บทบรรณาธิการ : ยืดเยื้อ...แดงดับ

ยืดเยื้อ...แดงดับ

      หากไม่ยอมถอยกันคนละก้าว ยังตะบี้ตะบันกินอุดมการณ์กันอยู่เช่นนี้ ความเปลี่ยนแปลงคงไม่เกิดแม้ภาพมวลชนคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมกันครั้งใหญ่เพื่อเรียกร้องกดดันให้รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยุบสภา เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่โดยเร็ว ทั้งนี้เพราะอายุของรัฐบาลอีกกว่าขวบปีมันนานเกินไปที่มวลชนคนเสื้อแดงจะรอไหว ดังนั้นการแสดงพลังเพื่อกดดันสารพัดวิธีจึงเกิดขึ้น แต่ปรากฏว่ารัฐบาลกลับไม่ไหวติง เพราะโดนไล่จนชินชาแล้วก็คงไม่ผิด

      จึงเป็นเหตุให้มวลชนคนเสื้อแดงเริ่มอ่อนล้า แม้จะมากันด้วยใจเต็มร้อย แต่เมื่อต้องมาเจอกับสภาพอากาศที่ดูเหมือนจะเป็นใจให้กับฝ่ายรัฐบาล รวมไปถึงยุทธวิธีการกดดันของบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงที่นำมาใช้คงไม่ระคายเคืองแม้แต่ความรู้สึกของบรรดารัฐมนตรีในคณะรัฐบาล จึงทำให้ตลอดสัปดาห์ดูเหมือนว่ามวลชนคนเสื้อแดงจะเหนื่อยฟรี มิหนำซ้ำยุทธวิธีที่งัดออกมาใช้ดูเป็นเรื่องปกติธรรมดาๆ เพราะที่ไหนๆ เขาก็ทำกันมาแล้ว

      ยิ่งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีมาในมาดใหม่ เพราะได้มีการตระเตรียมวางกำลังการป้องกันปราบปรามไว้พร้อมสรรพ มิหนำซ้ำยังตั้งกองบัญชาการในค่ายทหาร มีขุนทหารน้อยใหญ่อยู่ข้างกายพร้อมหน้า ดังนั้นการเดินเกมยื้อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง โดยนำกฎหมายทุกมาตรามาเป็นกฎเป็นเกณฑ์จึงถูกนำมากล่าวอ้างทุกๆ ครั้งที่เกิดมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น แม้แต่ทหารถูกถล่มด้วยเอ็ม 79 จนได้รับบาดเจ็บถึงในค่ายทหาร

      แต่คงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องสอบสวนสืบสวนตามจับตัวคนร้ายมาให้ได้ รัฐบาลคงไม่ใช้อำนาจนอกเหนือไปกว่านั้น เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และเพื่อรักษาภาพว่าเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง จึงเปิดโอกาสให้มวลชนคนเสื้อแดงแสดงสิทธิของตนตามรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ แต่หากเกินเลยกว่าที่กฎหมายกำหนดคงเป็นอีกเรื่อง เพราะถือว่าเป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะดำเนินการได้อย่างเต็มที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

      ดังนั้นจึงเป็นความชัดเจนว่า หากมวลชนคนเสื้อแดงยังใช้ยุทธวิธีเดิมๆ มากดดันรัฐบาล โอกาสที่รัฐบาลจะลงจากอำนาจคงเป็นเรื่องยากมาก เพราะมาวันนี้เรื่องการพูดจาประนีประนอมคงเป็นไปไม่ได้แล้ว ทั้งนี้เพราะยิ่งเนิ่นนานวันสถานการณ์ความได้เปรียบกลับไปตกอยู่กับฝ่ายรัฐบาลเพราะมีฐานกำลังมั่นคง ผิดกับกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงที่ยิ่งเนิ่นนานวันดูยิ่งอ่อนล้า เพราะม็อบบนถนนขาดปัจจัยเสริมหลายด้าน โดยเฉพาะคนอยู่แดนไกลก็ชักจะหมดมุกปลุกกระแสเหมือนกัน