´สุรยุทธ์´ แฉทักษิณโทรขอกลับไทย

ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องพักอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังถูกยึดอำนาจการปกครอง โดยทีมโฆษกพรรคไทยรักไทยยืนยันมาตลอดว่า พ.ต.ท. ทักษิณยังไม่มีกำหนดการที่จะเดินทางกลับประเทศไทย ขณะที่รัฐบาลชุดใหม่ก็เดินหน้าเร่งสร้างความสมานฉันท์ภายในบ้านเมือง

ล่าสุด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยว่า

พ.ต.ท.ทักษิณได้โทรศัพท์มาหาเพื่อเจรจาขอเดินทางกลับประเทศไทย แต่ พล.อ.สุรยุทธ์ขอให้ชะลอเรื่องนี้ไว้ก่อน รอจนกว่าความขัดแย้งทางความคิดในทางการเมืองของสังคมไทยจะคลี่คลายลง

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 14 ต.ค. ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง นายนิตย์ พิบูลสงคราม รมว.ต่างประเทศ และ พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ออกเดินทางไปเยือน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการ

โดยบรรยากาศที่ บน.6 มีการวางหน่วยรักษาความปลอดภัยประจำจุดต่างๆอย่างแน่นหนา แม้แต่กลุ่มผู้สื่อข่าวที่ไปดักรอสัมภาษณ์ก็ถูกตรวจสอบอย่างละเอียดยิบ

ต่อมาเวลา 16.55 น. พล.อ.สุรยุทธ์เดินทางกลับ มาถึง บน.6 พร้อมเปิดแถลงข่าวว่า

การเดินทางครั้งนี้ ได้รับการตอบสนองอย่างดียิ่งจากนายบัวสอน บุบผาวัน นายกรัฐมนตรีลาว และ พล.ท.จูมมาลี ไซยะสอน ประธานประเทศลาว ให้การต้อนรับด้วยความอบอุ่นด้วยสัมพันธ-ไมตรีที่ดียิ่ง เรื่องที่หารือกันในหลักการส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความต่อเนื่องของโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการต่างประเทศ ที่ลาวกับไทยดำเนินการร่วมกันเอาไว้

รวมทั้งความร่วมมือในกรอบอาเซียน โดยได้ยืนยันกับรัฐบาลลาวว่า

ไทยจะยังทำอย่างต่อเนื่องเต็มที่เต็มกำลังความสามารถตามห้วงเวลาที่มีอยู่ และยังหารือเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การเฝ้าระวังขจัดปัญหาไข้หวัดนก รวมทั้งผู้หลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดนที่มีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านอยู่เสมอ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจะทำให้เกิดความร่วมมือและความเข้าใจมากที่สุด

พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่นำไปชี้แจงคือปัญหาในประเทศไทยที่เผชิญหน้าอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางการเมือง เรื่องภาคใต้ และเรื่องน้ำท่วม โดยได้ชี้แจงว่า วิธีการแก้ปัญหาทางการเมืองคงจะแตกต่างจากในอดีตที่ผ่านมา เพราะว่าในอดีตบางครั้งก็มีผู้ลี้ภัยทางการเมืองเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดปัญหาขึ้น

แต่ครั้งนี้จะไม่มีผู้ลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่อยากจะเรียนให้พี่น้องประชาชนรับทราบว่า รัฐบาลพยายามที่จะให้มิตรประเทศได้รับทราบว่า

วิธีการแก้ปัญหาทางการเมืองจะเป็นการแก้ปัญหาโดยการพูดจาทำความเข้าใจมากกว่าที่จะใช้กำลัง

ผู้0สื่อข่าวถามว่า ที่ระบุว่าการแก้ปัญหาทางการเมืองโดยจะไม่มีผู้ลี้ภัยทางการเมืองไปในประเทศเพื่อนบ้าน หมายความว่าอย่างไร

พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องในอดีต แต่ในปัจจุบันไม่มีผู้ลี้ภัยเข้าไปในลาว ให้ลองไปถามผู้ที่มีประสบการณ์หลายคนดู เพราะตนไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับประเทศไทยเมื่อไหร่ก็ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ได้พูดเรื่องนี้ในวันที่แถลงให้ทูตานุทูตฟังแล้วว่า เป็นสิทธิของคุณทักษิณที่จะกลับมา แต่โอกาสที่คุณทักษิณจะกลับมานั้นก็ควรจะหารือกัน

ผมเองก็เรียนได้ตรงๆว่า คุณทักษิณได้โทรศัพท์มาคุยด้วย

ฉะนั้น ในเรื่องการเจรจาอย่างที่ผมได้บอกไปแล้วว่าเป็นเรื่องที่เปิด เป็นเรื่องที่สามารถหารือกันได้ว่าความเหมาะสมควรอยู่ที่ไหน

ต่อข้อถามว่า แสดงว่าจะดูความเคลื่อนไหวภายในประเทศก่อนให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาใช่หรือไม่

พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า คงดูหลายๆประเด็น ไม่ได้จำกัดแค่ความเคลื่อนไหวภายในประเทศเท่านั้น วิธีการแก้ปัญหาคงต้องคอยดูกันต่อไปว่า จะทำอย่างไรที่จะแก้ปัญหาที่เกิดความแตกแยกทางความคิดทางการเมืองเหล่านี้ได้

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณโทรศัพท์มาหารือเรื่อง การเดินทางกลับเข้าประเทศใช่หรือไม่

พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ก็หารือกัน ผมได้เรียนท่านไปว่า ท่านมีสิทธิที่จะกลับมา เราไม่ได้หวงห้าม เพราะท่านเป็นคนไทย อันนี้เป็นสิทธิโดยกำเนิด แต่ห้วงเวลาที่จะกลับมานั้นก็ขอหารือกันก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้ต้องหารือกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ก่อนใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า จะต้องหารือกันหลายฝ่าย

ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว พล.อ.สุรยุทธ์ ได้เดินทางไปที่บ้านพิษณุโลก เพื่อไปพบปะกับแขกเป็นการส่วนตัว

เมื่อไปถึงได้มีรถเก๋งนิสสัน เทียน่า สีดำ หมายเลขทะเบียน สน 6770 กรุงเทพมหานคร และรถโฟร์วีลเล็กซัส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนทูตต่างประเทศ ท 53-1003 ตามเข้าไปในภายหลัง กระทั่งเวลา 18.10 น. พล.อ.สุรยุทธ์จึงเดินทางออกจากบ้านพิษณุโลกกลับไปที่บ้านพักภายในสนามกอล์ฟเดอะรอยัลกอล์ฟคลับ จ.สมุทรปราการ

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีของไทย เดินทางไปเยือนลาวเป็นครั้งแรกตั้งแต่ได้รับตำแหน่ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ชาติเพื่อนบ้านว่าจะไม่เกิดเรื่องไม่คาดหมายขึ้นในประเทศไทยอีก หลังการยึดอำนาจจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ด้านนายยง จันทะลังสี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของลาว เผยว่า เป็นเรื่องดีที่ พล.อ.สุรยุทธ์เลือกเดินทางมาเยือนลาวเป็นชาติแรก

ในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เจ้าหน้าที่ลาวรู้ว่าติดต่ออยู่กับใคร

และได้สถาปนาความสัมพันธ์ที่แน่ชัด และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย รัฐบาลลาวก็ต้องการรู้ว่าจะร่วมงานกันด้วยดีต่อไป ทั้งนี้ เราระมัดระวังมากในกรณีการก่อรัฐประหารในไทย และผลกระทบต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลใดๆของไทยที่เป็นตัวแทนประชาชน และได้รับอำนาจการปกครองจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือว่าเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรม

คาดว่าการเยือนครั้งนี้จะทำให้ผู้นำของทั้ง 2 ฝ่ายรู้จักกัน

และช่วยยืนยันความต่อเนื่องของความสัมพันธ์ทวิภาคี การเจรจาจะครอบคลุมทั้งด้านการค้า กรณีพิพาทด้านพรมแดนอันยืดเยื้อ ไปจนถึงการแก้ปัญหาผู้ลี้ภัยชาวม้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ฝ่ายมานานหลายสิบปี