คมชัดลึก :เช็กขุมกำลังเสื้อแดง 19 จังหวัดอีสาน ชักแผ่วระดมพลเข้ากรุงต่ำกว่าเป้า เหนือ-กลางไม่คึกอย่างที่คิด ม็อบตากภาคใต้โหรงเหรง ตร.วางยุทธศาสตร์สกัดทัพทางน้ำกว่า 100 ลำเรือ ตั้งด่านเข้มจับอาวุธ-ปลาร้า
การประกาศชุมนุมต่อสู้ขั้นแตกหักของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง
โดยนัดรวมพลทั่วประเทศเคลื่อนทัพเข้ามาชุมนุมใหญ่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 12-14 มีนาคมนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ทีมข่าวเครือเนชั่น สำรวจความพร้อมของแกนนำคนเสื้อแดง รวมทั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในพื้นที่ 19 จังหวัดภาคอีสาน ซึ่งคาดว่าจะมารวมตัวที่ห้างสรรพสินค้าเอาท์เล็ท เขาใหญ่ ถนนมิตรภาพบายพาส ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ก่อนมุ่งหน้าเข้ากรุงสมทบกับกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนราชดำเนิน ในวันที่ 13 มีนาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.ขอนแก่น นปช.ตั้งเป้าระดมคนให้ได้ 2 หมื่นคน แต่พบว่ามีมวลชนเข้าร่วมประมาณ 5,000 คน
การเดินทางจะใช้รถปิกอัพ 1,000 คัน และรถยนต์ส่วนบุคคล พร้อมทั้งขนเสบียงข้าวสารอาหารแห้ง เม็ดเงินที่ใช้จ่ายประมาณ 5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้เตรียมกำลังเสริมเข้าสนับสนุน โดยการจัดตั้งแกนนำระดับตำบล อำเภอ จังหวัด ให้ชุมนุมรออยู่ในพื้นที่ จ.อุดรธานี วางเป้าระดมคน 3 หมื่นคน ล่าสุดพบว่ามีมวลชนเข้าร่วมประมาณ 5,000 คน การเดินทางจะใช้รถปิกอัพ 200 คัน และรถยนต์ส่วนบุคคล พร้อมขนเสบียงข้าวสารอาหารแห้ง เม็ดเงินสะพัด 5 ล้านบาท มีการเตรียมกำลังเสริมเข้าสนับสนุน โดยการจัดตั้งแกนนำระดับตำบล อำเภอ จังหวัด ให้ชุมนุมรออยู่ในพื้นที่ ขณะที่ จ.หนองคาย วางเป้าระดม 5,000 คน ตัวเลขล่าสุดรวบรวมได้ 1,000 คน การเดินทางจะใช้รถปิกอัพ 100 คัน และรถยนต์ส่วนบุคคล พร้อมขนข้าวสารอาหารแห้ง เม็ดเงินประมาณ 1 ล้านบาท จ.กาฬสินธุ์ วางเป้าระดม 1 หมื่นคน พบว่าระดมได้ 1,000 คน จะเดินทางโดยรถปิกอัพ 50 คัน รถตู้ 20 คัน เม็ดเงิน 1 ล้านบาท
การรวมพลที่ จ.สกลนคร ตั้งเป้า 1 หมื่นคน แต่ได้เพียง 1,000 คน ใช้รถปิกอัพ 100 คัน พร้อมขนข้าวสารอาหารแห้ง คาดเงินสะพัด 1 ล้านบาท
จ.นครพนม วางเป้า 1 หมื่นคน แต่จะเข้าร่วมราว 500 คน ใช้รถบัส 5 คัน รถปิกอัพ 30 คัน อาหารพร้อมเม็ดเงิน 5 แสนบาท จ.ร้อยเอ็ด เป้าระดม 1 หมื่นคน พบว่ามวลชนเข้าร่วม 2,000 คน ใช้รถปิกอัพ 100 คัน เสบียงพร้อมเงินสะพัด 2 ล้านบาท จ.หนองบัวลำภู เป้า 1 หมื่นคน ล่าสุดเช็กชื่อได้ประมาณ 500 คน ใช้รถปิกอัพ 50 คัน เม็ดเงิน 5 แสนบาท จ.มหาสารคาม วางเป้าระดม 1 หมื่นคน พบจะเข้าร่วม 300 คน ใช้รถปิกอัพ 30 คัน เม็ดเงิน 2 แสนบาท ขณะที่ จ.มุกดาหาร ตั้งเป้า 5,000 คน แต่มีรายงานคนเข้าร่วม 2,000 คน ใช้รถบัส 6 คัน ปิกอัพ 20 คัน เม็ดเงิน 1 ล้านบาท และ จ.เลย เป้าระดม 1 หมื่นคน ล่าสุดพบแค่ 500 คน ใช้รถปิกอัพ 50 คัน เม็ดเงินประมาณ 3 แสนบาท
ในส่วน จ.ชัยภูมิ ตั้งเป้าระดม 2 หมื่นคน ล่าสุดมีมวลชนเข้าร่วม 1,600 คน ใช้ปิกอัพ 100 คัน คาดเงินสะพัด 2 ล้านบาท จ.นครราชสีมา ตั้งเป้า 2 หมื่นคน
แต่ระดมได้ประมาณ 1 หมื่นคน ใช้รถบรรทุกหกล้อ 100 คัน ปิกอัพ 300 คัน รถบัส 100 คัน พร้อมขนเสบียงข้าวสารอาหารแห้ง เงินสะพัด 5 ล้านบาท จ.บุรีรัมย์ วางเป้า 5,000 คน เบื้องต้นพบมวลชน 1,000 คน ใช้รถปิกอัพ 100 คัน เงินสะพัด 1 ล้านบาท
สแกนกำลังเสื้อแดง4ภาคบุกกรุง12-14มี.ค.
จ.สุรินทร์ วางเป้าระดมมวลชน 5,000 คน พบเข้าร่วม 500 คน ใช้รถบรรทุกหกล้อ 20 คัน และรถปิกอัพ 20 คัน เงินสะพัด 5 แสนบาท จ.ศรีสะเกษ ตั้งเป้า 1 หมื่นคน
เข้าร่วม 1,000 คน ใช้รถปิกอัพ 100 คัน เงิน 1 ล้านบาท จ.อุบลราชธานี คาดเข้าร่วม 2 หมื่นคน พบมวลชนร่วมเดินทาง 500 คน ใช้รถปิกอัพ 50 คัน เงินประมาณ 1 ล้านบาท จ.ยโสธร ตั้งเป้า 5,000 คน แต่เข้าร่วม 2,000 คน ใช้รถปิกอัพ และรถตู้รวม100 คัน เงินสะพัด 1 ล้านบาท และ จ.อำนาจเจริญ ระดมพล 3,000 คน แต่มีเพียง 500 คน ใช้รถปิกอัพ 30 คัน คาดเม็ดเงินสะพัดประมาณ 5 แสนบาท
ส่วนความเคลื่อนไหวที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายการนัดรวมพลกลุ่มคนเสื้อแดงภาคเหนือ 17 จังหวัด ก่อนเคลื่อนทัพสู่กรุงเทพฯ คาดว่าจะมีมวลชนไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน ยานพาหนะ 2,000 คัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเสื้อแดง จ.พิจิตร มีรถกระบะกว่า 100 คัน ผู้ชุมนุมกว่า 1,000 คน นำโดยนายนาวิน บุญเสรฐ อดีต ส.ส.พิจิตร พรรคไทยรักไทย ในฐานะผู้ประสานกลุ่มเสื้อแดง 17 ภาคเหนือ เดินทางไปรวมตัวกันที่สนามกีฬาจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อรอกลุ่มเสื้อแดงภาคเหนือตอนล่างซึ่งจะเดินทางมาถึงในช่วงดึก ก่อนเคลื่อนพลเข้ากรุงเทพฯ ในวันที่ 13 มีนาคมนี้ เพื่อสมทบกับเสื้อแดงส่วนกลาง
นายสิงห์คำ นันติ ประธานสหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด หรือผู้ประกอบการรถรับจ้างสี่ล้อแดงในตัวเมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า นำรถสี่ล้อแดง 500 คัน
ตั้งขบวนที่บริเวณสี่แยกดอนจั่น ถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง เดินทางไปสมทบกลุ่มนปช.ที่กรุงเทพฯ ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าน้ำมัน ได้จากการทอดผ้าป่าหลายแสนบาท ทั้งนี้รถแต่ละคันจะมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปกลับประมาณ 4,000 บาทต่อคัน บางรายเจ้าของรถและผู้ชุมนุมก็ควักเงินส่วนตัวสมทบด้วย
ด้าน นายจิรโรจน์ กีรติศักดิ์วรกุล แกนนำ นปช.พะเยา กล่าวว่า จะรวมตัวกันบริเวณสี่แยกแม่ต๋ำ อ.เมือง จ.พะเยา รอทัพจากจากเชียงราย
แล้วเคลื่อนขบวนไปยัง จ.ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ และสมทบกลุ่มคนเสื้อแดงกันไปเรื่อยๆ จนถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 14 มีนาคม ส่วนการเคลื่อนทัพทางน้ำในโซนภาคกลางนั้น นายสุรเชษฐ ชัยโกศล ส.ส.เขต 1 พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงเตรียมความพร้อมของเรือหางยาวขนาดใหญ่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยกองเรือทัพหน้าจะออกเดินทางในช่วงบ่ายวันที่ 13 มีนาคม บางส่วนเดินทางเช้าวันที่ 14 มีนาคม ขบวนเรือทัพหลักจะเข้าไปสมทบที่ท่าเรือหลายจุดในกรุงเทพฯ คาดว่าจะมีเรือเข้าร่วมกว่า 100 ลำ
ด้าน นางมยุรี เศวตาศัย แกนนำคนเสื้อแดงอยุธยา 49 กล่าวว่า ขณะนี้ได้บรรจุปลาร้าใส่ถุงเตรียมขนปลาร้า 1 ตันบรรจุถุงเข้ากรุงเทพฯ
หากทหารตำรวจและฝ่ายปกครองเข้ามารังแกหรือใช้ความรุนแรงกับเสื้อแดง ก็จำเป็นต้องสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เนื่องจากไม่มีอาวุธใดๆ นอกจากถุงปลาร้าที่จะใช้ขว้างปาตอบโต้ ส่วน พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา) กล่าวว่า จากข้อมูลเชิงลึกเชื่อว่าเสื้อแดงจะนำเรือไม่ต่ำกว่า 100 ลำ จาก จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ขนเสื้อแดงเข้ากรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับแนวทางการทำงานตำรวจท้องที่จะประสานกรมเจ้าท่า ร่วมตรวจสอบเรือทุกลำว่าจดทะเบียนเรือถูกต้องหรือไม่ ผู้ขับเรือมีใบอนุญาตหรือไม่ มีการบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ และมีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยตรงตามกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของการใช้เรือในการบรรทุกคนจำนวนมาก หากว่ามีข้อใดผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในวันที่ 12 มีนาคม กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมากจะมารวมตัวกันที่เรือนจำเก่าสมุทรปราการ
หลังจากนั้นจะเคลื่อนพลเข้าปลุกระดมในเขต อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และไปรวมตัวกันที่สนามกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อรอสัญญาณเข้ากรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า บรรยากาศโดยทั่วไปยังคงสงบเงียบ โดยมีเพียงรถยนต์กระบะติดแผ่นป้ายโฆษณา พร้อมเปิดสปอตเสียงเพลงที่มีเนื้อหากล่าวอ้างถึงผลงานโครงการประชานิยม ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกขับวนเวียนไปตามแหล่งชุมชน ตลาดนัด ร้านค้า และในจุดศูนย์รวมผู้คน รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
นอกจากนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงได้จัดซุ้มกางเต็นท์เป็นจุดนัดพบรวมพลคนเสื้อแดงย่อย พร้อมตั้งจอโปรเจกเตอร์ เปิดรับชมข่าวสาร
และการจัดรายการจากแกนนำ ที่บริเวณริมถนนสวนสมเด็จฯ (สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์) สวนสาธารณะประจำจังหวัด ด้านข้างสนามกีฬาเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ฝั่งตรงข้ามกับสนามหน้าศาลากลางจังหวัด โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 20 คน เฝ้าประจำจุดบริเวณดังกล่าว พร้อมพยายามชักชวนผู้ที่สัญจรผ่านไปมาร่วมรับฟังข่าวสารของสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวแต่ไม่ได้รับความสนใจมากนัก อย่างไรก็ตาม จ.ฉะเชิงเทรา รวมพลได้ประมาณ 400 คน เตรียมออกเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ส่วนที่ จ.ราชบุรี ระดมคนเสื้อแดงประมาณ 500 คน ร่วมสัมมนาที่ห้องประชุมใหญ่โรงแรมเวสเทิร์นแกรนด์ อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยมีพระภิกษุสงฆ์เข้าร่วม 10 รูป
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ร.ท.ยงยุทธ์ ทองยศ หัวหน้าหน่วยนำกำลังทหารจากหน่วยบัญชาการป้องกันทางอากาศ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
นำกำลังมาจำนวน 40 นาย เข้าสมทบกับ พ.ต.ท.นิรุธ ประสิทธิเมตต์ รอง ผกก.ปป.สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังจากได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน และเจ้าหน้าที่ อปพร. ตั้งจุดหน้าเทสโก้โลตัสคลองสี่ ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มีกำลังมีรวม 100 นาย ตั้งจุดตรวจค้นหาอาวุธและสิ่งของผิดกฎหมาย รวมทั้งสิ่งปฏิกูลต่างๆ ที่จะนำมาปาใส่เจ้าหน้าที่
ขณะที่แผนการเดินทางของกลุ่มเสื้อแดงในพื้นที่ภาคใต้ ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สุราษฎร์ธานี ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 20 คน ซึ่งไม่มีแกนนำที่ชัดเจน
เริ่มนำรถยนต์ส่วนตัวทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไม่ต่างจากที่ จ.ตรัง เบื้องต้นยังไม่ทราบจำนวนผู้คนที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าคงจะมีการเคลื่อนไหวไม่มากนัก ส่วนกลุ่มเสื้อแดงในพื้นที่นครศรีธรรมราช เตรียมแยกเดินทางเป็น 2 สาย คือ เครือข่ายของนายพีระพล นาคแก้ว ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คาดว่ามีมวลชนร่วมคณะโดยใช้รถตู้และรถกระบะรวม 20 คัน ส่วนอีกสายนำโดยนายอุดมเกียรติ อภินันทิกุลปานมี อดีตผู้สมัคร ส.ส.ไทยรักไทย นำชาวบ้านในพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เข้าร่วมชุมนุมเป็นหลัก