เมื่อวันที่ 18 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ที่กรมทหาราบที่ 11 ภายหลังการประชุมได้แถลงข่าวร่วมกัน
โดยนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานกสม. แถลงข่าวว่า วันนี้ได้นำข้อความที่แกนนำนปช.ฝากมาเจรจากับรัฐบาล
ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ในนามของกรรมการสิทธิมนุษยชนขอชื่นชมรัฐบาลที่อดทนดูแลสถานการณ์บ้านเมือง เคารพเสรีภาพการชุมนุมแม้จะเป็นการชุมนุมของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล รัฐบาลพยายามดูแลความปลอดภัยมาโดยตลอดและประสานผู้ชุมนุมเป็นระยะ ทางผู้ชุมนุมยังมีความกังวลและฝากมายังรัฐบาลว่าอยากจะมีพื้นที่ที่จะคุยกันด้วยจึงถือโอกาสมาเสนอรัฐบาล
นางอมรา กล่าวว่า ทางรัฐบาลชี้แจงว่าได้ใช้ความอดทนดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ยังมีความกังวลว่ามีกลุ่มหลายกลุ่ม มีวิธีการนำหลายรูปแบบ
ทำให้การดูแลยากลำบากในเรื่องความปลอดภัยและความสงบ เราจึงได้นำข้อเสนอเชิงข้อตกลงระหว่างรัฐบาลและผู้ชุมนุมว่าจะชุมนมุโดยสงบและรัฐดูแลความเรียบร้อย และขอสงวนสิทธิ์การปิดล้อมสถานที่ทั้งที่ประทับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเชื้อพระวงศ์ สถานที่ราชการ โรงพยาบาล สนามบิน สถานทูต ยูเอ็น ซึ่งรัฐบาลขอเพิ่มว่าน่าจะตกลงว่าจะต้องไม่มีการปิดล้อมบ้านพัก ที่พักนายกฯ ของพรรคประชาธิปัตย์หรือใครก็ตาม การปิดล้อมบ้านพักก็ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ และรัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ประกาศใช้พระราชกำหนดฉุกเฉินจะใช้ต่อเมื่อจำเป็นจริงๆ โดยไม่ให้กระทบหลักสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน จะปฏิบัติตามหลักสากลและคำวินิจฉัยของศาลปกครอง ซึ่งป็นข้อสัญญาที่รัฐให้ไว้ รัฐพร้อมเปิดให้มีการเจรจาหากนำไปสู่ข้อยุติทางการเมืองและความสงบโดยทุกฝ่ายต้องเคารพกติกา และที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่าการพูดหรือยั่วยุ การข่มขู่คุกคามส่งเสริมให้ผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรงก็ถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานด้วย สุดท้ายเราจะทำหน้าที่เป็นผู้เชื่อมทุกฝ่าย หวังว่ากระบวนการเหล่านี้จะสู่สันติภาพโดยเร็ว