"นายกฯตรวจราชการ"
เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 13 ต.ค. ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.ท.สุเจตน์ วัฒนสุข แม่ทัพภาคที่ 2 ออกเดินทางโดยเครื่องบินเจตสตรีมของกองทัพบก เพื่อไปตรวจราชการที่ จ.สกลนคร
และ จ.บุรีรัมย์ โดย พล.อ.สุรยุทธ์ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางว่า จะเดินทางไปติดตามเรื่องที่ค้างมานาน ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/23 (สมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เพื่อ แก้ปัญหาพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย) เพราะเคยทำงานในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทราบว่าผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ยังไม่ได้รับสิ่งที่รัฐบาลได้สัญญาไว้ว่าจะให้ความช่วยเหลือมาตั้งแต่ปี 2525 จนถึงปัจจุบัน ไปครั้งนี้ก็คิดว่าจะหาทางแก้ไขปัญหาที่ตกค้างหมักหมมมาตลอดเวลา ให้ลุล่วงในช่วงที่ตนดูแลอยู่
แก้ปัญหาหมักหมมหลายรัฐบาล
พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า เคยมีการพูดถึงเรื่องการจัดสรรที่ดินทำกินให้เขา แต่ก็ไม่มีที่ดิน พูดถึงการจัดหาโคกระบือให้ แต่ก็ยังไม่บรรลุผล และในที่สุดก็พูดถึงเรื่องเงินชดเชยจำนวนหนึ่ง แต่ก็ตกค้างมาหลายปี ก็ยังไม่ สามารถดำเนินการได้ เมื่อถามว่า ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนมีมากเท่าไรถึงต้องลงไปดูแลด้วยตัวเอง พล.อ. สุรยุทธ์ตอบว่า จำนวนคงไม่มากนัก แต่เป็นบุคคลที่ทางภาครัฐได้เคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยเขา โดยให้เขาเข้ามาร่วมมือในการพัฒนาบ้านเมืองเป็นส่วนสำคัญ แต่เราไม่ได้ทำ เมื่อถามว่า จะรวมไปถึงการลงทะเบียนคนยากจนด้วยหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า คงไม่เกี่ยวกับการลงทะเบียนคนจน แต่ไปแก้ไขปัญหาเรื่องที่ตกค้างหมักหมมมานาน และเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเรามีความจริงใจที่จะช่วยแก้ไขปัญหา
ลุยเข้าหาหัวโจกอดีตฝ่ายซ้าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะถือโอกาสทำความเข้าใจกับประชาชนถึงสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงนี้หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า คิดว่าประชาชนเข้าใจ แต่เราต้องแสดงให้เห็นว่ามีความจริงใจ ต้องการรับฟังปัญหา และคลี่คลายปัญหาให้ได้ในช่วงที่ตนทำงานอยู่ในขณะนี้ เมื่อถามว่า จะไปพูดกับแกนนำม็อบที่เคยออกมาเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมาด้วยหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ส่วนใหญ่จะมีความเชื่อมโยงกัน ตนบอกได้แค่นี้ เมื่อถามย้ำว่า ที่พูดมาหมายถึงกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยใช่หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบเพียงสั้นๆว่าใช่
ทส.เผยจะไปทุกจังหวัดที่มีปัญหา
พล.ต.นินนาท เบี้ยวไข่มุก นายทหารคนสนิทนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกฯจะเดินทางลงพื้นที่ทุกที่ที่มีปัญหา เพราะเชื่อว่าปัญหาต่างๆจะยุติได้ด้วยการพูดจากัน การที่ พล.อ.สุรยุทธ์ไม่ตั้งรองนายกฯด้านความมั่นคง ถือเป็นความชัดเจนแล้วว่าจะดูแลแก้ไขปัญหาทางการเมือง และปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ด้วยตัวเอง สำหรับการเดินทางลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.สกลนครนั้น นายกฯเป็นผู้เลือกเอง เพราะรู้ว่าตรงไหนมีปัญหา คาดว่าภายในเวลา 1 ปีนี้จะไม่มีการประชุม ครม.สัญจร เพราะต้องเน้นการทำงานในช่วงเวลาที่มีจำกัด