พราหมณ์นปช.เปิดใจทำเพื่อชาติ

พราหมณ์ศักดิ์ระพี เปิดใจ ทำไสยศาสตร์ เพื่อประเทศชาติ แนะ ทางแก้วิกฤติ ทักษิณ -​ อภิสิทธิ์ - สุเทพ - สนธิ - แกนนำนปช. ต้องบวช 7 วัน ล้างบาป...

พราหมณ์ศักดิ์ระพี พรหมชาติ หรือ นายศักดิ์ระพี พรหมชาติ พราหมณ์ประจำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)

ยอมรับว่าปฏิบัติการเท และ สาดเลือด ที่ทำเนียบรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ และ ที่บ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นเป็นแนวคิดของตน เนื่องจาก หากไม่ทำเช่นนี้จะมีการเสียเลือดเนื้อครั้งใหญ่ ซึ่งก็ยอมรับว่าเป็นอวิชชา ไสยศาสตร์ ไม่เป็นผลดีกับทั้งฝ่ายของผู้กระทำ และ ผู้ถูกกระทำ โดยตนได้รับผลกระทบทันทีโดนต่อว่าเสียหายถึงต้นตระกูลที่สั่งสมความดีมานาน แต่นายอภิสิทธิ์ เองได้รับผลกระทบที่เห็นได้ชัดแล้ว 1.โดนพายุลูกเห็บลงจากเฮลิปคอปเตอร์ไม่ได้ 2.เข้าบ้านไม่ได้ 3.โดนนานาชาติมองถึงความไม่เป็นธรรมของรัฐบาลนี้ 4. ตราบาปจะติดตัวนายอภิสิทธิ์ และ อาจจะมีความเป็นไปอะไรอีกมากมาย ในอนาคต

“ทำเพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปได้ หายนะผมก็ยอม ผมก็โดนของ ตอนที่เอาเท้าไปเหยียบเลือดทาที่เสาทำเนียบรัฐบาลมีของมาทำให้ รู้สึกเจ็บเข้ากระดูก วันนี้มีนักการเมือง ทั้งท้องถิ่นและระดับชาติ โทรศัพท์ไปด่าครอบครัวผม ผมเองไม่ใช่พราหมณ์เสื้อแดง ใส่เสื้อขาว แต่ต้องการทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อความถูกต้อง”พราหมณ์ศักดิ์ระพี กล่าว

พราหมณ์ศักดิ์ระพี กล่าวด้วยว่า การต่อสู้ระหว่างไพร่ กับ อำมาตยาธิปไตย นั้น ต้องสังเวยแม่ธรณีด้วยเลือด ไม่เช่นนั้น จะล้มตายกันจำนวนมาก

แต่เราไม่ต้องการความรุนแรงเช่นนั้น ใช้ความสมัครใจแทน ซึ่งในช่วงระยะเวลา 100  ปีที่ผ่านมายังไม่มีเหตุการณ์ลักษณะอย่างนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ลึกล้ำ และ เป็นวิธีการที่สุดยอดของวิชาไสยเวทย์แล้ว ไม่มีวิธีการที่เหนือกว่านี้แล้ว และ ไม่มีใครที่จะแก้ได้ แม้แต่จะเอาน้ำมนต์ 7 วัด ตนเองยังแก้ไม่ได้ ความจริงการสังเวยเลือดนั้นในทางพราหมณ์ก็ทำกันอยู่แต่ไม่ปรากฏตามสื่อแค่ นั้น เช่น การสร้างคุกที่คุมขัง ศาลหลักเมือง ที่ต้องสังเวยด้วยเลือดคน การสังเวยพระแม่ธรณีด้วยการประหารคนในที่แจ้ง ให้เลือดหลั่งลงดิน

“ส่วนการตั้งเวทีที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศผมเองก็เสนอ เพราะภูมิทัศน์ดีที่สุดเบื้องหลังเป็นน้ำ ถนนตัดผ่าน ลมดี ข้างหลังเป็นป้อมปราการ พลับพลา เชื่อว่าจะชนะ 100% ส่วนกรณีที่ฝนตก ผมก็บวงสรวงขอไว้ เพราะเชื่อว่าหากมีแดด 100% เสื้อแดงจะแพ้แน่และหากมีแดดร้อนอย่างนี้สักประมาณ 4-5 วันจะทำการขอใหม่” พราหมณ์ศักดิ์ระพี กล่าว

พราหมณ์ศักดิ์ระพี กล่าวถึงกรณีพระครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์แห่งเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ ผู้นำคณะพราหมณ์ประจำสำนักพระราชวัง

ระบุว่าไม่รู้จักตนและระบุด้วยว่าพ่อของตนเคยกระทำความผิดจนถูกไล่ออกจากราชสำนัก ว่า ตนกับพระครูวามเทพมุนี โตมาด้วยกันที่โบสถ์พราหมณ์กรุงเทพมหานคร ชื่อเดิม คือนายชวิน รังสีพราหมณกุล ชื่อเล่น อู้ด  การเป็นพราหมณ์นั้นสืบทอดมาจากครอบครัว ซึ่งบิดาของตน คือพราหมณ์แจ้ง พรหมชาติ อดีตพราหมณ์ประจำสำนักราชวัง ส่วนที่มาอ้างว่าตนไม่ใช่พราหมณ์นั้นก็ไม่ใช่ เพราะการบวชพรามหณ์นั้นไม่จำเป็นต้องบวชที่ กรุงเทพมหานคร อย่างเดียว ที่นครศรีธรรมราชมีโบสถ์พราหมณ์ มีหอพระนารายณ์ หอพระอิศวร เป็นต้นตอของพราหมณ์ตั้งแต่สมัยยังมีชื่อ ตามพรลิง ส่วนพราหมณ์ที่อยู่ในโบสถ์ กทม.นั้นเป็นพราหมณ์ที่รับราชการเท่านั้น แต่ตนไม่ใช่ ส่วนบิดาของตนนั้นอายุ 100 ปี เป็นโรคปวดเข่า จึงอยากกลับไปอยู่บ้านเกิด

พราหมณ์ศักดิ์ระพี กล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดวงไม่ดี เพราะบุญเก่าไม่มี ทำแต่งาน ไม่ทำบุญ

ดังนั้น จึงได้รับเคราะห์กรรมไปเรื่อยๆ ทางแก้นั้นก็ยาก เพราะคนที่ทำให้ท่านนั้น มีทั้งพราหมณ์ หมอดู โหรศาสตร์นับพันคน ยุ่งเหยิงไปหมด ถามว่า มีโอกาสกลับมั้ย มีโอกาสกลับในไม่ช้านี้ ทั้งนี้ ดวงเมืองปีนี้แรงสุดในรอบ 100 ปีตกต่ำที่สุด ฉะนั้นทางแก้มีอยู่ทางเดียว คือให้ทุกคนโดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์  นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธ์ุ์นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.  มาเข้าวัดบวชประมาณ 7 วันเพื่อล้างบาปและพูดคุยกันเพื่อทำให้ประเทศชาติสงบกลับมาเหมือนเดิม