คมชัดลึก :กลุ่มเสื้อแดงนัดรวมพล 5 จุดใหญ่กระจายทั่วกรุงวันนี้ พร้อมยกระดับขบวนไพล่ไล่รัฐบาลอัมมาตย์ กดดันยุบสภา เมื่อเวลา 13.30 น.วานนี้(11มี.ค.) กลุ่มนปช.แถลงข่าวการเตรียมระดมพลชุมนุมใหญ่วันที่ 12-15 มี.ค.
โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า คนเสื้อแดงทั่วประเทศที่เคลื่อนพลตั้งแต่ 12-13 มี.ค.จะทยอยมาถึงสะพานผ่านฟ้ากทม. ตั้งแต่เย็นวันที่ 13 มี.ค. ซึ่งจะมีการตั้งเวที ตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.เช่นเดียวกัน ซึ่งวันที่ 14 มี.ค.จะเริ่มชุมนุมใหญ่อย่างเป็นทางการตั้งแต่เวลา 12.00 น.พร้อมประกาศจุดยืน และจะประกาศข้อเรียกร้องของคนเสื้อแดงในการกดดันให้รัฐบาลอำมาตย์ยุบสภา หากวันที่ 14 มี.ค.รัฐบาลไม่ตอบสนองข้อเรียกร้องก็จะยกระดับความเข้มข้นในการชุมนุม โดยวันที่ 15 มี.ค.จะเคลื่อนคนเสื้อแดงกว่า 1 ล้านคน กระจายไปทุกจุดให้เต็ม กทม. ซึ่งจะเรียกว่า"ขบวนไพล่ไล่รัฐบาลอัมมาตย์" ถ้าวันที่ 15 มี.ค.ยังไม่ตอบสนองอีก ก็จะยกระดับความเข้มข้นไปเรื่อยๆ แต่จะยังไม่ขอเปิดเผยยุทธวิธี
อย่างไรก็ตาม ในการเคลื่อนพลและระดมพลในวันที่ 12 มี.ค. แกนนำได้มีการหารือกัน ล่าสุดข้อสรุปว่า ในส่วนของกทม.จะมีจุดนัดระดมพล 5 จุดคือ
1.อนุเสาวรีย์ปราบกบฏ วงเวียนหลักสี่ นายวีระ มุสิกพงศ์ และนพ.เหวง โตจิราการเป็นแกนนำ ซึ่งจะเคลื่อนขบวนตั้งแต่ถนนพหลโยธินและออกมาตามถนนวิภาวดีฯ 2.วงเวียนใหญ่ มี นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นแกนนำ 3.แยกบางนา จะเคลื่อนตามถนนสุขุมวิท ผ่าน สตช. 4.สวนลุมพินี มีนายจรัญ ดิษฐาอภิชัย และนางดารุณี กฤตบุญญาลัย 5.สามเหลี่ยมดินแดง มีนายชินวัฒน์ หาบุญพาด เป็นแกนนำ โดยเคลื่อนไปตามถนนวิภาวดี แวะหน้ากองพล ร.1 รักษาพระองค์ และหยุดปราศรัยหน้าสถานีเอ็นบีที โดยจะไม่มีการปิดกั้นการจราจร แต่จะใช้ผิวจราจร ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวตามปกติอยู่แล้ว ขณะที่บริเวณปริมณฑล นัดรวมตัวกันที่ ศาลากลาง จ.นนทบุรี และหน้าหมู่บ้านพระปิ่น 3
ด้านน.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า มีความห่วงใยต่อการเคลื่อนไหวสร้างสถานการณ์ที่จะนำบ้านเมืองไปสู่วิกฤตอีกครั้ง
มีการส่งสัญญาณว่าจะนำไปสู่การเตรียมการวินาศกรรมนำไปสู่การเผชิญหน้าของคน ไทย สนับสนุนให้คนทำผิด ปลุกระดมผ่านเครือข่ายวิทยุขุมชุม ส่งสัญญาณถึงการลอบวางเพลิงโดยนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ประกาศว่าน้ำมัน 1 ล้านลิตรจะทำให้กรุงเทพมหานครเป็นทะเลเพลิง สิ่งเหล่านี้เป็นการส่งสัญญาณโดยตรงที่ต้องการสร้างการจลาจล ประกอบกับการส่งสัญญาณบิดเบือนความจริง ปฏิเสธความรับผิดชอบต่างๆ มีการใช้คลิปเสียงนายกฯไปปลุกระดม ทำความเข้าใจผิด เพื่อมุ่งไปสู่การสร้างสถานการณ์โดยผ่านฝ่ายความมั่นคงที่เป็นแนวร่วมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการเรียกร้องให้ต่อสู้อย่างสงบสันติ
เสื้อแดงนัดรวมพล5จุดใหญ่ทั่วกทม.วันนี้
แต่คนที่สนับสนุนคือ พ.ต.ท.ทักษิณกลับให้ครอบครัวเดินทางไปต่างประเทศโดยอ้างเหตุผลต่างๆ
ซึ่งเป็นการสัญญาณปฏิเสธความรับคับผิดชอบขั้นสุดท้าย และประเด็นสุดท้ายมีการพาดพิงสถาบันสูงสุดทั้งในและนอกประเทศ มีการระบุถึงการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ระบอบสาธารณรัฐ แม้จะมีความมั่นใจว่าคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่ต้องการรเช่น ซึ่งประเทศต้องอาศัยความร่วมมือของคนไทยทั้งประเทศเพื่อป้องกันเหตุรุนแรง และรักษาไว้ซึ่งสถาบันสูงสุดของประเทศ
ด้าน น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากข้อมูลหน่วยข่าวกรองพบว่ามีการเตรียมสะเบียงน้ำและอาหาไว้อย่างน้อย 7 วัน
และให้ทุกคนเตรียมสิ่งปฏิกูลอุจจาระและปัสสาวะเพื่อปาใส่สถานที่ราชการต่างๆ ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าการชุมนุมจะมีเพียงระยะเวลาสั้น 7-8 วัน วันที่ 12 มีนาคม จะยังไม่มีความรุนแรง เพราะมีการแยกไปตามมจุดต่างๆ หลังวันที่ 12 มีนาคมคือระหว่างวันที่ 13-14 มีนาคม มีความเปราะบาง อาจจะมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นวันที่ 14 มีนาคมที่คาดว่าจะมีคนประมาณ 1 แสนคน และมีกระบะและรถอีแต๋นอีกประมาณ 5 พันคน มีแนวโน้มที่จะมีการสร้างสถานการณ์จากคน 5 กลุ่ม ซึ่งเป็นเครือข่ายคนมีสีและเป็นอดีตมีวิธีการเป้าหมายก่อเหตุยั่วยุให้ร้อนแรงมากยิ่งขึ้น อาจจะมีการขว้างปาระเบิดและยิงเอ็ม 79 เข้าใส่แล้วอ้างว่ารัฐบาลเป็นฝ่ายทำร้ายประชาชน และสุดท้ายมีการประเมินว่าจะมีการปิดล้อมสถานที่ทางเศรษฐกิจ เช่น กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารกรุงเทพ เพื่อสร้างแรงกดดันให้รัฐบาล
ด้าน นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเดินทางไปต่างประเทศของบุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ
ที่อ้างว่าไปร่วมงานท่องเที่ยวนั้น พบว่าเป็นการจัดงานท่องเที่ยวในยุโรปเท่านั้น ความจริงเป็นการเดินทางที่สอดคล้องกับคนสำคัญอีกหลายคน เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่เดินทางไปสิงคโปร์ พล.อ.ชวลิต เข้าโรงพยาบาล นายประชา ประสพดี ก็มีรายงานว่าเก็บข้าวของออกจากห้องประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนไปแล้ว จึงต้องขอถามว่าคนเหล่านี้ได้รับทราบข้อมูลอะไรที่ประชาชนไม่ทราบ จนรู้ว่าอยู่ไมได้ ไม่มาร่วมกับมวลชน มีบางอย่างที่ประชาชนไม่รู้ใช่หรือไม่
นอกจากนี้ นายบุญยอดยังเรียกร้องให้มีการจับกุมสมาชิกสภาหากมีพบว่ามีการกระทำผิด เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้ให้ความคุ้มครองในกรณีดังกล่าว ไม่เว้นแม้แต่ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯคนที่ 2
ด้านนายอรรถพร พลบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส.ส.เพื่อไทยมากกว่าครึ่งไม่เห็นด้วยกับแนวทางของคนเสื้อแดง มีความอึดอัดใจ เพราะมี ส.ส.ที่เป็นแกนนำเสื้อแดงเข้าไปกำหนดแนวทางการดำเนินการต่างๆ โดยอ้างว่าสู้ในรัฐสภาไม่ได้ จึงต้องไปเคลื่อนไหวข้างนอก ส.ส.ส่วนใหญ่ต้องการสู้ในระบบรัฐสภา แต่ไม่มีโอกาสได้ปริปาก จึงอยากเรียกร้อง ส.ส.เพื่อไทยดูและพี่น้องประชาชนที่เลือกตั้ง ส.ส.เข้ามา อย่าให้เป็นเหยื่อของการสร้างสถานการณ์ บาดเจ็บเลือดตกยางออก ซึ่งมีสิทธิเกิดขึ้น ล่าสุดภรรยาและลูกของแกนนำต่างเก็บตัวไปอยู่ในเซฟเฮ้าส์กันหมดแล้ว