สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานบทสัมภาษณ์ผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงบางส่วน ซึ่งบริจาคเลือดเพื่อนำไปเทหน้าประตูทำเนียบรัฐบาล เป็นการกดดันให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา
โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ได้สัมภาษณ์นายมนัส เต็งมณี (Manat Tengmanee) ผู้ชุมนุมจากจังหวัดลำปาง ซึ่งกล่าวว่าตนเองต้องการยกระดับการต่อสู้ให้มีความหนักแน่นมากยิ่งขึ้น
"ผมคิดว่าหากปราศจากการเสียสละหยาดเลือดอย่างแท้จริง อะไร ๆ ก็คงไม่เปลี่ยนแปลง เพราะไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อประชาชนครั้งใดในประเทศไทย ที่จะเกิดขึ้นโดยไร้การนองเลือด" นายมนัสกล่าวกับรอยเตอร์
อย่างไรก็ตาม ชาวลำปางผู้นี้ยืนยันว่า เขายังจะปฏิบัติตามคำร้องขอจากแกนนำนปช. ที่ขอให้คนเสื้อแดงชุมนุมกันโดยสันติวิธี
ขณะที่นายชาญชัย เที่ยงสมบูรณ์ (Chanchai Thiangsomboon) ผู้ชุมนุมประท้วงจากจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า ตนเองยังไม่แน่ใจนักว่าหลังจากนำเลือดของผู้ชุมนุมไปราดเทบริเวณสถานที่ต่าง ๆ แล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคืออะไร
"ผมศรัทธาในกลุ่มเสื้อแดง แต่ผมไม่แน่ใจว่าเราจะได้รับอะไรกลับมา หากปราศจากการสั่นสะเทือนหลายสิ่งหลายอย่างในสังคม" ผู้ร่วมชุมนุมจากกาฬสินธุ์กล่าว
ทางด้านเว็บไซต์ไทม์ส ออนไลน์ ได้สัมภาษณ์พนักงานบัญชีจากกทม. ชื่ออำนวยพร สุขารมณ์ (Amnuay Porn Sukarom) ซึ่งกล่าวว่าเธอรู้สึกเหมือนได้รับสิทธิพิเศษบางอย่างจากการได้ร่วมบริจาคเลือดครั้งนี้
"เราต้องสละเลือดของตนเองเพื่อประชาธิปไตย มันคือสิ่งที่เราสามารถทำได้" พนักงานบัญชีผู้นี้กล่าว
ส่วนสำนักข่าวบีบีซีได้อ้างอิงบทสัมภาษณ์ของเอเอฟพีที่มีกับนายสมศักดิ์ จันทร์ประเสริฐ (Somsak Janprasert) อดีตพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย จากกรุงเทพฯ ว่า ตนเองบริจาคเลือดครั้งนี้เพื่อระบอบประชาธิปไตย
"นี่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจแห่งเลือดของเรา เลือดของประชาชน" นายสมศักดิ์กล่าว