กลับไทย ยากสะแว้วว

กลางการจับตาการเดินทางลงพื้นที่ภาคอีสานของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มุ่งหน้าไปที่จังหวัดสกลนครและบุรีรัมย์


กับภารกิจที่ฟังแล้วทะแม่งๆ พบปะพูดจากับอดีตคนของพรรคคอมมิวนิสต์

จับเข่าคุยกับแนวร่วมพัฒนาชาติไทยที่รัฐบาลเคยประกาศให้ความช่วยเหลือไว้เมื่อคราวนโยบาย 66/2523 ตั้งแต่ยุครัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ 20 กว่าปี ที่แล้ว แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่ได้รับการดูแล

ก็สงสัยว่า อยู่ๆทำไมต้องให้ความสำคัญกับคิวนี้เป็นภารกิจแรกๆของนายกรัฐมนตรี

ทั้งๆที่งานเร่งด่วนยังมีอีกเพียบ

แล้วก็เป็นอดีต ส.ส.บุรีรัมย์อย่างนายทรงศักดิ์ ทองศรี และนายประกิจ พลเดช ลูกแถวของนายเนวิน ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาช่วยยืนยันแทนลูกพี่ ตอนนี้ตระกูล ชิดชอบ ต่างเก็บเนื้อเก็บตัวเงียบ หมอบราบคาบ

ไม่มีการปลุกระดมมวลชน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อต่อต้านขั้ว อำนาจใหม่


จากกระบวนท่าการรุกไล่ที่แฝงอยู่ในหมายทะแม่งๆของ พล.อ.สุรยุทธ์ และอีกฝ่ายที่รีบออกมาแสดงตัว ประกาศความบริสุทธ์ใจ ก็พอจะเดาได้ว่าอะไรเป็นอะไร

เขาไล่บล็อก

บุกกดหัวกันตั้งแต่ในถ้ำเลย


และในขณะที่ควันหลงภายหลังนายกฯสุรยุทธ์เรียกทูตต่างประเทศ เข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อพูดจาทำความเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทย และความจำเป็นในการต้องเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มาด้วยวิธีการแต่งตั้ง

เร่งกู้ภาพพจน์ของประเทศ

ในส่วนของเพื่อนบ้านในแถบอาเซียนอย่างลาว เขมร มาเลเซีย ตลอดจนพี่ใหญ่เอเชียอย่างจีนไม่มีปัญหาพอเข้าใจและรับได้

ไม่เอาด้วยก็คือพี่เบิ้มสหรัฐอเมริกากับสหภาพยุโรป ไม่ยอมฟังเสียง เรียกร้องให้คืนอำนาจและสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน นำประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ววัน


มิฉะนั้นอาจเจอมาตรการกดดัน พาลแซงก์ชั่น

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ทางหนึ่งก็โดนแรงกดดันจากต่างประเทศ อีกมุมหนึ่งก็เริ่มมีเสียงบ่นพึมพำจากนักประชาธิปไตยในเมืองไทย แต่รัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ก็ยังคงเดินหน้าล็อกกฎอัยการศึกต่อไปอย่างไม่มีกำหนด

ด้วยเหตุผลที่สถานการณ์ยังไม่นิ่งสนิท ยังไม่อยู่ในจุดที่น่าไว้วางใจ

ล่าสุด พล.อ.สุรยุทธ์ ยอมรับว่าได้รับการต่อสายจาก พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เจรจาขอเดินทางกลับประเทศไทย

ในสถานการณ์ล่อแหลม

ระดับ พ.ต.ท.ทักษิณจะประเมินไม่ออกเชียวหรือว่า การต่อสายขอเดินทางกลับประเทศไทย ในช่วงที่วันรัฐประหารเพิ่งผ่านไปไม่ทันครบเดือนดี

กลิ่นควันยึดอำนาจยังกรุ่นๆอยู่เลย

คำตอบที่ได้ก็อย่างที่ พล.อ.สุรยุทธ์พูดนิ่มๆแต่แฝงไว้ด้วยความเข้ม


ผมได้เรียนท่านไปว่า ท่านมีสิทธิจะกลับมา เราไม่ได้ หวงห้าม เพราะท่านเป็นคนไทย อันนี้เป็นสิทธิโดยกำเนิดของท่านเอง แต่ห้วงเวลาที่จะกลับมานั้นก็ขอหารือกันก่อน

สำทับด้วย พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะรองประธาน คมช. ระบุยังไม่กำหนดกรอบเวลาเปิดไฟเขียวให้อดีตนายกฯทักษิณกลับเมืองไทย


เพราะห่วงเรื่องความมั่นคงและความสงบ


โน่นแหละที่เขาวางโปรแกรมกันไว้ ทักษิณ จะได้วีซ่าก็เดือนกันยายนปีหน้านั่นเลย

ใครจะกล้าปล่อยเสือเจ็บเข้าป่า

ทักษิณ เองน่าจะรู้เกมนี้อยู่แล้ว แต่ก็ยังตื๊อขอกลับบ้าน

ทางหนึ่งจะเป็นการเรียกร้องความเห็นใจ ตอกย้ำประเด็นสิทธิมนุษยชนในสายตานานาชาติ โดยเฉพาะมหามิตรอย่างสหรัฐฯ และหมู่เพื่อนในกลุ่มสหภาพยุโรป

ขอแรงร่วมด้วยช่วยกันกดดันเพื่อเปิดทาง

อีกมุมหนึ่งก็เรียกคะแนนสงสารในหมู่แฟนๆและคนไทยที่เห็นใจฝ่ายพ่ายแพ้

ออกแอ็กชั่นคลายเครียดไปพลางๆ.




แหล่งที่มา:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์