เมื่อใครๆ ก็อยากเป็นไพร่

ตกลงคุณทักษิณ ชินวัตร เป็น "ไพร่" หรือ "อำมาตย์"?

ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มต้นใช้คำว่า "สงครามไพร่โค่นอำมาตย์" แต่ถ้าฟังคุณทักษิณปราศรัยเมื่อคืนวันศุกร์ผ่านวีดิโอลิงค์มาที่เวทีคนเสื้อแดง ก็พอจะเริ่มรู้ว่าคุณทักษิณ ไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับการใช้คำว่า "ไพร่" นัก เพราะอ้างว่ามีคนกรุงเทพฯ บางคนแสดงความเห็นไปให้เขา

คุณทักษิณ จึงบอกว่าเปลี่ยนไปใช้คำว่า "ราษฎรเต็มขั้น" อาจจะเหมาะสมกว่า

คุณทักษิณ พยายามจะหาคำแปลคำว่า "ไพร่" เป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็ได้เพียงคำว่า "peasant" ซึ่งแปลตรงตัวก็คือ "ชาวนา ชาวไร่หรือชาวชนบท" ซึ่งก็ไม่ใช่ความหมายที่แกนนำคนเสื้อแดงบางคนพยายามอธิบาย

คุณพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรัฐมนตรียุติธรรม และหนึ่งในสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ขึ้นเวทีก่อนหน้าคุณทักษิณ วีดิโอลิงค์เข้ามาเล็กน้อยบอกว่า "ผมก็เป็นไพร่ ไพร่ที่เป็นนายพลก็มี ที่เป็นนักธุรกิจก็มี"

"มวลชน" ฟังแล้วคงจะต้องงงงันยิ่งนัก เพราะตกลงคำว่า "ไพร่" มีกี่ความหมาย และใครมีสิทธิเป็นไพร่ และใครคือ "อำมาตย์" กันแน่?

จะไม่ให้งงได้อย่างไรในเมื่อคุณทักษิณ พูดผ่านวีดิโอลิงค์ อย่างน้อยสองครั้งติดต่อกันว่าให้ "ไพร่" ไปหาซื้อ Black Berry เพื่อดูรายการทีวีเอง ไม่ต้องพึ่งพาฟรีทีวีทั้งหลาย

จึงเกิดศัพท์ใหม่ทางทวิตเตอร์ทันทีว่าพวกเขาคือ "ไพร่ BB"

ซึ่งสร้างความสับสนงุนงงหนักเข้าไปอีก

ตกลงใครกำลังจะโค่นใคร?

นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บอกว่า ถ้านับกันที่ใครมีเงินเท่าไหร่คือไพร่หรืออำมาตย์ คุณทักษิณ ก็จะต้องเป็น "อำมาตย์" มากกว่า "อภิสิทธิ์" หลายเท่า

แปลว่าคุณอภิสิทธิ์ ก็อยากเป็นไพร่เหมือนกันกระนั้นหรือ? และถ้าคุณทักษิณ อยากเป็น "ไพร่" ก็จะต้องเป็น "หัวหน้าไพร่" ที่ต้องการโค่นอำมาตย์

แต่ถ้าหากโดยตำแหน่งในอดีตและทรัพย์สินเงินทองที่คุณทักษิณมีมากมายกว่าคนไทยทั้งประเทศแล้ว คุณทักษิณ น่าจะเข้าข่ายเป็น "อำมาตย์" มากกว่า ต่อไปนี้บนเวทีคนเสื้อแดง เขาจะใช้คำว่า "ไพร่" กับ "อำมาตย์" กันอย่างไรจึงจะรู้ว่าใครกำลังโค่นใคร?

พอคุณทักษิณ ทักเรื่องความควรไม่ควรที่จะใช้คำว่า "ไพร่" คืนนั้น คุณวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดงก็อธิบายว่าคำนี้น่าจะใช้ได้เพราะในศิลาจารึกก็ยังมีประโยคว่า "...ไพร่ฟ้าหน้าใส..."

ความจริงต้องถือว่าเป็นการถกแถลงที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง หากการแลกเปลี่ยนความหมายของ "ไพร่" กับ "อำมาตย์" จะเกิดขึ้นในหมู่คนไทยทุกหมู่เหล่าอย่างมีสติและตรงไปตรงมาโดยปราศจากการข่มขู่คุกคาม

เพราะถ้าหากใครต่อใครก็เป็น "ไพร่" ได้ในความหมายของคนบางกลุ่มวันนี้ คำนิยามของ "อำมาตย์" ก็ย่อมจะโดนแปรเปลี่ยนไปตามกาลสมัยได้ด้วยเช่นกัน

ดังนั้น เมื่อเราติดตามข่าวสารวันนี้ คนไทยไม่น้อยโดยเฉพาะเยาวชนที่กำลังศึกษาเล่าเรียนหนังสืออยู่ จึงไม่อาจจะบอกได้ว่าจริงๆ แล้วประเด็นของความขัดแย้งของสังคมวันนี้คืออะไรกันแน่?

ทั้งหมดนี้เป็นความขัดแย้งของคนคนเดียว หรือเป็นประเด็นการ "แบ่งแยกชนชั้น"? เป็นเรื่องการแก่งแย่งอำนาจทางการเมืองของพวกนักเลือกตั้งกับระบบอุปถัมภ์ หรือเป็นการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม และเพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง?

เมื่อใครๆ ก็อยากจะเรียกตัวเองว่า "ไพร่" สิ่งที่จะตามมาก็โต้เถียงกันอีกว่าใครคือ "ไพร่จริง" หรือคือ "ไพร่เทียม" ?