วันที่ 12 มี.ค. เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภาเป็นพิเศษ มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม
เพื่อดำเนินกระบวนการถอดถอนนายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 273 จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดกรณีการลงนามในบันทึกความตกลงร่วมไทย-กัมพูชาในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร โดยการประชุมดังกล่าวจะเป็นการลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอนผู้ถูกกล่าวหาออกจากตำแหน่ง โดยใช้วิธีการลงคะแนนลับ ใช้บัตรลงคะแนน ทั้งนี้ มติที่ให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภาหรือ ไม่น้อยกว่า 90 เสียงจาก 150 เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ว.ได้เข้าประชุมพอสมควร มีผู้มารับบัตรลงคะแนน 117 คน
ซึ่งผลการลงคะแนน ปรากฏว่า วุฒิสภา มีมติเห็นด้วยให้ถอดถอน 57 เสียง ไม่เห็นด้วย 55 เสียง งดออกเสียง 4 บัตรเสีย 1 ถือว่าวุฒิสภา มีมติไม่ถอดถอนนายนพดล ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากได้เสียงไม่ถึง 3 ใน 5 หรือ 90 เสียงตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ จากนั้นนายประสพสุข แจ้งว่า ผลการลงมติของวุฒิสภาถือเป็นที่สุดแต่ไม่กระทบกับการดำเนินคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงวุฒิสภามีมติไม่ถอดถอน ว่า โล่งใจมาก หากที่ประชุมวุฒิสภามีมติถอดถอนจะเสมือนประหารชีวิตตนทางการเมืองทันที
ถือว่าพ้นวิบากกรรมไปอีก 1 เรื่อง กรณีนี้ถือว่าตนติดหนี้บุญคุณส.ว.ทั้ง 55 คนที่เข้าใจว่าตนทำไปเพราะต้องการปกป้องพื้นที่ทับซ้อนและไม่มีเจตนาจงใจจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 สถานการณ์ขณะนี้ได้ 55 เสียงถือว่าโชคดีมากแล้ว เพราะครึ่งหนึ่งของส.ว.มาจากการแต่งตั้งของคมช.