สุเทพ สั่งจับตา หวั่นมีบึมซ้ำรอยแบงก์กรุงเทพ

เล็งตัดสินใจใช้กม.ความมั่นคงฯ 8 มี.ค. สั่ง จับตาแผนวินาศกรรมช่วงชุมนุมใหญ่เสื้อแดง พร้อมเตรียมงัดกม.ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนช่วยสกัด...

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (7 มี.ค.) ถึงกรณีการพิจารณาใช้พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อรองรับการชุมนุมใหญ่กลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 14 มี.ค.ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามประเมินสถานการณ์ โดยจะพิจารณาตามความจำเป็นและความเหมาะสม หากใช้กฎหมายปกติได้ก็จะใช้ แต่ถ้ามีเหตุการณ์เกินกว่าการใช้กฎหมายธรรมดาได้ ก็จะตัดสินใจอีกครั้ง โดยในวันที่ 8 มี.ค. จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง และรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ

รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวต่อว่า ในช่วงที่นายกฯเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 13-17 มี.ค. หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น นายกฯก็สามารถเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้ทันที ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะสามารถติดต่อนายกฯได้ตลอดเวลา ส่วนนายกฯ จะเดินทางกลับประเทศไทยเร็วกว่ากำหนดหรือไม่ คงยังไม่ไปถึงขนาดนั้น จะดูตามสถานการณ์ ส่วนเรื่องที่ถามว่าจะมีการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่นั้น ตัวพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ไกลเกินอำนาจหน้าที่ ความสามารถที่เจ้าหน้าที่จะไปติดตามได้ แต่พวกลูกน้องบริวารที่เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศ จะต้องจับตามอง

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่คตม.รายงานว่า อาจมีการก่อวินาศกรรมในการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงนั้น กำลังตรวจสอบข่าวนี้อยู่ ขณะที่คนขว้างระเบิด เมื่อวันที่ 27 ก.พ. เราก็กำลังติดตามจับกุมตัวอยู่ คาดว่าภายใน 1-2 วัน น่าจะเรียนให้ทุกคนทราบได้ โดยเท่าที่พอจับได้ในขณะนี้คือ การดำเนินการเคลื่อนไหวมีการสอดประสานกันหลายแนวทาง ส่วนหนึ่งเป็นการชุมนุมตามปกติ แต่บางส่วนก็คิดทำเรื่องอื่น ทั้งนี้เหมือนเหตุการณ์คืนวันที่ 27 ก.พ. คือมีพวกหนึ่งมาชุมนุมตามปกติ แต่อีกพวกไปก่อวินาศกรรม

รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีการขโมยอาวุธจากคลังแสงในค่ายทหารอภัยบริรักษณ์ จ.พัทลุง ว่า ยังไม่ได้รับรายงานจากแม่ทัพภาค 4 และไม่ทราบว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มใด แต่ถ้ามีกลุ่มใดที่สะสมอาวุธที่เป็นอันตรายต่อบ้านเมือง ก็ต้องติดตาม เพื่อป้องกันเหตุร้าย ถ้าเราจับกุมอาวุธร้ายแรงที่เขาสะสมไว้ตามที่ต่างๆ ได้ ก็จะทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น คงต้องสอบสวนกันต่อไปว่า อาวุธที่หายไป จะเชื่อมโยงกับความเคลื่อนไหวในสถานการณ์การเมืองหรือไม่ แต่จะมีการก่อวินาศกรรมในการชุมนุมหรือไม่ ยังไม่ได้วิเคราะห์ลงไปถึงขนาดนั้น

นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 8 มี.ค. จะเรียกประชุมข้าราชการกทม.ทุกระดับ เพื่อพิจารณาการใช้กฎหมายป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของกทม. เพราะถ้าเห็นว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นอันตรายหรือทำให้เกิดปัญหาต่อคนกทม. ก็สามารถนำกฎหมายนี้มาใช้ได้ เพื่อมาดูแลความปลอดภัยในกทม. โดยมีผู้ว่าฯกทม.เป็นผู้ควบคุมดูแลพื้นที่