นายก"อภิสิทธิ์" ระบุ ยังไม่ประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินฯ ยันรัฐบาลไม่ใช้ความรุนแรง
(14มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยและสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า รัฐบาลต้องการให้การชุมนุมเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ไม่นำไปสู่ความวุ่นวายรุนแรง จลาจลทำให้ประเทศชาติเสียหาย การประกาศกม.ความมั่นคง เป็นมาตรการป้องกันเหตุ และจัดระบบเพื่อให้ระงับเหตุแต่ไม่ได้ไปละเมิดสิทธิ
ทั้งนี้หลังประกาศกม.ความมั่นคงไปแล้ว 2 วันที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยหลังมีผู้ชุมุนมเดินทางมาจากตจว. ส่วนที่มีด่านนั้นก็เพื่อตรวจคนต่างด้าว-อาวุธ เพราะมีบางกลุ่มต้องการให้เกิดความรุนแรงไม่ได้เป็นการสกัดกั้น ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมือเป็นอย่างดี และมีประชาชนส่วนใหญ่ให้กำลังใจจนท. นอกจากนี้ได้แต่งตั้งกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ ระสานกับผู้ชุมนุมโดยนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ
ในภาพรวมเราพยายามบริหารจัดการให้ดีและทำทุกอย่างให้ผ่อนปรน ซึ่งมีการประสานสลับเปลี่ยนกำลังจากทหารที่ดูแลความเรียบร้อยมาเป็นตำรวจ
"รัฐบาลมีความห่วงใยกับคนบางกลุ่ม อาจชุมนุมไม่เป็นไปในแนวทางกับการชุมนุม แต่อาจนำไปสู่ความรุนแรง เช่นกลุ่มชักธงรบจากจว.อุบล และกลุ่มจากเชียงใหม่ ขอให้แกนนำเหล่านี้ประสานกับจนท.เพราะการเคลื่อนไหวไม่มีความชัดเจน และเพื่อที่จะได้สบายใจว่าการเคลื่อนไหวจะเป็นไปตามรธน. " ทั้งนี้รัฐบาลจะยึดตามการวินิจฉัยของศาลปกครองที่ระบุว่าการชุมนุมต้องยึดหลักสากล ซึ่งแม้การชุมุนมเป็นสิทธิตามกม.แต่หากรุนแรงก็ต้องตักเตือน และขอให้ความร่วมมือ การใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก หากการชุมนุมไปสร้างความหวาดกลัวจนท.สามารถสลายการชุมนุมได้ "
มีการวิจารณ์ว่ารัฐบาลจะออกพรก.ฉุกเฉินและมีการปราบปรามประชาชนนั้นรัฐบาลไม่ได้มีความคิดไปปราบปราบประชาชนแต่มีคนบางกลุ่มประสงค์ให้รัฐบาลต้องมีมาตรการที่เข้มงวดพอสมคว
พรก.ในสถานการณ์ ฉุกเฉินจะประกาศใช้เมื่อมีความฉุกเฉินเราไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ตามใจชอบ จะใช้พรก.ฉุกเฉินต้องมีเหตุก่อน ส่วนกม.ความมั่นคงเราเองพยายามเลี่ยงมาตลอดและกม.18 ฉบับในพรบ.ความมั่นคงดังกล่าวเราใช้น้อยมากแต่เรามีเพื่อเตรียมพร้อมไว้
ส่วนที่บอกว่ารัฐบาลสร้างสถานการณ์นั้น ในการชุมนุมที่ผ่านมาจากการตรวจสอบไม่มีการสูญเสียจากการกระทำของรัฐ ที่บอกว่าตนสั่งฆ่าประชาชนนั้นเป็นคลิปเสียงที่มีการตัดต่อ ข่าวลือมีมากมุ่งให้เกิดความขัดแย้งสุดท้ายก็พิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง รัฐบาลจะสื่อสารกับประชาชนตลอดเวลา ขอประชาชน อย่าไปหลงเชื่อข่าวลือและไปเป็นเหยื่อ ตนเชื่อว่าประชาชนต้องการเห็นประเทศไทยเดินไปข้างหน้า ตนมาจากการเลือกของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร์เป็นไปตามกติกาสากลอของรัฐสภาทุกประการซึ่งกระบวนรัฐสภาสามาดำเนินการตรวจสอบได้
นายกฯกล่าวว่า จำนวนการชุมนุมของสื้อแดงจำนวนก็อยู่ในระดับนี้หากเทียบกับเมื่อปีที่ผ่านมาอาจมากหรือน้อยกว่านี้ ความสำคัญไม่ได้อยู่ตรงจำนวนการชุมนุม ซึ่งการเข้ามาของคนหมู่มากบางครั้งเกิดจากความไม่เข้าใจเล็กน้อยจนนำไปสู่การบานปลาย เราต้องจัดระเบียบสำหรับทุกฝ่ายเพื่อให้ไม่มีความรุนแรง เราไม่ตื่นตระหนักแต่เราไม่ประมาท บางกลุ่มที่เราก็ติดตามอยู่เพราะต้องการให้เกิดความรุนแรง ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสาร รัฐบาลจะชี้แจงข่าวสารตามข้อเท็จจริง เชื่อว่าข้อเท็จจริงจะแก้ปัญหาได้
ส่วนการเรียกร้องยุบสภา ลาออกนั้นก็พูดไม่ตรงกัน ตนห่วงว่ายุบสภายังทำให้การเลือกตั้งเสี่ยงต่อความรุนแรง แต่จะเห็นได้ว่าการปราศรัยไม่ได้เกี่ยวกับการยุบสภาแต่ไปก้าวล่วงเรื่องอื่น
ส่วนกระแสข่าวการปฏิวัติ รัฐประหารนั้นตนไม่ยอมรับในการปฏิวัติ รัฐประหารวันที่ 19 กย. 2549 และวันที่ 20 กย.ตนเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองคนแรกที่บอกว่าไม่เห็นด้วยกับปฏิวัติ ทั้งนี้รัฐประหารไม่อาจเป็นคำตอบให้ใคร เพราะหากมีการรัฐประหารก็เพียงรัฐบาลไม่ได้บริหารประเทศ คนชุมนุมก็ต่อต้านการรัฐประหารอยู่แล้วถามว่าฝ่ายไหนได้อะไรจากรัฐประหาร การรัฐประหารไม่ได้เป็นคำตอบ หรือไม่ใช่ประโยชน์ของคนในประเทศแน่นอน ตนทำงานใกล้ชิดกับผู้นำเหล่าทัพ ไม่ได้ยินใครบอกว่ารัฐประหาร วันนี้ไม่ได้ทำงานเพื่อนายอภิสิทธิ์แต่เพื่อรักษาระบบบ้านเมือง
" ผมพูดกับฝ่ายความมั่นคงหลายครั้งรู้ว่าความแตกแยกทางการเมืองมีผลมาก ความฝักใฝ่ทางการเมืองเราไม่ได้ห้ามแต่เราต้องการความเป็นมืออาชีพ ในการทำงาน ตนจะไม่เอาบุคคลากรทางการเมืองมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง หากรัฐบาลนี้จงใจทำร้ายประชาชน จนท.ก็จะรู้ว่าไม่ใช่รัฐบาลที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง เขาไม่ไปทำอะไรนอกเหนือการปฏิบัติหน้าที่ เพราะเขาเองก็เสี่ยงและขัดต่อความสำนึกในการเป็นมืออาชีพที่ทำงานรับใช้รัฐ ที่ไม่ใช่รัฐบาล "
การเรียกร้องให้ยุบสภามีการเรียกร้องทุกยุคทุกสมัย แต่ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องที่ตนมาคิดนั่งอยู่ในตำแหน่งแต่คิดว่าการบริหารประเทศเราต้องมาว่าด้วยเหตุด้วยผล ที่เราต้องทำคือการบริหารประเทศ
ข้อเรียกร้องทางการเมืองนั้นถามว่าตนจะเป็นนายกฯตลอดไปหรือไม่ ทั้งนี้หากตนอยู่จนครบวาระก็ประมาณปลายปีหน้าแต่ระหว่างทางก็การอภิปราย ซึ่งไม่มีใครรู้ ทั้งนี้คงไม่เกี่ยวกับสองมาตรฐาน ตนเข้ามาในช่วงที่มีความขัดแย้งมากแต่ตนบริหารเพื่อให้ทุกอย่างผ่านไป ตนให้ความสำคัญกับทุกเสียง
ส่วนการออกหมายจับนายอริสมันต์นั้น ไม่ใช่เหตุที่เกี่ยวข้องกับวันการชุมนุมสองวันนี้แต่เป็นการไปพูดจาเข้าข่ายให้เกิดการรุนแรงซึ่งศาลอนุมัติหมายออกมาในช่วงนี้จนท.ก็ต้องดำเนินการ แต่ก็ทำเท่าที่ทำได้ไม่ไปทำให้เกิดปัญหา ไม่ได้เป็นเรื่องที่จะไปชนะคคานกัน หน้าที่คือดูแลให้เกิดความสงบ
การเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกขับจากดูไบมาที่ประเทศเพื่อนบ้านนั้นนายกฯกล่าวว่า เราประสานกับยูเออีมตลอดเพื่อไม่ให้ใช้พื้นที่ตรงนั้นเคลื่อนไหวต่อการกระทบความมั่นคง เพระมีการพูดจารุนแรงและดำเนินคดีอยู่ ที่ผ่านมาก็ชัดเจนว่าพ.ต.ท.ท่านอยู่ตรงนั้น และขณะนี้เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่ได้อยู่แล้ว ตนไม่ไปก้าวล่วงว่าออกเองหรือเชิญออก แต่จะไปอยู่ที่ไหนก็ต้องเป็นไปตามกติกา มิตรประเทศก็คงไม่ต้องการมาสร้างปัญหาให้กับประเทศเรา
นายกฯกล่าวกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของจนท.ว่าทุกคนผ่านการซักซ้อมมาตลอด ผ่านเหตุการณ์การชุมนุมและคงเข้าใจแนวทางเป็นอย่างดี ประชาชนช่วยได้มากในการให้ขวัญกำลังใจ ถ้อยทีถ้อยอาศัย
ส่วนความความปลอดภัยของตนนั้นเราเป็นอาสาสมัครมาทำหน้าที่ บ้านเมืองสำคัญกว่าเรามาก ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตนแต่อยู่ที่ตำแหน่งก็ระมัดะวังตัว ซึ่งการรักษาความปลอดภัยของตนโดยเฉพาะที่บ้านพักตนไม่รู้และขอโทษประชาชนบริเวณนั้นที่มีการปิดการจรจร แต่จนท.ก็พยายามผ่อนปรน ตนพยายามทำให้มันง่ายที่สุด ขออภัยหากไปสร้างความสะดวกให้กับใคร แต่หากเราเคารพกติกาคงไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะตั้งแต่มารับตำแหน่งก็มีเหตุหลายอย่าง ทั้งถูกทุบรถ การปาสิ่งปฏิกูลตลอดจนความพยายามขับรถแทรกขบวนรถ