วันนี้( 22 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ที่ผ่านมามีความพยายามในการก่อกวนสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในพื้นที่การชุมนุม โดยเมื่อคืนที่ผ่านมามีชายคนหนึ่งพยายามมาทำลายจานดาวเทียมของกลุ่มเสื้อแดงบริเวณหน้ารัฐสภา การด์ได้คุมตัวไว้เพื่อส่งเจ้าหน้าตำรวจสอบสวนต่อไป นอกจากนี้มีความพยายามสร้างความวุ่นวายหลายจุดโดยการโรยตะปูเรือใบ ทางกลุ่มเสื้อแดงจะประสานเจ้าหน้นาที่ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงกลางดึก ในส่วนการเคลื่อนไหวของนายอภิสิทธิ์ เป็นไปตามคาดต้องมีความพยายามที่ต้องตะเกียตะกายออกจากค่ายทหาร เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมาพยายามสร้างความเคลื่อนไหวให้ตัวเองด้วยการเรียกทีวีหลายช่องให้มาสัมภาษณ์ทั้งที่ นายอภิสิทธิ์ ไปไหนไม่ได้ ไม่มีการขับเคลื่อนนโยบาย ไม่มีการบริหารประเทศเลย ในวันที่ที่ได้ขึ้น ฮ.ไปตรวจภัยแล้งในพื้นที่อีสาน ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ขัดขวางแต่จะตามไปทุกที่ที่นายอภิสิทธิ์ ไปเพื่อเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ยุบสภา ไปอย่างสงบสันติไม่มีอาวุธ
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อเชื่อว่ารัฐบาลมีความพยายามในการประชุม ครม.ให้ได้เพื่อรักษาความชอบธรรมว่ายังมีอำนาจบริหารอยู่ ไม่ว่าประชุมที่ไหน หากกลุ่มเสื้อแดงรู้จะตามไปเป็นการเคลื่อนทัพใหญ่ไปแสดงตัวเพื่อยืนข้อเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ และนายอภิสิทธิ์จะได้เห็นพลังประชาชนต่อต้านรัฐบาลมีมากแค่ไหน กลุ่มเสื้อแดงประกาศสงครามการต่อสู้ระหว่างชนชั้นเราจะไม่ยอมให้อำมาตย์และชนชั้นสูงได้รับชัยชนะ อำมาตย์จะต้องสูญเสียอำนาจรัฐ รวมถึงอำนาจบารมีของ พล.อ.เปรม ติณสูญลานนท์ ประธานองคมนตรี
แกนนำนปช.กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้เวลา 19.00 น.จะออกอาวุธเล็กๆโดยจะนำภาพถ่ายของนายอภิสิทธิ์ที่ดูดีที่สุดมาขึ้นบนเวที เชิญชวนประชาชนที่ชุมนุมให้ร่วมกันหัวเราะเยาะเพราะนายอภิสิทธิ์ ไม่มีความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ส่วนมาตรการอื่นๆที่จะยกระดับจะประกาศให้ทราบต่อไปซึ่งในช่วงนี้ต้องประชุมแกนนำเพื่อเตรียมรับมือกับการประชุมครม.ก่อน
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าเช้าวันนี้กลุ่มคนเสื้อแดงจะไปตรวจเยี่ยมการจัดกำลังพลของทหารและไปตรวจดูว่ารัฐบาลซุกซ่อนอาวุธไว้หรือไม่ เพราะรัฐบาลประกาศตลอดว่าทหารไม่มีอาวุธ ทั้งนี้หากตรวจเจอรัฐบาลต้องชี้แจงให้ได้ เพราะประชาชนต่อสู้ด้วยมือเปล่าและสันติวิธี ในการไปตรวจนำโดยนายแพทย์เหวง โตจิราการ นางประทีป อึ้งทรงธรรม พร้อมด้วยหน่วยสันติวิธีที่เป็นผู้หญิงทั้งหมด 1000 คนจะไปตรวจจุดแรกที่วัดโสมนัส แยกนางเลิ้ง สะพานเทวกรรม วัดมกุฎกษัติยาราม ส่วนวัดตรีทศเทพ ได้ประกาศจะไปตรวจเมื่อวานนี้เห็นว่ารัฐบาลน่าจะข้นย้ายอาวุธไปหมดแล้ว จึงไม่ไป จะไปในจุดที่ไม่ได้ประกาศไว้ล่วงหน้าจะได้เห็นข้อเท็จจริง
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวว่าการไปตรวจภัยแล้งของนายอภิสิทธิ์ เชื่อว่าเป็นความพยายามในการเรียกร้องความเห็นใจและพยายามสร้างประเด็นเพราะรู้ทั้งรู้ว่าพื้นที่จังหวัดอุดรธานีและหนองคาย เป็นพื้นที่ของกลุ่มเสื้อแดง นอกจากนี้ยังไปกับรัฐมนตรีที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องคือนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ ทั้งที่ความจริงควรไปกับรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯมากกว่าแต่ให้เห็นได้ชัดจงใจไปเพื่อยั่วยุประชาชนเสื้อแดงในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งความจริงแล้วนายอภิสิทธิ์ไม่จำเป็นต้องไปตรวจสถานการณ์ภัยแล้ง แต่ควรหันมาตรวจความแล้งน้ำใจของตัวเองมากกว่า ส่วนการประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ ตนเชื่อว่าสองจุดที่รัฐบาลประกาศไว้ที่จังหวัดนครปฐม และกระทรวงสาธารณสุข เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่ไปประชุมที่นั้นแน่นอน ดังนั้นกลุ่มเสื้อแดงจะรอให้แน่ใจก่อนว่า นายอภิสิทธิ์ ไปประชุมที่ไหนก่อนจึงจะเคลื่อนพลไปที่นั้น ยกเว้นไปประชุมในอากาศกับใต้ดินคงตามไปไม่ได้
นายจตุพร กล่าวถึงการเจรจากับรัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ไปเจรจาและจะเจรจากับนายอภิสิทธิ์คนเดียวเท่านั้น หากนายอภิสิทธิ์ ไม่มาคงไม่มีประโยชน์ ส่วนการเจรจาจะเกิดขึ้นได้รัฐบาลต้องประกาศยกเลิก พรบ.ความั่นคง ก่อน เชื่อว่าในพรุ่งนี้รัฐบาลจะประชุมเพื่อต่ออายุ พรบ.ความมั่นคงออกไปอีก เพราะช่วงนี้มีความพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อรองรับความชอบธรรมในการประกาศ พรบ.ต่อ ขอยืนยันว่าจะประกาศ พรบ.กี่ร้อยครั้งแต่ถ้าไม่มีความชอบธรรมกลุ่มคนเสื้อแดงไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม
นายจตุพร กล่าวว่าเมื่อวาวนี้มีข่าวว่าคนเสื้อแดงพยามยามปิดหน้าปิดตาไปก่อกวนที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ขอยืนยันว่าคนเสื้อแดงจริงไม่มีการปิดหน้าปิดตาเพราะไม่มีอะไรต้องปกปิดที่ผ่านทำอย่างเปิดเผย ดังนั้นอย่าพยายามใช้วิชามารทำให้ประชาชนเกลียดชังคนเสื้อแดง ดังนั้นเรียกร้องว่าหากใครพบคนเสื้อแดงปิดหน้าปิดตาให้แจ้งความจับทันที
นายแพทย์เหวง โตจิราการ กล่าวถึงกรณี ศอ.รส ประกาศว่าจะไม่ให้คนเสื้อแดงค้นอาวุธของทหาร เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลและทหาร ไม่มีความจริงใจกับประชาชน จึงสงสัยได้ว่าอาจจะมีการซุกซ่อนอาวุธไว้ฆ่าประชาชน ในทางกลับกันหากทหารให้ค้นอาวุธจะเป็นประโยชน์กับทหารและรัฐบาลมากกว่า เพราะคนเสื้อแดงไปตรวจแล้วไม่พบเป็นการยืนยันการรันตีว่ารัฐบาลดำเนินการอยู่ในกรอบกฎหมาย อย่างไรก็ตามหากไม่ให้เข้าตรวจค้นจะไม่บุกเข้าไป แต่จะติดป้ายหน้าหน่วยทหารว่ามีการซุกซ่อนอาวุธเพื่อเตรียมฆ่าประชาชนหรือไม่