"ทักษิณ"บ่นถูกอำมาตย์ประชุมร่วมกับตุลาการระดับสูงโค่นอำนาจ ระบุ ปชป.-พธม.กอด รธน.ไว้คุ้มครองคณะปฏิวัติให้ต่อเนื่องเก็บไว้จัดการเสื้อแดง โต้"กรณ์"พ่อก็ขายหุ้นไม่เสียภาษีเหมือนกัน ย้ำอีกเตรียมฟ้องเวทีโลก เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 4 มีนาคม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าววิดีโอลิงก์ ถ่ายทอดสดผ่านสถานี "พีเพิลชาแนล" ของคนเสื้อแดง "พล.อ.สุรยุทธ์ บอกว่าได้ร่วมกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไปกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าจะทำงานถวายพระองค์ด้วยการกำจัดผม กระบวนการศาลถูกจัดตั้งตั้งแต่วันนั้น ทั้งปฏิวัติ ลอบ สังหารและคำพิพากษา พล.อ.สุรยุทธ์เป็นนักวางแผน วางแผนเก่ง จนเป็นที่มาที่มีทั้งระเบิดและพยายามบอกว่าเป็นคาร์บ๊อง " พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
ในสัปดาห์หน้าจะพูดเฉพาะวันอังคารเหมือนเช่นที่ผ่านมาก่อนจะกล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองว่า การปฏิวัติยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แค่เปลี่ยนตัวนักแสดงแต่คนชักใยยังเป็นคนเดิม เพราะอำนาจคำสั่งคุ้มครองคณะปฏิวัติยังอยู่ในรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 39 อ้างถึงรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2549 เป็นการคุ้มครองอำนาจเผด็จการ เพราะได้รับคำสั่งจากอำมาตย์ ที่ปกป้องอีกฝ่ายไว้ชัดเจนเพียงแค่การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงรูปแบบเท่านั้นเอง
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้ยกกรณีที่พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)
ออกมาระบุว่ามีการประชุมเพื่อทำการปฏิวัติ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2549 ที่บ้าน นายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พบกับตุลาการระดับสูงเพื่อวางแผนโค่นล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 พร้อมกับนายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา นายจรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายปราโมทย์ นาครทรรพ
ทักษิณซัดกลับกรณ์พ่อขายหุ้นไม่เสียภาษีท้าถามเนวินจวกอำมาตย์ ร่วมมือตุลาการวางแผนโค่น
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญ ม. 309
เพราะต้องการที่จะมีอำนาจจัดการต่อ ดำเนินการจนกว่าไม่มีเสื้อแดง ฉะนั้นอย้างหวังจะได้เห็นความสงบเกิดขึ้นกับประเทศเลย เพราะคำๆเดียวคือความไม่ยุติธรรมโกหกไปเรื่อย แต่วันนี้เปลี่ยนไปแล้วบ้านเมืองจะจัดการได้ง่ายๆอย่างในอดีตคงไม่ได้แล้ว เพราะประชาชนรับรู้มากขึ้นทุกวันไม่ยอมให้ใช้วิธีการแบบเดิมรังแกต่อไปอีกแล้ว
ผมคิดว่าวันนี้ผมคงจะเป็นโจทก์ที่ประชาชนถูกปล้นอำนาจ โดยมีตนตัวแทนไป แต่โจทก์กลับเป็นจำเลย ขณะที่โจรทำผิดกฎหมาย และเอาตัวเองเป็นกฎหมาย ผู้เสียหายกลับเป็นจำเลย
"วันนี้ผมเจอเพื่อนฝรั่ง เขาถามว่าทำไมเขามีหลักเกณฑ์ความคิดอย่างไร ที่เอาเงินส่วนต่างราคาหุ้นจากวันที่ผมเข้าเป็นนายกฯ ถามว่าหุ้นตัวอื่นไม่ขึ้นหรือ หุ้นซีพีก็ขึ้น หุ้นเอเอสทีวีก็ขึ้น หุ้นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ อย่างธนาคารไทยพาณิชย์ก็ขึ้น หุ้นกลุ่มนายทุนก็ขึ้น ถามว่าหุ้นขึ้นตามดัชนีไหม บางตัวขึ้นสูงกว่าดัชนีด้วยซ้ำ ทำไมไม่ยึดหมด คนบางคนไม่ได้เป็นนายกฯ แต่มีอำนาจสั่งการเหนือนายกฯ สั่งการเหมือนหนังตะลุง ทำไมไม่ยึด"
อดีตนายกฯ กล่าวว่า ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน คิดว่าศาลตั้งโดยคณะปฏิวัติ วันนี้จึงเป็นไปตามคณะปฏิวัติ
เขาบอกว่าอย่างนี้สามารถนำคดีเข้าสู่การพิจารณาระดับสากลได้ แต่ตนบอกตนเป็นคนไทย บอกไม่รู้ว่าความเป็นธรรม ยังเหลือไหม ถ้าไม่เหลือแล้วตนจะเอาความเป็นธรรมสู่สากล ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้ทุกอย่างในประเทศไทยล้าหลัง ทุกคนลงในประเทศก็เจ็บปวด อยากเปลี่ยนกฎก็เปลี่ยน สิ่งที่ผมจะโดนมีปัญหาตามมาอีกเยอะ ถูกทำโดยคนมีอารมณ์อยากจัดการอะไรบางอย่าง
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณีนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คระบุถ้าเป็นตนจะตัดสินยึดทรัพย์ทั้งหมด ว่า "วันนี้นายกรณ์บอกถ้าเป็นผม จะยึดให้หมด แต่ตอนพ่อนายกรณ์ขายหุ้นเจเอฟธนาคม (บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เจเอฟธนาคม กว่า 6 ล้านหุ้น เมื่อปี 2543) พ่อนายกรณ์ก็ไม่ได้เสียภาษี มีการรายงานมา ไม่เชื่อลองถามเนวิน (ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน) แต่วันนี้เป็นพวกเดียวกันแล้ว"