อภิสิทธิ์ชี้3ประเด็นน่าห่วงทักษิณบิดเบือนให้รุนแรง

คมชัดลึก :“นายกฯ”พบเหตุน่าเป็นห่วง 3 ข้อ “ทักษิณ-พวก”บิดเบือนข้อมูล ส่งสัญญาณให้ใช้ความรุนแรงกดดันรัฐบาลให้“ยุบสภา”ต้องการ“น็อคสั้น”เพื่อยุติเกมเร็วไม่เจรจาหาทางสันติวิธี แฉ 3 สาเหตุจบเกมเร็ว หากยืดเยื้อ“ผู้ชุมนุมจะหนี”-“ท่อน้ำเลี้ยงนายใหญ่สะดุด”-“แกนนำขัดแย้งกันเอง ชิงความเป็นใหญ่

  
2.มีการส่งสัญญาณเพื่อให้เกิดการใช้ความรุนแรงอย่างผิดสังเกต โดยเฉพาะจากกลุ่มหัวรุนแรง เช่นกลุ่มชักธงรบ จาก จ.อุบลราชธานี กลุ่มนักรบทุ่งสัมฤทธิ์ จากจ.โคราช กลุ่มนักรบดำโรนิน และกลุ่มนักรบพระเจ้าตากซึ่งเคยสังกัดกับพล.ต.ขัตติยะ  สวัสดิผล (เสธ.แดง) ต่างประกาศตัวจะออกมาเคลื่อนไหวโดยอิสระไม่ขอขึ้นอยู่กับแกนนำผู้ชุมนุม ซึ่งมองได้ว่าการเคลื่อนไหวของคนเหล่านี้อยู่เหนือการควบคุม ของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงและยังมีรายงานข่าวจากฝ่ายข่าวความมั่นคงฯว่าจะมีการสร้างความรุนแรงจากมือที่สามหรือจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่ได้รับมอบหมาย ให้ทำงานเพื่อสร้างสถานการณ์ให้มีคนเจ็บคนตายในการชุมนุม จากเหตุการณ์ใด ๆ และสุดท้ายก็จะใช้ประเด็นดังกล่าวปลุกระดมโดยการใส่ร้ายว่าเป็นฝีมือรัฐบาล เพื่อให้ผู้ชุมนุมคลุ้มคลั่งและคุมเหตุการณ์ไม่อยู่ ทำให้เกิดความวุ่นวายจนแกนนำควบคุมไม่ได้

3.การตัดสินใจของแกนนำที่สั่งให้ผู้ชุมนุม บุกกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ( ร. 11 รอ.) เป็นการส่งสัญญาณว่าต้องการใช้ความรุนแรง เพื่อแตกหักกับรัฐบาลเพื่อสร้างสถานการณ์อันหนึ่งอันใดให้เกิดขึ้น เพราะถ้าหากการชุมนุมยืดเยื้อนายใหญ่ก็ต้องควักทุนมากขึ้น ทั้งที่ตามยุทธวิธีของคนเสื้อแดงจากที่ทราบมาตามแผนเดิมนั้น ต้องใช้วิธีดาวกระจายไปยังที่อื่นก่อน แต่การสั่งบุกศูนย์บัญชาการของฝ่ายรัฐบาล แสดงให้เห็นว่าแกนนำคนเสื้อแดงต้องการให้จบเกมเร็ว หรือมิเช่นนั้นก็จะถูกบีบจากนายใหญ่ให้จบเกมเร็ว

ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าทำไมแกนนำคนเสื้อแดงจึงตัดสินยื่นข้อเสนอกดดันให้รัฐบาลยุบสภา ในลักษณะตีกรอบขีดเส้นตาย ซึ่งเป็นการยื่นคำขาดอย่างรวดเร็วแบบน๊อคสั้น เพื่อยุติเกมโดยเร็วต่างจากม๊อบทั่วไปที่ต้องมีการเจรจาต่อรองเพื่อหาแนวทางสันติวิธีและสมานฉันท์ในการแก้ปัญหาก่อน

ส่วนตัวคาดว่าสาเหตุที่แกนนำต้องการจบเกมเร็วมาจาก (1.)ถ้าการชุมนุมยืดเยื้อ ผู้ร่วมชุมนุมก็จะหนีและลดน้อยถอยลง ทำให้ขาดพลังในการต่อรอง เพราะขณะนี้มีมวลชนเสื้อแดงส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย กับวิธีการใช้ความรุนแรง และเดิมชุมนุมในลักษณะป่วนเมือง ทำให้ภาพลักษณ์ของคนเสื้อแดงไม่ดี ที่สำคัญ คือ ค่าจ้างรายวันที่ได้มา ได้มาแค่ 3 วัน ซึ่งหมดระยะเวลาจ้างทำงานแล้ว และแกนนำแต่ละสายจึงเดินทางกลับ

(2.)ท่อน้ำเลี้ยงจากนายใหญ่เกิดสะดุดและไหลไม่ต่อเนื่อง โดยจ่ายก้อนใหญ่มาแล้วและมีการอมหักค่าหัวคิว ทำให้นายใหญ่ไม่พอใจเพราะมีการเสนอตัวเลขว่าจะระดมคน 1 ล้านคนแต่มาจริงไม่เกินแสนคน เมื่อเที่ยบกับอัตราส่วนแล้วแค่ 10 เปอร์เซนต์ของที่กล่าวอ้างทำให้นายใหญ่อารมณ์เสียและโทรศัพท์มาด่าแกนนำ โดยขู่จะตัดท่อน้ำเลี้ยงก๊อกสอง ทำให้แกนนำต้องเล่นเกมเร็วเพื่อขอนเลี้ยงก๊อกสอง

(3.)เกิดความขัดแย้งในแกนนำกันเองที่ต่างชิงความเป็นใหญ่ และขอกุมเงินเพื่อนจะจ่ายตามสายต่าง ๆ ทำให้เกิดการแบ่งก๊กแบ่งเหล่าเพื่อที่จะบริหารเงินในแต่ละสายเอง จึงเกิดการสับสนในแนวนโนบายของนายใหญ่ที่จะต่อสู้ เช่น มีการเสนอให้มีการลงสัตยาบรรณจากแกนนำบางคน แต่ก็ถูกปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่ใช่มติของที่ประชุมแกนนำนปช.ขณะที่บางกลุ่มเสนอให้กดดันรัฐบาลให้ยุบสภา หรือให้นายกฯลาออก ขณะที่บางกลุ่มเสนอความเห็นแบบโยนหินถามทาง เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ตอบสนองแนวคิดของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ที่ยืนยันแนวคิดนี้มาตลอด  ทั้งหมดจึงเป็นความสับสนในหมู่แกนนำกันเองและสุดท้ายควบคุมการชุมนุมไม่ได้จึงง่ายต่อการสร้างสภานการณ์ใดๆขึ้น โดยบรรดาแกนนำที่แตกคอกันเอง แล้วป้ายสีมาให้รัฐบาล