มาร์คเผยกังวลประเด็นไพร่-อำมาตย์

มาร์คเผยกังวลประเด็นไพร่-อำมาตย์แขวะแม้วรวยเหลื่อมล้ำม็อบ

 เมื่อ 20 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระดมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทั้งสื่อไทยและสื่อเทศ ถึงท่าทีของรัฐบาลต่อการชุมนุมประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเวลา 09.00 น.นายอภิสิทธิ์บันทึกเทปให้สัมภาษณ์ในรายการ “เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์”  ช่อง 3 จากนั้นมีคิวให้สัมภาษณ์กับสื่อโทรทัศน์ไทยอีก 2 ช่อง ได้แก่ ทีเอ็นเอ็น และทีวีไทย ส่วนในวันที่ 21 มี.ค.นายกรัฐมนตรีจะให้สัมภาษณ์กับทางบลูมเบิร์ก สหรัฐอเมริกาและ ซีซีทีวีของจีน ด้วย

 ในส่วนของบีบีซี อังกฤษ ตีพิมพ์พาดหัวข่าวว่า "ผู้นำอภิสิทธิ์รับ ประเทศไทยแบ่งแยก" (Leader Abhisit says Thailand divided) มีเนื้อหาว่า หลังการชุมนุมผ่านพ้นมากว่าหนึ่งสัปดาห์ และยังคงดำเนินต่อไป นายอภิสิทธิ์กล่าวยอมรับว่า ประเทศไทยแบ่งแยก ไม่เพียงเฉพาะแบ่งระหว่างชุมชนเมืองและต่างจังหวัด แต่เป็นความแตกต่างทางการเมืองในประชาธิปไตย ซึ่งตนได้พยายามทำทุกอย่าง แม้แต่เสนอที่จะคุยกับแกนนำคนเสื้อแดง

 นายอภิสิทธิ์ยังปฏิเสธด้วยว่า ตนเองไม่ได้เป็นหุ่นเชิดของทหาร ตามที่ฝ่ายค้านกล่าวหา แต่บีบีซีระบุว่า อภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ครั้งนี้จากเขตทหาร (ราบ 11) ซึ่งใช้ทำงานและพำนักตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 ส่วนการให้สัมภาษณ์รายการ “เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์” ทางช่อง 3 นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในช่วง 7-8 วันที่ผ่านมา ตนถือว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำและสื่อสารให้เห็นคือเราต้องการที่จะให้การใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ทำได้  รัฐบาลไม่มีความประสงค์ที่จะไปทำให้เกิดความตึงเครียด เพราะรัฐบาลไม่ได้เป็นคู่กรณีที่จะไปทะเลาะวิวาทกับใคร

 “ผมยอมรับว่ามีความกังวลมากในเรื่องของอำมาตย์และไพร่ ที่กังวลเพราะเป็นการไปสร้างความขัดแย้งมากยิ่งขึ้นระหว่างประชาชน ไปอ้างเรื่องชนชั้น ซึ่งความจริงมันไม่มี เพราะรัฐธรรมนูญต้องการรับรองสิทธิของทุกคน และมีมาตราต่างๆ ระบุชัดเจนถึงความเสมอภาค แน่นอนความเหลื่อมล้ำบางอย่างมีแน่นอน เช่น ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ดูง่ายๆ ระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ กับกลุ่มผู้ชุมนุม มีความแตกต่างกันอย่างมหาศาล แต่มีประโยชน์อะไรที่จะไปยุยงให้คนเกลียดชังกัน

 ไม่มีใครควรไปอิจฉาคุณทักษิณ ถ้าคุณทักษิณรวยและได้มาโดยชอบ แต่สิ่งที่ต้องเท่าเทียมกันคือเรื่องของความเสมอภาคกันภายใต้กฎหมาย ก็มีคำถามว่ามีกี่คนที่เป็นอย่างคุณทักษิณ ที่ถูกคำพิพากษาตัดสินจำคุกแล้วไม่ต้องติดคุก และยังสามารถไปใช้ชีวิตที่ค่อนข้างสบายในต่างประเทศ ซึ่งถ้าจะไม่ให้มีเรื่องชนชั้นทุกคนต้องเสมอภาคกันภายใต้กฎหมาย ส่วนความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจต้องแก้ด้วยการสร้างโอกาส” นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่าการหยิบยกเรื่องชนชั้นมานั้นก็เพื่อต้องการตรึงคนให้เข้ามาชุมนุมไปในเรื่องอื่นซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายการชุมนุมหรืออาจเป็นเป้าหมายแฝง ทุกอย่างไม่ตรงไปตรงมา

 นายอภิสิทธิ์  กล่าวว่า อยากถามว่าถ้ายุบสภาในวันพรุ่งนี้ความเหลื่อมล้ำหมดไปหรือไม่ และไม่ใช่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาแล้วจะแก้ปัญหาทุกอย่างได้ อย่างเมื่อคืนวันที่ 19 มี.ค.ก็บอกว่ายอมทนรถติดถ้ากลับมาแล้วจะแก้ให้ได้ ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณเคยประกาศว่า 6 เดือนจะแก้ปัญหาจราจรก็ทำไม่ได้ รอบสองกลับมาสัญญาเรื่องรถไฟฟ้าก็ไม่ได้ก่อสร้างแม้แต่เมตรเดียว การที่ไปเอาปัญหาที่เป็นเรื่องของโครงสร้างความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ซึ่งทุกคนพยายามแก้ไขมายุยงให้คนขัดแย้งกันถือว่าผิด