แฉทัพหน้าแดง ลอบขนบึม 4เงื่อนไขปฏิวัติ

"ประสงค์ สุ่นสิริ" คาดคนเสื้อแดงเข้ากรุง 8 หมื่น แต่มีกำลังส่วนหน้าลอบขนอาวุธเข้ามาแล้ว เตรียมก่อเหตุรุนแรง เผาสถานที่สำคัญ ชี้ 4 เงื่อนไขเปิดทางปฏิวัติ โดยเฉพาะหากเกิดจลาจล ปัดแต่งตัวรอนั่งนายกฯ..

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ 2550 และอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

เปิดเผยกับ "ไทยรัฐออนไลน์" ถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งนี้ว่า มีการเตรียมแผนการไว้ล่วงหน้าหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบประมาณ คนที่รับผิดชอบมวลชนทั้งในพื้นที่และส่วนกลาง เครื่องมือ อาวุธมาเป็นเวลานานกว่า 1 เดือน คนมาร่วมชุมนุมครั้งนี้มีไม่น้อย โดยวิเคราะห์ว่าในพื้นที่ กทม.นั้นไม่น้อยกว่า 50,000-80,000 คน แต่ไม่ได้หมายความว่ามีแต่ในพื้นที่ กทม.เท่านั้น ยังมีแนวร่วมกลุ่มหลังที่คอยก่อกวนอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ซึ่งต้องระมัดระวังว่าจะมีการเผาสถานที่สำคัญของจังหวัดต่างๆ

น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อวา ขณะนี้มีการซ่องสุมกำลัง จัดตั้งกำลังส่วนหน้าที่มีประสบการณ์การใช้อาวุธปืน ระเบิดขวด ระเบิดมือ และมีการนำระเบิดขวด

พร้อมใช้งานเป็นพันลูกเข้ามา กทม.กว่าสัปดาห์แล้ว ซึ่งรัฐบาลต้องระมัดระวังให้ดี จะมีการวางระเบิิด ปาระเบิดในพื้นที่หลายจุด คราวนี้จะรุนแรงกว่าเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว เมื่อถามว่าศักยภาพของหน่วยข่าวทางราชการต่างๆ ยังมีประสิทธิภาพหรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่่าวว่า หน่วยข่าวของราชการนั้นมีหลายหน่วย เช่น สมช. หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ หน่วยข่าวของทหาร ล้วนแล้วแต่มีศักยภาพและประสิทธิิภาพ ขึ้นอยู่กับการบริหารของรัฐบาล ว่าจะมีการวิเคราะห์สืบลึกกลายเป็นข้อเท็จจริง ก็สกัดกั้นได้ ซึ่งระยะหลังนี้การทำงานของรัฐบาลเรียกได้ว่าค่อนข้างอ่อนแอในเรื่องนี้ ดังนั้นสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องตั้งเป็นศูนย์วิเคราะห์ข่าว สถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนำเอาผู้เชี่ยวชาญที่มีศักยภาพแต่ละหน่วยมาร่วมกันวิเคราะห์

ส่วนการชุมนุมครั้งนี้จะลามถึงขั้นมีการปฏิวัติหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข 4 ประการ  ประกอบด้วย 1. ทหารสู้กับทหารด้วยกัน 2. ฝ่ายการเมืองขัดแย้งกับฝ่ายทหาร 3. ฝ่ายบริหารมีการทุจริตคอรัปชัน และสิ่งที่น่าจับตาระมัดระวังเป็นพิเศษก็คือกรณีที่ 4. เกิดเหตุจลาจล จนรัฐบาลไม่สามารถคุมสถานการณ์ได้

"กรณีที่มีชื่อผมรอที่จะนัั่งเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ผมเองไม่รู้เรื่องเลย ผมได้แต่ติดตามสถานการณ์อยู่เท่านั้น" น.ต.ประสงค์ กล่าว

อดีตประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ 2550  กล่าวด้วยว่า อยากแนะนำประชาชนในช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง 3 ข้อด้วยกัน

คือ 1. ให้ระลึกว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดง กับฝ่ายบริหารคือรัฐบาล ไม่ใช่เป็นการปะทะกันระหว่างประชาชนกับประชาชน ดังนั้นขอเพียงให้ดูแลเคหะสถาน ชุมชน บุตรหลานของตน 2. ให้ดูแลทรัพย์สิน เคหะสถานของตนไม่ให้ใครมาทำร้าย เผา และหากใครมาทำร้าย ก็ขอให้ต่อสู้ตามสิทธิ  และ 3. ขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบว่าการต่อสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดงเลยเถิดไปถึงล่วงละเมิดสถาบันสูงสุดของไทย ก็ให้ประชาชนออกมาต่อสู้ แม้จะเป็นสงครามกลางเมืองก็จำเป็น.