คมชัดลึก : บทเรียนเมื่อครั้งเมษาเลือด 52 ที่มีการจลาจลป่วนเมือง หนึ่งในนั้นเกิดจากฝีมือโชเฟอร์แท็กซี่บางกลุ่ม เมื่อเกิดความรุนแรงรถแท็กซี่ได้รับความเสียหาย แต่ปรากฏว่าการประกันภัยไม่ครอบคลุมถึงในกรณีได้รับความเสียหายจากการจลาจล
มาปีนี้สมาคมผู้ประกอบการรถรับจ้างแท็กซี่และอู่แท็กซี่ส่วนใหญ่ เลยหารือกันแล้วมีมติว่าจะงดให้สมาชิกวิ่งรับส่งผู้โดยสารช่วงที่มีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดง 12-14 มีนาคมนี้
เพื่อป้องกันความเสียหาย และยังเป็นการป้องกันไม่ให้โชเฟอร์แท็กซี่นำรถไปสร้างความวุ่นวายป่วนเมืองด้วย "เกษมศานต์ ชมพูแดง" ผู้จัดการสหกรณ์แท็กซี่ภูมิพลัง จำกัด บอกว่า ก่อนหน้าจะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง สมาคมผู้ประกอบการรถรับจ้างแท็กซี่ได้ประชุมหารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมที่จะเกิดขึ้น มีการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์หากเกิดความรุนแรงบานปลาย โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องการให้ประเทศชาติสงบสุข จึงหามาตรการร่วมกันว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือในส่วนนี้ได้ รวมถึงจะป้องกันความเสียหายที่เกิดกับรถแท็กซี่และผู้โดยสาร
สุดท้ายในที่ประชุมจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า หลังวันที่ 13-14 มีนาคม เป็นต้นไป
หากมีความรุนแรงเกิดขึ้นผู้ประกอบการแท็กซี่ทั้งหมดจะสั่งให้นำรถเข้ามาเก็บไว้ในอู่ และจะงดให้บริการวิ่งรับส่งผู้โดยสารออกไประยะหนึ่ง จนกว่าบ้านเมืองจะสงบสุข "ผู้ประกอบการแท็กซี่ไม่สนับสนุนความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น ช่วงนี้เรายังปล่อยให้รถวิ่งตามปกติ แต่มีการประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือไปยังกลุ่มผู้ขับว่า อย่าเข้าไปใกล้จุดที่มีการชุมนุม นอกจากจะได้รับความเสียหายแล้วยังทำให้เสียเวลาเดินทางด้วย" เกษมศานต์ บอก
ม็อบแรง...แท็กซี่งดวิ่งแบล็กลิสต์ ขับขาจร
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด เกษมศานต์ ยืนยันว่า สมาคมผู้ประกอบการรถรับจ้างแท็กซี่ไม่ได้สนับสนุนหรือต่อต้านการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่แสดงออกทางการเมือง
หากผู้ขับขี่รายใดต้องการจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยก็ไม่ได้ห้ามปราม เพียงแต่ขอความร่วมมืออย่าได้นำรถของสหกรณ์เข้าไปร่วมชุมนุมด้วยเท่านั้น ถึงแม้ว่าสมาคมแท็กซี่ฯ จะวางแผนรับมือเหตุรุนแรงเอาไว้หลังวันที่ 13-14 มีนาคม แต่ดูเหมือนว่าเพียงแค่วันนัดรวมตัวครั้งแรก 12 มีนาคม สหกรณ์หลายแห่งก็ได้รับแจ้งกลับเข้ามาแล้วว่า สมาชิกได้หยุดวิ่งรถให้บริการแล้วหลายราย เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์การเมือง เช่นเดียวกับที่วินรถแท็กซี่รามอินทรา กม.8 (วัดคู้บอน) ที่แท็กซี่ขาประจำหยุดวิ่งรถไปตั้งแต่เย็นวันที่ 11 มีนาคม เป็นต้นมา จนรถที่มีอยู่ไม่กี่คันไม่เพียงพอให้บริการลูกค้า
"ไพฑูรย์ บุญเรืองศรี" หัวหน้าวินแท็กซี่วัดคู้บอน เก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่จึงโทรศัพท์ไปสอบถามโชเฟอร์แท็กซี่ที่เคยนำรถมาเข้าวินรอรับลูกค้าบริเวณนี้
ก็ได้รับคำตอบตรงกันว่า เถ้าแก่หรือสหกรณ์แท็กซี่ไม่ปล่อยรถออกมาวิ่งรับส่งผู้โดยสารระหว่างวันที่ 12-17 มีนาคม เกรงว่าผู้ขับขี่จะนำรถเข้าไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงหากรถได้รับความเสียหายบริษัทประกันภัยจะไม่ชดใช้
"ตอนแรกผมก็ประหลาดใจมากนะ เพราะวินผมไม่เคยมีแท็กซี่เหลือน้อยขนาดนี้ โทรไปถาม 3-4 คนบอกตรงกันหมดว่าเถ้าแก่ไม่ปล่อยรถให้ขาจรเช่า" ไพฑูรย์ เล่า
ขณะที่ หัวหน้าสหกรณ์แท็กซี่กรุงเทพ จำกัด ได้ประกาศให้โชเฟอร์ทุกคนได้รับทราบทั่วกันไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ใครอยากจะไปร่วมชุมนุมก็ไปได้ ไม่ว่ากัน
แต่ขออย่างเดียวอย่านำรถแท็กซี่ของสหกรณ์ไปด้วยแค่นั้น เพราะสหกรณ์ทุกแห่งก็ไม่อยากให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินของตนเอง พร้อมกันนี้ เขาให้ข้อสังเกตว่าหากพิจารณาดีๆ จะเห็นว่าจำนวนคนขับแท็กซี่ที่เข้าไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองเป็นคนกลุ่มน้อยและเป็นกลุ่มเดิม ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนทำมาหากินเป็นหลัก
"การปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ทุกคนมีอิสระทางความคิด คิดแตกต่างกันได้ คนขับแท็กซี่ก็มีสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองได้เช่นกัน แต่ผมก็ขอให้พวกเขาไปร่วมชุมนุมแต่ตัว อย่าได้นำทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของตัวเอง เช่น รถแท็กซี่ของสหกรณ์เข้าไปในการชุมนุมด้วยแค่นั้น" หัวหน้าสหกรณ์แท็กซี่กรุงเทพ กล่าว
จากการตระเวนดูตามจุดต่างๆ ที่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง มีรถแท็กซี่เข้าร่วมชุมนุมที่บริเวณสนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ที่เหลือใช้รถกระบะและมีรถจักรยานยนต์นำหน้า
ทั้งนี้ ก่อนการชุมนุมใหญ่ของเสื้อแดง 12-14 มีนาคม กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้เรียกผู้ประกอบการรถแท็กซี่ สหกรณ์ และอู่แท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ มาประชุมแนะแนวทางและให้ความร่วมรู้เกี่ยวกับการประกันภัย ในกรณีที่รถได้รับความเสียหายจากเหตุจลาจล ประกันจะไม่ครอบคลุมค่าเสียหายในส่วนนี้ บริษัทประกันจะไม่ชดใช้ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการทั้งหลาย ขอให้งดให้บริการระหว่างวันเวลาดังกล่าว