แถลงการณ์ “ไม่เอาความรุนแรง”
เครือข่าย “หยุดทำร้ายประเทศไทย – หยุดใช้ความรุนแรง”
ตามที่ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะจัดมีการชุมนุมในกรุงเทพมหานครในวันที่ 14 มีนาคม 2553 โดยเริ่มระดมคนจากทั่วประเทศให้เดินทางเข้ามาชุมนุมตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2553 ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าอาจจะเกิดความรุนแรงขึ้นมาอีกครั้งนั้น เครือข่าย “หยุดทำร้ายประเทศไทย – หยุดใช้ความรุนแรง” ซึ่งได้ตั้งขึ้นมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 ร่วมกับกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมต่างๆ ที่ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงหรือความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นมาอีกในสังคมไทย จึงมีข้อเรียกร้องต่อทุกฝ่ายเพื่อให้สังคมไทยและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันระงับยับยั้งความรุนแรง ดังต่อไปนี้
1. ขอให้ทุกฝ่ายต้องไม่ใช้ความรุนแรง และให้อดทนต่อการยั่วยุ ซึ่งอาจทำให้เกิดความรุนแรง “การชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ” เป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคง จึงต้องเคารพสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชน การควบคุมการชุมนุมของรัฐบาลนั้นให้บังคับใช้กฎหมายเท่าที่จำเป็น และเหมาะสมในการดูแลความสงบเรียบร้อยของสังคม ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการชุมนุม ต้องไม่มีการติดอาวุธ โดยให้มีเฉพาะอุปกรณ์ป้องกันตัว และอุปกรณ์สำหรับควบคุมดูแลการชุมนุมเท่านั้น และผู้ชุมนุมจะต้องอยู่ในขอบเขตของการไม่ใช้ความรุนแรง และไม่มีอาวุธ ฝ่ายแกนนำการชุมชุมที่ยืนยันว่าจะไม่มีการใช้ความรุนแรงจะต้องควบคุมดูแลไม่ให้มีการพกพาอาวุธมาชุมนุม และผู้ชุมนุมต้องช่วยกันควบคุมดูแลซึ่งกันและกันไม่ให้มีใครใช้ความรุนแรง
2. รัฐธรรมนูญมาตรา 28 บัญญัติว่า “บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น” ผู้ชุมนุมจึงต้องไม่ใช้วิธีการที่เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น การชุมนุมโดยใช้วิธีการที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนคนอื่นๆ เป็นสิ่งที่รัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้กระทำ ทั้งยังอาจจะนำไปสู่การกระทบกระทั่งกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย
3. สำหรับประชาชนกลุ่มต่างๆซึ่งอาจมีความจุดยืนหรือความเห็นทางการเมืองแตกต่างกับผู้ชุมนุมแต่ก็ควรใช้อดทนอดกลั้น มีสติยับยั้งต้องไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นพลังเงียบต้องติดตามข่าวสารอย่างมีสติ อย่าได้เชื่อข่าวสารที่อาจนำสู่การใช้ความรุนแรงและประชาชนไม่ควรให้ความร่วมมือกับฝ่ายใดก็ตามที่ใช้ความรุนแรง
4 . รัฐบาลและแกนนำผู้ชุมนุมต่างยืนยันว่าจะไม่มีการใช้ความรุนแรง เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ฝ่ายรัฐบาลและแกนนำผู้ชุมนุมจึงควรร่วมมือกันในการป้องกันไม่ให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเริ่มจากผู้ชุมนุม จากเจ้าหน้าที่ หรือจากบุคคลอื่นใด ในกรณีที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นมา ขอให้รัฐบาลและแกนนำการชุมนุมร่วมมือกันคลี่คลายแก้ไขปัญหา โดยขอให้มีการต่อสายตรงถึงกันในการร่วมกันแก้ไขปัญหา
ด้วยเหตุนี้ เครือข่าย “หยุดทำร้ายประเทศไทย – หยุดใช้ความรุนแรง” และกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมต่างๆ ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันแสดงพลังของสังคมไทยในการระงับยับยั้งความรุนแรงไม่ว่าเป็นการกระทำของฝ่ายใดก็ตาม จึงขอเสนอแนวทางป้องกันแก้ไขความรุนแรงด้วยกันร่วมกันรณรงค์ “ไม่เอาความรุนแรง “ ด้วยการใช้สัญลักษณ์ หรือข้อความต่างๆ ที่เป็นสันติวิธี และเป็นการเตือนสติทุกฝ่ายไม่ให้ใช้ความรุนแรง ได้แก่ การใช้ ธงชาติ ติดที่หน้าบ้านหรือที่ทำงาน เพื่อขอให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักว่าเราอยู่ร่วมในประเทศเดียวกัน มีปัญหาต้องแก้ไขโดยไม่ใช้ความรุนแรงซึ่งเป็นการทำร้ายประเทศของเรา หรือใช้ สีขาว ใส่เสื้อขาว ผูกริบบิ้นขาว หรือใช้ ดอกไม้ หรือสัญลักษณ์ใดๆ ที่สื่อถึงสันติภาพ และการไม่ใช้ความรุนแรง และขอเชิญประชาชนที่เห็นด้วยกับ “การไม่เอาความรุนแรง” ร่วมกันรณรงค์ด้วยการส่งข้อความ “ไม่เอาความรุนแรง” ไปยังประชาชนกลุ่มต่างๆเพื่อช่วยกันสร้างพลังของสังคมไทยในการระงับยับยั้งความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในครั้งนี้
10 มีนาคม 2553