปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจอย่างมากมายท่านก็เหน็ดเหนื่ยแต่ก็ไม่อาจแก้ปัญหาได้ ไม่อาจจะฝ่าขวากหนามของปัญหาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีปัญหารอบด้าน น่าจะเป็นทางออกที่ดีก็เลยเสนอทางนี้ดีกว่า มันก็ได้ทั้ง 2 เรื่อง คือ

1.ไปถามชาวบ้านเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยวิธีการเลือกตั้ง
2.เรื่องของการแก้ไขปัญหาซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยืดยาว
แต่ก็จะพูดกันสั้น ๆ เพียงแต่ว่า เมื่อท่านก็ได้ทราบจากสื่อ ซึ่งเราก็ได้แถลงตลอดมา ก็คงจะได้ฟังความเห็นทางฝ่ายค้านในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบอยู่ว่า ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อให้เกิดความสงบสุข ซึ่งตนคิดว่านายกฯก็น่าจะรับรู้อยู่ คือมีคำหนึ่งที่เห็นตรงกันและพูดตรงกันคืออยากให้ประเทศไทยชนะ พวกผมชนะก็ไม่มีประโยชน์ ท่านชนะก็ไม่มีประโยชน์ ถ้ามันยังมีการแบ่งเป็นฝักฝ่าย และก็ยังทำอะไรไม่ได้เต็มไม้เต็มมือ เพราะฉะนั้นถาร่วมกันประเทศไทยก็จะชนะ ก็กราบเรียนท่านสั้น ๆ แค่นี้ และขอความเห็นท่านว่าจะคิดเห็นประการใดที่เราจะร่วมกันได้ ทอะไรที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ
 


นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยืนยันตั้งแต่ต้นว่าเ ราต้องการให้ประเทศไทยชนะ ไม่ใช่ชัยชนะของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด จะเห็นว่าตลอดเวลาที่มีการชุมนุมผมก็ยืนยันตลอด เราไม่ควรจะมาเป็นศัตรูกัน แต่ความคิดเห็นทางการเมืองทุกท่านก็คงทราบดี เพราะว่าคลุกคลีในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งมาโดยตลอด ก็มีความแตกต่างหลากหลาย เพียงแต่ว่าหลายคนก็รู้สึกสะท้อนใจว่าไม่เคยมียุคใดที่ความแตกต่างมันแสดงออกในลักษณะที่รุนแรงมากขึ้น ๆ ซึ่งในช่วง 13-14 วันที่ผ่านมานี้ รัฐบาลก็ทำทุกวิถีทางที่จะบริหารสถานการณ์ที่จะทำให้ทุกคนไม่ต้องเสียใจภายหลัง และในวันนี้ก็ต้องขอบคุณที่เรามาอยู่ตรงแทนที่เราจะเห็นประชาชน เ จ้าหน้าที่รัฐเผชิญหน้ากันอยู่บนความเครียด ความกังวลของคนทั้งประเทศ ทีนี้ข้อเสนอในเรื่องของการยุบสภาว่าตามจริงผมไม่เคยเป็นคนที่ปฏิเสธเรื่องนี้แม้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่ง ผมเห็นไม่ตรงกัน ในเรื่องเหตุเรื่องผลหลายอย่าง แต่กผมก็ถือว่าการยุบสภาก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในระบบ แต่ก็มีคำถามเท่านั้นเองว่าการยุบสภานี้เราต้องการที่จะทำอะไร วัตถุประสงค์อะไร ผมคิดว่าวันนี้สิ่งที่แสดงออกมาจากความขัดแย้ง มันนับยากว่าจะเริ่มจากตรงไหน ผมไม่ได้คิดว่ามันเริ่มเพราะผมมาเป็นนายกรัฐมนตรี ผมไม่คิดว่ามันเริ่มจากการปฏิวัติรัฐประหาร
 

"มีหลายเรื่องสะสมกันมา มีเรื่องโครงสร้างบ้าง ตัวบุคคลบ้าง เรื่องอะไรบ้าง ปัญหามันก็ลุกลามมากขึ้น เพราะฉะนั้นที่ผมพูดมาตลอดเรื่องการยุบสภาว่าข้อที่
 
1.สิ่งที่เป็นเหตุเป็นผลที่สุดคือ ถ้าเราคิดว่ามันมีทางออก ทุกคนชนะ ประเทศสงบสุขผมก็นึกไม่ออกว่าใครจะค้าน แต่ผมคิดว่าหากเราเริ่มคุยกัน เราก็จะเห็นประเด็นต่าง ๆ ที่เราจำเป็นจะต้องมาทำความเข้าใจ เรามาพูดคุยกันก่อนว่าการยุบสภามันเป็นคำตอบเหมือบดีดนิ้วแล้วจบชนะจริงหรือไม่ อันนี้เป็นประเด็นที่ 1 ประเด็นที่ 2 คือ ที่พีวีระบอกว่าท่านทั้ง

3 มาในฐานะตัวแทน แต่ผมคงไม่ได้มาในฐานะของหัวหน้าพรรคการเมือง ผมมาในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็กินความมากกว่าหัวหน้าพรรคการเมืองข้อที่ 1 อย่างน้อยผมก็รัฐบาลผสม แต่บังเอิญระบุว่าให้มา 3 คน ผมไม่สามารถเอาทุกพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมภายใน 3 คนได้ ก็เป็นเรื่องที่ผมต้องมารับผิดชอบนะครับ แต่ถือโอกาสเรียนตั้งแต่ต้นว่า ได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเท่าที่เราจะตามตัวบุคคลได้



นัดเจรจาใหม่29มี.ค. เย็น 18.00 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหารือผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมง ก็มีการพัก 5 นาที หลังจากนั้น ทั้งหมดมานั่งเจรจากันอีกครั้ง โดยอภิสิทธิ์ยืนยันว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญจึงยุบสภาได้ ขณะที่นายจตุพรยืนกรานว่าต้องยุบสภาโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ พร้อมยื่นคำขาดว่าต้องทำภายใน 2 สัปดาห์ และข้อยุติการเจรจาโดยทาง นปช.จะขอกลับไปหารือกันอีกครั้ง จากนั้น นายกรัฐมนตรีนัดหมายว่า จะเจรจากันอีกครั้งในวันที่ 29 มีนาคมในเวลา 18.00 น. สถานที่เดิม เนื่องจากวันที่ 29 มีนาคมติดภารกิจ ต้องเดินทางไปเยือนบรูไน และจะกลับมาในเวลา 17.00 น. จากนั้น ทั้งหมดก็เดินทางกลับในเวลา 19.30 น.





เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์