แหล่งข่าวในที่ประชุม ครม.กล่าวว่า ครม.ใช้เวลาถึง 45 นาที ในการหารือสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง
โดยนายสุเทพกล่าวตอนหนึ่งว่า แม้สายข่าวจะบอกว่ามีคนมาร่วมชุมนุม 1.5 แสนคน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมากกว่านั้น จึงต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร (อส.) จำนวนมากเข้ามาช่วยดูแล โดยเจ้าหน้าที่จะพกพาเฉพาะโล่และกระบองเท่านั้น ไม่มีอาวุธรุนแรงใดๆ หากมีการทำลายส่วนราชการ หรือมีการทำร้ายร่างกายประชาชน จะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วพร้อมอาวุธครบมือไปยังสถานที่เกิดเหตุทันที
นายสุเทพกล่าวว่า หน่วยงานด้านการข่าวประเมินว่าระยะเปราะบางจะอยู่ช่วงวันที่ 12-13 มีนาคม
ซึ่งมีความพยายามจากพวกหัวรุนแรงกลุ่มเล็กๆ ในการทำให้การกรุงเทพฯ เป็นอัมพาตด้วยการปิดการจราจร ล้อมสถานที่ราชการ และบ้านพักบุคคลสำคัญ รวมถึงบ้านพักของรัฐมนตรีด้วย ที่ร้ายคืออาจมีการก่อวินาศกรรม ขว้างระเบิด เผาสถานที่ราชการ
"ผมอยากเตือนรัฐมนตรีให้ระวังจริงๆ เพราะคนเหล่านี้ไม่ปกติ มีความฮึกเหิมที่จะทำลายบ้านเมือง ดังนั้นขอให้ทุกท่านระวังให้ดี หากรัฐมนตรีท่านใดรู้สึกว่าที่พำนักและบ้านพักไม่ปลอดภัย ก็ขอให้บอกมา ผมจะจัดเซฟเฮาส์ให้" แหล่งข่าวกล่าวอ้างคำพูดนายสุเทพ
นอกจากนี้นายสุเทพยังอ้างถึงข้อมูลจากประชาคมข่าวกรองระดับนานาชาติว่า หลายประเทศมีความเห็นสอดคล้องกันว่ากรณีนี้ไม่น่าจะเป็นการชุมนุมภายใต้ระบอบประชาธิปไตย
และไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมในลักษณะนี้ โดยมีแนวโน้มเข้าข่ายการก่อการร้ายด้วยซ้ำ แหล่งข่าวกล่าวว่า ภายหลังรับฟังบรรยายสรุปจากนายสุเทพเสร็จ บรรดารัฐมนตรีแลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างกว้างขวาง โดยนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอให้วันที่ 12 มีนาคมเป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ โดยนายสุเทพสนับสนุน เพราะเจ้าหน้าที่จะทำงานคล่องตัวขึ้น แต่รัฐมนตรีส่วนใหญ่ เกรงว่าจะเป็นการยกระดับการชุมนุม สุดท้าย ครม. จึงเห็นว่าให้วันที่ 12 มีนาคมเป็นวันเปิดทำการตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุม ครม. นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเดินทางเข้าร่วมประชุมกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ณ ที่ทำการพรรค
ในที่ประชุม นายสุเทพกล่าวตอนหนึ่งว่า เงินที่ใช้ในการจัดการม็อบมีการจ่ายให้ ส.ส.บางคนที่ไว้ใจได้ เพื่อระดมคนเข้ามา นอกจากนี้ ยังเตรียมวางระเบิดจุดใหญ่ 2 จุด และลักษณะดาวกระจายไม่ต่ำกว่า 30-40 จุด แต่เชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยจะใช้วิธีการเจรจาก่อน เมื่อไม่สำเร็จค่อยใช้วิธีการฉีดน้ำ หากไม่เป็นผลจึงจะใช้แก๊สน้ำตา และขั้นตอนสุดท้ายจะใช้กระสุนยาง