ไม่น่าแปลกใจครับที่ ในที่สุด ก็มีผู้พบเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปนั่งจิบกาแฟแกล้มเค้ก อยู่ที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในเมือง บุดวา แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ มอนเตเนโกร มอนเตเนโกร เป็นประเทศเล็กๆ ที่เพิ่งแยกตัวเป็นอิสระจากเซอร์เบีย อดีตรัฐในยูโกสลาเวีย เมืองบุดวา เป็นเมืองเก่าแก่ อายุมากถึง 2,500 ปี ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเอเดรียติก ด้านตะวันตกของมอนเตเนโกร เมืองนี้เล็กขนาดไหนดูเอาจากจำนวนประชากรของเมืองได้ ทั้งหมดมีเพียง 15,000 คนเท่านั้นเอง
ส่วนที่เจริญที่สุดของเมือง เรียกว่า "บุดวันสก้า รีวิเยร่า" คือหัวใจของการท่องเที่ยวของมอนเตเนโกร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสำคัญในแง่ของความสวยงามของหาดทราย ชีวิตราตรีที่หลากหลาย รวมถึงสถาปัตยกรรมดั้งเดิมที่เป็นตัวอย่างที่ดีของรูปแบบสถาปัตยกรรมเมดิเตอเรเนียน
แต่ทั้งหมดนั่นไม่น่าจะเป็นเรื่อง "ดึงดูด" สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในยามที่ต้อง "บัญชาการ" การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงตามท้องถนนในกรุงเทพฯแน่
แล้วทำไม อดีตนายกรัฐมนตรีถึงจำเป็นต้องไปปรากฏตัวอยู่ที่นั่น?
คำตอบประการหนึ่งนั้นเกิดจากความเคลื่อนไหวล่าสุดของ ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ในที่สุดก็ตัดสินเชื้อเชิญอดีตผู้นำออกจากที่พำนักซึ่งปักหลักมานานในดูไบ เพราะไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับยูเออีต้องเสียหายมากไปกว่านี้
อังกฤษ ประกาศถอนวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณไปแล้วอย่างเป็นทางการ เป็นที่รับรู้กันทั่วไป เมื่อวันที่ 15 มีนาคม สถานีโทรทัศน์ ฟีนิกซ์ ในฮ่องกง รายงานเอาไว้ว่า เยอรมนี มีคำสั่งห้ามพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศไปตั้งแต่ปีที่แล้ว นอกจากนั้น ยังระบุเอาไว้ด้วยว่า ทางการเยอรมนีกำลังสอบสวนเงียบๆ อยู่ว่า มีการใช้ "พาสปอร์ตปลอม" เดินทางเข้าประเทศหรือไม่? อย่างไร?
ทักษิณกับมอนเตเนโกร
ในยุโรป ดูเหมือนจะมีประเทศเดียวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีสิทธิเดินทางเข้าออกได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ลำบากใจดังกล่าว นั่นคือ มอนเตเนโกร
ที่ พ.ต.ท.ทักษิณเข้า-ออกที่นั่นได้แบบสบายๆ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีพาสปอร์ตของ มอนเตเนโกร คนที่ออกมายืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ไม่ใช่ใคร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทีชื่อ "นพดล ปัทมะ" นั่นแหละ
และเพราะเหตุที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพาสปอร์ตมอนเตเนโกร นี่แหละ ที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับ "บุดวา" โดยตรง เพราะห่างจากชายหาดเลื่องชื่อของบุดวา ออกไปแค่ 840 เมตร มีเกาะเล็กๆ อยู่เกาะหนึ่ง มีชื่อเรียกขานอย่างเป็นทางการว่า "สเวติ นิโคลา" แต่เด็กๆ แถวๆ นั้นชอบเรียกมันว่า "ฮาวายแห่งเอเดรียติค"
เกาะเล็กๆ แห่งนั้นยาวแค่ 2 กิโลเมตร เนื้อที่ทั้งหมดมีแค่ 37,000 ตารางเมตร รูปร่างเหมือนแท่งหินจมน้ำไปครึ่งหนึ่ง ส่วนที่สูงที่สุดของเกาะคือ หน้าผาที่เห็นซึ่งสูงจากพื้นทะเลราว 121 เมตร
เกาะแห่งนี้เล็กก็จริง แต่หาดสวยมากครับ หาดดีๆ วิวดีๆ และกว้างใหญ่พอที่จะไปปักหลักทำแหล่งท่องเที่ยว เปิดกาสิโนได้มีอยู่ 3 แห่ง
เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วนี่เอง ธนาคาร เฟิร์สท์ แบงก์ แห่ง มอนเตเนโกร ประกาศประมูล 1 ใน 3 หาดบนเกาะแห่งนี้ เป็นหาดที่ใหญ่ที่สุดและสวยที่สุดในบรรดาหาดของเกาะสเวติ นิโคลา
ปรากฏชื่อ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" เข้าไปเป็นหนึ่งในผู้ร่วมประมูลอยู่กะเขาด้วย
การประมูลที่ว่านี้เริ่มต้นที่ 28 ล้านยูโร เทียบอัตราแลกเปลี่ยนตอนนี้ก็ 1,260 ล้านบาท แต่ตอนที่เป็นข่าวอดีตรัฐมนตรีนพดลบอกว่า ราคา 992 ล้านบาทเท่านั้นเอง!
ทำไมต้องไปประมูลหาดของเกาะเล็กๆ ขนาดนั้น? คำตอบก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ จำเป็นครับ
ก่อนหน้านั้น พอมีรายงานข่าวขึ้นมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พาสปอร์ตของประเทศผู้นำ เอ็นจีโอ มอนเตเนโกรที่ชื่อ วันยา คาโลวิช ยื่นประท้วงต่อ องค์กรเพื่อความโปร่งใสระหว่างประเทศ (ทีไอโอ) ทันที เรียกร้องให้รัฐมนตรีมหาดไทยมอนเตเนโกร อธิบายความว่า เพราะเหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณถึงมีคุณสมบัติเหมาะสมได้รับพาสปอร์ตประเทศนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ถือสัญชาติเป็นพลเรือนมอนเตเนโกรสักหน่อย
นั่นเป็นที่มาของความพยายาม "ทำที" ว่า "จะซื้อ" เกาะเล็กๆ แห่งนี้
แต่ก็อธิบายได้เป็นอย่างดีว่า ทำไม อดีตนายกรัฐมนตรีไทยถึงได้ไปปรากฏตัวที่นั่น ในยามที่หลายๆ ประเทศ "ปฏิเสธ" พ.ต.ท.ทักษิณ กันหมดแล้ว
มอนเตเนโกร วันนี้ อาจเป็นเหมือนป้อมค่ายลำดับท้ายๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ถ้าไม่นับ นิการากัว และอีกบางประเทศในแอฟริกา
ที่ดูช่างห่างไกลราชดำเนินเสียเหลือเกิน!!