กอร์ปศักดิ์ ขึ้นเวทีแฉซ้ำเส้นทางซุกหุ้น ทักษิณ-พจมาน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 มีนาคม 2549 21:03 น.

เวทีประชาชนท้องสนามหลวงตั้งวงยำ ทักษิณ แฉเส้นทางซุกหุ้นภาค1 ถึงภาค 2 พัฒนาโยงใยอย่างต่อเนื่อง ชี้เป็นนายกฯต้องมีจริยธรรมมียางอาย ขณะเดียวกัน "ระบอบทักษิณ" ครอบงำระบบราชการจนไม่อาจทำงานตามปกติแล้ว

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการ สดจากเวทีท้องสนามหลวง ในหัวข้อ ขายชินขายชาติ โดยเล่าย้อนเหตุการณ์ซุกหุ้นภาคแ รก เพื่อเชื่อมโยงถึงการซุกหุ้นภาค 2 พร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยาเริ่มซุกหุ้นตั้งแต่เริ่มมีคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) จำนวนถึงจำนวน 8 ล้านหุ้น และไม่เคยปรากฎว่าเงินที่ขายได้ไปซุกไว้ที่ไหน

นายกอร์ปศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า การซุกหุ้นภาคแรก มีการมอบให้คนใกล้ชิด เช่นคนใช้ คนสวน แต่ถูกจับได้ ทำให้คุณหญิงพจมาน ถูกปรับไปถึง 6 ล้านบาทซึ่งไม่เคยมีใครถูกปรับมากถึงขนาดนี้ในการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ

นายกอร์ปศักดิ์ ยังชี้ให้เห็นถึงเล่ห์กลของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เริ่มซับซ้อนมากขึ้นโดยการไปซุกหุ้นในต่างประเทศ เช่นที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น มีการตั้งบริษัทแอมเพิ้ลริช มีการซื้อขายขายกันเองภายในเมืองไทย จากมูลค่า 4-5 พันล้านขายกันแค่ 300 ล้านบาท พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากลจากการตรวจสอบเอกสารการก่อตั้งบริษัทที่กระทรวงพาณิชย์พบว่าครอบครัวนายกฯถึงหุ้นแค่ 39 เปอร์เซ็น แต่จากการขายให้เทมาเศ็กซึ่งเป็นกองทุนสิงคโปร์ที่ซื้อหุ้นจากชินคอร์ปฯนั้นมีถึง 49 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นหุ้นที่เพิ่มมา 10 เปอร์เซ็นต์ มาจากไหนถ้าไม่ใช่แอบซื้อมาจากแอมเพิ้ลริชนั่นเอง เป็นการซุกหุ้นอย่างแยบยลโดยไม่ต้องเสียภาษี

คนเป็นนายกฯต้องมีจริยธรรมต้องมียางอายบ้าง การทำอย่างนี้ถือว่าผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง

นายกอร์ปศักดิ์ ระบุว่า ระบอบทักษิณอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เพราะระบอบทักษิณได้เข้าครอบงำหน่วยงานของราชการที่ประชาชนเป็นผู้เสียภาษี ทำให้หน่วยงานต่างๆ ลุกขึ้นปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แทนที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ และที่สำคัญ คือ ทำลายความมั่นคงของชาติ ซึ่งก็คือความมั่นคงของประชาชนทุกคนด้วย

"ความมั่นคงคืออะไร วันนี้กลับบ้านแล้วไปดูบิลมือถือ เห็นชัดเลย เขารู้หมดว่าวันนี้เราโทรไปหาญาติเราที่โคราช อุบล อเมริกา โทรวันไหน เวลาเท่าไหร่ ใช้เวลากี่นาที เขารู้หมด เพราะเขาต้องส่งบิลมาเก็บจากเรา แล้วบทสนทนาของเราเขารู้ไหม? มันยากตรงไหน ไม่ต้องไปแอบดักฟัง มันอยู่ตรงสถานีเอาซอฟต์แวร์ไปใส่ปุ๊บก็รู้ได้หมดว่าพูดอะไร!"

นายกอร์ปศักดิ์ระบุว่า การถูกละเมิดความมั่นคงส่วนตัวยังไม่ร้ายแรงเท่ากับความมั่นคงของประเทศชาติ เมื่อสามารถเช็คข้อมูลการสนทนาของประชาชนได้ ประเทศสิงคโปร์ซึ่งขณะนี้เป็นเจ้าของกิจการโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยก็สามารถตรวจเช็คการสนทนาของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ได้เช่นกัน กรณีนี้มีตัวอย่างแล้วที่ประเทศกรีซ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี รวมถึงคนสำคัญ 100 คน ถูกดักฟังด้วย snoopy ซอฟต์แวร์ ด้านดร.วุฒิพงศ์ เพรียบจริยวัฒน์ระบุว่า ข้อมูลทางลับเผยว่า ปัจจุบันรัฐบาลไทยกำลังดักฟังโทรศัพท์มือถือทั้งสิ้น 14,000 เลขหมาย

ทั้งนี้ นายกอร์ปศักดิ์ยกตัวอย่างกรณีของประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นถึงมหาอำนาจของโลก แต่ก็ยังเกรงกลัวภัยด้านความมั่นคง เห็นได้จากการที่บริษัทเทมาเสกต้องการเข้าถือหุ้นบริษัท Global Crossing ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในโลกแต่ประสบปัญหาล้มละลาย

ครั้งนั้นเทมาเสกขอซื้อหุ้นบริษัทผู้วางสายเคเบิลใต้น้ำทั่วโลกแห่งนี้ 67.5% แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ถือเรื่องความมั่นคงเป็นสำคัญ จึงไม่ยอมขายให้โดยทันที แต่ได้ตั้งเงื่อนไขให้เทมาเสกมาเจรจากับกระทรวงกลาโหม เอฟบีไอ และกระทรวงมหาดไทย สะท้อนให้เห็นว่าเรื่องความมั่นคงของประเทศเป็นเรื่องสำคัญ แต่ในประเทศไทย กลไกการปกป้องประเทศแบบนี้ได้ถูกระบอบทักษิณทำลายลงหมด

สำหรับกรณีการซื้อชินคอร์ปฯ นายกอร์ปศักดิ์เห็นว่าเทมาเสกก็ควรมาเจรจากับหน่วยงานความมั่นคงของไทยเช่นกัน ด้านดร.วุฒิพงศ์มองมุมกลับว่า บริษัทเทมาเสกก็อาจจะตั้งใจอยากยกเลิกข้อตกลงการซื้อหุ้นอยู่แล้ว หลังจากได้เห็นสภาพการเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้